กิจกรรมสร้างรอยยิ้ม


การสร้างความหวังให้เกิดกับคนที่สิ้นหวัง ถือเป็นสิ่งที่ช่วยต่อแสงแห่งชีวิต แต่ถ้าความหวังนั้นไม่ใช่ของจริง แสงแห่งชีวิตคงมอดลงเร็วกว่าเดิม
      วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การเดินทางไปเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาลอย่างยิ่ง ฉันและน้องๆอาสาสมัครเดินทางไปโรงพยาบาลเด็กด้วยจิตใจที่เบิกบานพร้อมเต็มที่กับการไปสร้างความสุขให้กับเด็กป่วย กิจกรรมที่ฉันเตรียมไปทำกับเด็กๆก็จะมี ภาพระบายสีเหมือนเช่นเคย เพราะเด็กค่อนข้างชอบ มีตัวต่อเลโก้มาเพิ่มความสนุก และเพิ่มเติมด้วยการเล่านิทานและเล่นตุ๊กตากระดาษ ซึ่งใช้สำหรับเด็กที่ไม่สามารถลงจากเตียงได้ เด็กจะชอบมาก เพราะได้เล่นแต่งตัวตุ๊กตา ได้พูดคุยกับตุ๊กตา ซึ่งช่วยทำให้เด็กมีจิตใจที่เบิกบาน แจ่มใสขึ้นได้ วันนี้เด็กในวอร์ดมีค่อนข้างน้อย อาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันหยุดด้วยละมั้งเลยทำให้บรรยากาศดูเงียบเหงา แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นของผู้ปกครองที่พากันมาเยี่ยมเด็กป่วย เนื่องจากได้หยุดงานกัน
     ฉันเดินแวะทักทายพี่ๆเจ้าหน้าที่ทุกคนเหมือนเช่นทุกครั้ง พี่ๆที่เคยเจอกันแล้วก็จะยิ้มทักทายตอบและต้อนรับเป็นอย่างดี แต่บางคนที่ไม่เคยเจอกับอาสาสมัครก็จะไม่ยิ้มทักทายด้วย อาจเพราะยังไม่เข้าใจละมั้งว่าพวกฉันที่เป็นอาสาสมัครมาทำอะไรที่นี้ ยังไม่เกิดความคุ้นเคยกัน ส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกันก็จะเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ซะส่วนใหญ่ แต่ฉันว่าอาสาสมัครอย่างพวกฉันคงจะผ่านตรงนี้ไปได้ไม่อยาก แต่คงต้องใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคยและความไว้ใจเสียก่อน จากนั้นฉันก็เดินไปชักชวนเด็กๆและผู้ปกครองตามเตียงเพื่อมาร่วมทำกิจกรรมกับอาสาสมัคร เด็กๆให้ความสนใจกับกิจกรรมที่อาสาสมัครเตรียมมาอย่างมาก เด็กที่สามารถลงจากเตียงได้ก็จะทยอยกันไปในห้องสันทนาการที่อาสาสมัครเตรียมอุปกรณ์ไว้ เด็กบางคนยังไม่ค่อยกล้ามาเล่นคนเดียวก็จะชักชวนให้ผู้ปกครองมานั่งเฝ้าด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่ฉันเห็นผู้ปกครองก็จะปล่อยให้เด็กๆมาทำกิจกรรมกับอาสาสมัครตามลำพัง อาจแวะเวียนมาดูเป็นครั้งคราว เนื่องจากผู้ปกครองกับเด็กบางคนเคยได้ทำกิจกรรมกับอาสาสมัครมาบ้างแล้ว จึงเกิดความคุ้นเคยกัน
     หนึ่งเตียงกับบรรยากาศเหงา ระหว่างที่ฉันเดินไปรับเด็กคนหนึ่งจากเตียงสายตาก็หันไปเห็นเด็กคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องเพียงเตียงเดียว โดยมีสายให้ยาเสียบอยู่ที่แขนและมีผู้ปกครองนั่งเฝ้าอยู่คนหนึ่ง ฉันดูบรรยากาศในห้องแล้วมันช่างเงียบเหงา ปราศจากสิ่งสดใสโดยสิ้นเชิง เพราะน้องนอนอยู่แค่เตียงเดียว ไม่มีเพื่อนเตียงข้างๆเลย ฉันเห็นน้องนอนมองเพดานอยู่อย่างนั้นตั้งนานแล้ว เพราะไม่มีอะไรจะทำนั่นเอง ฉันจึงเดินเข้าไปทักทายเด็กกับผู้ปกครอง เพื่อชวนไปทำกิจกรรมด้วยกัน เด็กมีความสนใจมากเมื่อเห็นฉันเดินเข้าไปทักทายและชวนทำกิจกรรม ผู้ปกครองเองก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ติดอยู่ที่สายยาที่ให้นี่แหละว่าจะสามารถพาไปที่ห้องสันทนาการได้รึเปล่า ฉันจึงอาสาที่จะไปถามพยาบาลให้ว่าสามารถพาน้องไปทำกิจกรรมได้มั้ย ผลปรากฎว่าได้ เด็กค่อนข้างดีใจ และต้องขอบคุณพี่พยาบาลคนนั้นมากเลย เพราะมาช่วยถอดสายออกจากปลั๊กไฟให้และช่วยพาน้องไปส่งให้ที่ห้องสันทนาการ เด็กคนนี้ชื่อน้องแนน น้องแนนจะยังไม่ค่อยกล้าพูดคุยด้วย แต่ตอบนรับการทำกิจกรรมกับอาสาสมัครเป็นอย่างดี แม้จะไม่ค่อยพูด แต่น้องแนนก็จะยิ้มรับน้อยๆเวลาอาสาสมัครหยิบยื่นกิจกรรมให้เสมอ อาจเป็นเพราะน้องแนนเป็นเด็กโตแล้วก็ได้จึงไม่ค่อยกล้าพูดคุยด้วยนัก ฉันสังเกตเห็นว่าน้องแนนจะชอบทั้งการวาดรูปและการระบายสีภาพ เพราะน้องแนนจะเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างสวยงามและจะใช้ความพิถีพิถันกับภาพๆหนึ่งค่อนข้างนาน พอเสร็จหนึ่งรูป ก็จะต่ออีกหนึ่งรูป จนหมดเวลา ฉันถามน้องแนนว่าอยากวาดรูป ระบายสีอีกรึเปล่า น้องแนนพยักหน้าแทนคำตอบ ฉันจึงทิ้งกระดาษและสีไว้ให้น้องแนนได้วาดภาพและระบายสีตามใจชอบ ในเวลาที่รู้สึกเหงาๆ เพื่อจะได้เกิดความเพลิดเพลินและเกิดความสุขเล็กๆขึ้นกับน้องแนนในบรรยากาศของห้องที่ดูเหงาๆ
     น้องใบเฟิร์นเริ่มร่าเริง วันนี้น้องเฟิร์นดูแข็งแรงขึ้นกว่าครั้งก่อน เริ่มยิ้ม หัวเราะได้แล้ว ดูอาการดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถลงจากเตียงได้เหมือนเดิม เพราะต้องให้ยาและเจาะท้องอยู่ น้องเฟิร์นบอกกับฉันว่าวันนี้แม่ใจจะมาหา เลยทำให้อารมณ์ดี แต่ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกว่าแม่ใจของน้องเฟิร์นจะมาจริงๆรึเปล่า เพราะอาจมีใครสักคนที่หวังดีแกล้งบอกให้น้องเฟิร์นอารมณ์ดีว่าแม่ใจจะมาหาก็ได้ เพราะฉันเคยเห็นน้องใบเฟิร์นรอแม่ใจเก้อมาแล้ว วันนี้น้องอาสาสมัครได้เอานิทานมาเล่าให้น้องเฟิร์นฟัง ดูเหมือนน้องเฟิร์นจะชอบเสียด้วย น้องเฟิร์นจะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยสามารถทำกิจกรรมได้เต็มที่ เนื่องจากตัวเล็กและแรงไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่อาสาสมัครจะเล่านิทานให้ฟัง ชวนพูดคุย และอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สามารถทำให้น้องเฟิร์นมีความสุขได้ เพราะน้องเฟิร์นต้องการคนที่อยู่ข้างๆตลอดเวลามากกว่าการทำกิจกรรมอย่างอื่นเสียอีก ฉันคุยกับน้องเฟิร์นได้สักพัก น้องเฟิร์นก็เริ่มบ่นหิว แต่หมอยังไม่ให้กินอะไรนอกจากนมเท่านั้น ฉันเลยไปถามพยาบาลว่าน้องเฟิร์นสามารถกินลูกอมได้มั้ย พยาบาลบอกว่า ได้ ฉันจึงเอาลูกอมออกมาจากกระเป๋าพอน้องเฟิร์นเห็น ก็เริ่มออกอาการยิ้มแบบกรุ้มกริ่ม ประมาณว่าได้ของกินแล้ว ฉันกับอาสาสมัครคนอื่นเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ เพราะภาพที่เห็นมันดูน่ารัก น่าหยิกจริงๆ
    สิ่งที่ฉันสังเกตได้สำหรับวันนี้คือ เด็กค่อนข้างสนุกกับกิจกรรมและสนุกกับการพูดคุยกับอาสาสมัคร แต่ความสนุกต้องหยุดลงเป็นบางช่วง เพราะเด็กบางคนหมอมาตามตัวให้ไปตรวจอาการบ้าง กินยาบ้าง เอ๊กซเรย์บ้าง ดูแล้ววุ่นวายนิดหน่อย ทำให้ความสนุกของเด็กที่กำลังเริ่มขึ้นต้องลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากสีหน้า แต่ก็ไม่มีใครงอแง เพราะเข้าใจว่าต้องรักษาถึงจะหาย พอหมอตรวจเสร็จเด็กบางคนก็กลับมาเล่นกิจกรรมเหมือนเดิม  แต่บางคนก็กลับเตียงไปเลย มีอยู่กรณีหนึ่งสำหรับผู้ปกครองเด็กที่ไม่ยอมให้เด็กมาร่วมทำกิจกรรมกับอาสาสมัครด้วย เหตุผลจากความห่วงใยของผู้ปกครองคือ กลัวว่าเด็กจะเหนื่อย ซึ่งผู้ปกครองก็ไม่ได้ปิดกั้นอาสาสมัครนะ แต่แค่กลัวว่าเด็กจะเหนื่อยเท่านั้นจึงไม่อยากให้ทำอะไร ซึ่งฉันก็พอเข้าใจถึงความห่วงใยนั้น แต่ในความคิดของฉัน รู้สึกว่าการที่ไม่ให้เด็กทำอะไรเลยนั้นแหละที่จะทำให้เด็กเหนื่อย คือเหนื่อยใจ เพราะจิตใจไม่ได้สัมผัสกับสิ่งแปลกใหม่เลย นอกจากการนอน นั่งอยู่บนเตียงเท่านั้น ฉันคิดว่าการมีผู้ปกครองมาอยู่ข้างๆก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่การลองทำสิ่งใหม่ๆ ลองพูดคุยกับคนรอบข้างบ้าง ก็อาจทำให้จิตใจเบิกบานขึ้นได้ หากเด็กเหนื่อยก็พักได้ การชว
หมายเลขบันทึก: 95384เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2007 14:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท