วันนี้ว่างงานแฮะ


ได้อ่านหนังสือเยอะเลย

วันที่ 14 พฤษภาคม 2550

วันนี้เป็นวันแรกของสัปดาห์ที่สอง ชีวิตก็ดำเนินไปตามปกติ ผมมีนัดกับที่หน่วยว่า วันนี้เวลา 8 โมงเช้า Dr Arther Tseng จะคุยเรื่องการ round ผมกินกาแฟ ขนมปังและไข่ลวงเหมือนเดิม วันนี้เขาลวงได้สวยและน่ากินกว่าวันก่อนมากเชียว กินไข่ขาว 2 ฟอง ไข่แดง 1 ฟอง พอดีกับที่ท่านพี่ Shukiman เดินมา เลยนั่งกินและคุยด้วยกัน

               

8 โมงตรงเป๊ะ Dr Tseng ก็มานั่งคุยกลุ่มย่อยเลย เรามีกันทั้งหมด 5 คน มีหมอผู้หญิงอีก 2 คนคือ Jasmin ซึ่งกำลังเรียนต่อ (แบบไหนก็ไม่รู้) เธอต้องหมุนเวียนผ่านหน่วยต่างๆครั้งละ 3 เดือน และอีกคนผมจำชื่อไม่ได้สักที มาเพื่อทำวิจัยโดยเฉพาะ Dr Tseng บอกพวกเราว่า Dr Han ต้องการให้การทำงานที่นี่คล้ายกับโรงพยาบาลในมหาวิทยาลัย การ round ต้องเอาจริงเอาจัง ผมซึ่งเป็นน้องใหม่สุดต้องรายงานโดยตรงต่อหัวหน้า ซึ่งก็คือคุณพี่ Shukiman ในขณะนี้ เราต้องรู้จักผู้ป่วยทุกราย รู้ว่าเป็นโรคอะไร รักษาอะไร ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดคืออะไร เค้าก็บอกว่าผมอาจจะเบื่อนะ เพราะรู้ว่าผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แถมยังงงเล็กน้อยเมื่อผมบอกว่าสามารถผ่าตัดผ่านกล้องได้ Shukiman บอกว่า Dr Han คงชอบเพราะเวลาผ่าตัดส่องกล้อง (คนไข้ VIP) จะได้ไมม่ต้องตามทีม laparoscopist ของที่นี่ (สงสัยไม่อยากแบ่งเงิน ฮา)

               

ประชุมกลุ่มย่อยเสร็จก็แยกย้ายไป round ผมก็เดินตาม Shukiman ไปที่ ward ชั้น 6 ซึ่งเป็นคนไข้ที่จ่ายเงินเอง และมีคนไข้ของหน่วยเพียง 1 คนเท่านั้น ผมล่ะงงกับการเขียน chart ของเขาจริงๆ ดูยังไงก็ยังคงไม่รู้เรื่อง แล้วแต่ละคนผมก็อ่านลายมือไม่ออกเลย นี่อาจจะเป็นตัวบอกว่า คอมพิวเตอร์สามารถลดข้อด้อยตรงนี้ลงได้

               

วันนี้ Dr Han ไม่อยู่ เนื่องจากติดประชุม เลยว่างงานเลย คลินิกก็จะไม่มีคนไข้ ผมจึงกลับไปนั่งที่สำนักงาน Judy เอาป้ายชื่อมาให้ ผมก็เอาบัตรผ่านเข้าออกเสียบลงไปด้วย แค่นี้ก็หล่อแล้ว นั่งเปิด mail สักพัก เมื่อไม่มีอะไรทำจริงๆก็ลงไปกินข้าวเที่ยง (ตอน 11 โมง) เพราะว่าจะกลับหอพักแล้ว ไปทำงาน อ่านหนังสือดีกว่า

               

วันนี้อ่านหนังสือไปได้เยอะ นี่ถ้าอยู่ที่บ้านคงไม่ได้อ่านมากขนาดนี้ เพราะว่าคุณจ้าเจ้าตัวเล็กเธอจะมาเล่นกับผมตลอดเลย จะนอนยังไม่ได้นอนเลย ผมนั่งๆนอนๆจนเย็นจึงออกไปเดินเล่น กะว่าจะไปหาของกินด้วย อยู่ที่ SIC มาตั้งนาน ยังไม่รู้เลยว่ารอบๆข้างเป็นอย่างไรบ้าง เดินอยู่นานเป็นชั่วโมงเลยครับ อากาศดีมาก ย่านที่อยู่นี้เป็นย่านคนรวย มีโรงเรียนเอกชนอยู่อย่างน้อย 2 แห่ง บ้านที่ปลูกนั้นดูโอ่อ่าเกือบทุกหลัง เห็นคนใช้ที่เป็นคนต่างชาติเยอะมาก หน้าตาเหมือนไทยหรือฟิลิปปินส์นี่เอง ผมได้พบ supermarket ริมถนน Bukit Timah เลยแวะเข้าหาของกิน ก็ได้ขนมปัง 1 ชิ้น นมถั่วเหลือง 1 กล่องสำหรับมื้อเย็น ได้แอปเปิ้ลไปอีก 3 ลูก ก็ปาเข้าไป 3.4 เหรียญ คืนนี้รอดตายไปอีก 1 มื้อ

               

ผมวางแผนจะกลับบ้านวันศุกร์ เนื่องจากมีรถทัวร์เที่ยว 6 โมงเย็น ก่อนหน้านี้อยากกลับเครื่องบินของ Tiger Air แต่เนื่องจากมันบินวันละเที่ยว และออกเวลาบ่าย 2 โมงด้วย งานยังไม่เลิกเลย แต่ไม่เป็นไร อยู่ไปสักพักคงหาทางได้สิน่า ผมได้คิดเมนูอาหารไว้แล้วว่าจะไปกินอะไรที่บ้านบ้าง แล้วค่อยเล่าให้ฟัง
หมายเลขบันทึก: 96180เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2007 19:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 11:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
เอาใจช่วยให้ถึงวันศุกร์เร็วๆค่ะ

ศุกร์ไหนครับ

ผมกลับ ศุกร์ ๑๘ แต่ไปกรุงเทพฯก่อน 

ศุกร์เดียวกับท่านนั่นแหละครับ แต่ผมไปรถ ท่านไปกับเครื่องบินตราเสือ คนละเกรดกันเลยครับ อย่างท่านถ้าเป็นคนไข้ในสิงคโปร์ถือว่าเกรด B1 ส่วนผม C ครับ

ถ้าซื้อที่ไทยก็ตกราว 23 บาท

แต่เนื่องจากบาทของเรามีค่าแข็งเมื่ออยู่ต่างเทศ มันจึงเป็น 22 บาท

วันี้ผมเอาเงินไทยไปซื้อ Sing Dollar  20000 บาท ได้มา 880 เหรียญ ก็จะซื้อได้มากกว่าที่เมืองไทยราว 800 บาทครับ

  • ของกินที่โน่นแพงนะคะ...โดยเฉพาะที่เซ็นโตซา   ครูอ้อยไปไหนมาไหนต้องพกน้ำดื่มไปด้วยค่ะ

วันศุกร์กลับมาบ้านหรือคะ..ยินดี..ดีใจด้วยค่ะ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากลับไปแล้วครับ อายเหมือนกันที่จะบอกคนอื่นๆว่า มาอยู่ได้ 3 สัปดาห์ กลับบ้านไป 2 ครั้งแล้ว

แต่ลูกๆชอบครับ

ผมคิดอย่างนี้ครับ : ช่วงแรกนี้กลับบ่อย เพราะต้องให้ลูกได้มีโอกาสปรับตัว (ข้ออ้างของคนอยกกลับบ้าน ฟังดูคล้ายๆกับข้ออ้างของคนอ้วย หรือคนกลับบ้านดึกไหมครับ)

อีกอย่างเดือนหน้า ผมจะต้องผ่าตัดวันศุกร์บ่าย ซึ่งส่วนมากจะเสร็จราวๆ 2 ทุ่มครับ นั่นหมายความว่า กลับด้วบรถทัวร์ไม่ทัน ต้องไปกับเครื่องบินตราเสือในวันเสาร์ จึงมีโอกาสอยู่กับครอบครัวน้อยลงไปราวๆ 6 ชั่วโมงครับ

เรื่อง sentosa ที่อาจารย์ว่าของแพงนั้น ไม่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นรื่องดูดเงินคนต่างชาติไงครับ (มันไม่ใช่เกาะ) ดังนั้น ถึงตอนนี้ผมจึงยังไม่ได้ย่างไป รอให้ครอบครัวมาเที่ยวก่อน แล้วค่อยไปทีเดียว ครั้งเดียวก็เกินพอ

เรื่องน้ำดื่ม จนบัดนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ที่จะกินจากก๊อกน้ำ จึงยังต้องซื้อแบที่ใส่ขวดมาดื่มเอา อีกวิธีหนึ่งที่ดีคือ เอากระติกเก็บอุณหภูมิติดไปโรงพยาบาล แล้วรินน้ำร้อนมาใส่เก็บไว้ 2 วันยังไม่เย็นเลยครับ เวลาตรวจคนไข้ ผมต้องรินใส่ฝาไว้ก่อน จากนั้นค่อยๆจิบเอา รันทดไหมครับ

เรื่องรันทดนี่สอนผมหลายอย่างมาก ดีที่เป็นคนจำพวกถึก จึงทนได้ทุกเรื่อง (ยกเว้นคิดถึงลูก เมีย) เป็นประเภท positive thinking ครับ ฉะนั้นอยู่ได้ รัดทนก็แค่นั้นครับ

วันนี้เขียนมากถูกใจอาจารย์หรือยังครับ

ถูกใจมากๆค่ะ..รู้สึก  Closed Up! ค่ะ..ขอบคุณค่ะ

ขอเปลี่ยนจากอาจารย์เป็น..ครูอ้อยค่ะ..จะได้  Absolutly closed up. 8

เขียนผิดไปเยอะเลยครับ ต้องขออภัยคุณครูด้วย อย่าดุก็แล้วกัน

แก้ไข: คนอ้วน ไม่ใช่คนอ้วย

           กลับด้วยรถทัวร์ ไม่ใช่กลับด้วบ

           เครื่องดูดเงิน ไม่ใช่ รื่องดูดเงิน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท