อาสาสมัครตัวน้อย ใน รพ.


ไม่ว่าจะวัยไหน ก็ล้วนแต่ต้องการสังคม การเสวนา การแชร์ความคิดความรู้สึกกัน

จากการห่างหายไปนานในการลงพื้นที่ อาสาสมัครใน รพ. เนื่องด้วยภาระกิจที่ต้องทำและประกอบกับติดงานหลายๆ อย่าง ทำให้ไม่ได้ลงพื้นที่ไปเป็นอาทิตย์ ก็คิดถึงน้อง ๆ เหมือนกันนะ อยากบอกน้อง ๆ เด็กป่วยว่าพี่ก็คิดถึงเหมือนกันจ้า วันนี้เลยกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะลงพื้นที่ในวันนี้

ไปถึงตึกเด็กป่วยวันนี้ดูเงียบผิดปกติ อ้อลืมไปว่าวันนี้วันหยุดนี่นา พยาบาลก็มีไม่เยอะ ดูตึกเงียบๆ ทำให้รู้สึกความเหงาผ่านขั้วหัวใจอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศอึมครึม เพราะอากาศข้างนอกทำท่าเหมือนฝนจะตกส่งผลให้บริเวณตึกบรรยากาศเหงาไปทันตา

ตอนเดินเข้าไปในตึกเราพยายามมองหาเด็ก ๆ และเชิญชวนมาทำกิจกรรม วันนี้เด็กป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กที่โตพอสามารถลงมาทำกิจกรรมห้องสันทนาการ เรารู้สึกดีมากเลยเพราะจากการที่เรามาทำกิจกรรมได้ประมาณหนึ่งเดือนแล้ว เรามีอาสาสมัครตัวน้อยมาเป็นผู้ช่วยเรา ซึ่งก็คือน้องติ๊กเด็กป่วยด้วยโรคหัวใจประจำตึกนี้นั้นเอง น้องติ๊กวันนี้กับวันที่เราเจอครั้งแรกแตกต่างออกไป น้องมีร้อยยิ้มบนใบหน้าที่มองแล้วทำให้คนพบเห็นพองโต ราวกับว่าโลกนี้ช่างสดใส  น้องจะรอคอยวันที่เรามาทำกิจกรรมอย่างใจจดจ่อ วันไหนที่เราไม่มาทำกิจกรรมน้องก็จะขอพวกรูปภาพ การสอนเสริมทักษะ น้องจะขอเอาไปทำวันที่เราไม่ได้ไป น้องบอกว่าชอบเพลินดี

เราแอบถามน้องติ๊กว่า รู้สึกไงบ้างที่พวกพี่มาทำกิจกรรม

น้องติ๊ก : “หนูชอบ สนุกดี ไม่เบื่อ มีอะไรให้หนูทำด้วย

อาสาสมัคร : “แล้วติ๊กอยากให้พี่มาทำกิจกรรม อะไรดี ที่ติ๊กชอบ

น้องติ๊ก : “หนูอยากอ่านหนังสือ หนูอยากเป็นคุณครู พ่อบอกหนูจะมาหาตั้งสามวันแล้ว ยังไม่มาเลย หนูนอนคนเดียวมาสามคืนแล้ว (สีหน้าน้องเปลี่ยนไปทันที)

อาสาสมัคร : “ไม่เป็นไรหรอก น้องติ๊กเ ก่ง จะตาย โตแล้ว อยู่คนเดียวได้ เดี่ยวพ่อก็มา พ่อทำงานอยู่  น้องติ๊กเลยยิ้มออก เพราะเราบอกว่าน้องเป็นคนเก่ง

บทสนทนานี้มันทำให้รู้ว่าน้องนะเหงาจิง ๆ เพราะเตียงข้าง ๆ มีแม่มาเฝ้า มาคอยดูแล แต่สำหรับน้องแล้วไม่มี กับการมาทำกิจกรรมนั้นทำให้น้องหายเหงาไปได้บ้าง อย่างน้อยก็มีกิจกรรมทำ ไม่ให้คิดถึงครอบครัวไปมากกว่านี้  อย่างที่บอกไว้ตอนต้นเรามีน้องติ๊กเป็น อาสาสมัครตัวน้อย น้องไปชวนเพื่อนภายในตึกมาทำกิจกรรมซึ่งมันก็ได้ผลดีเลยที่เดียว น้อง ๆ เด็กป่วยคนอื่นจะเชื่อใจเด็กป่วยด้วยกัน มากกว่าที่เราไปชวน เพราะเห็นว่าเพื่อนนั้นสามารถเล่นได้ทำได้แล้วมีความสุข เด็กพวกนั้นก็อยากทำตาม วันนี้เราเลยได้สมาชิกเยอะเป็นพิเศษ

น้องตะวัน : เด็กป่วยที่เราเคยเจอแล้วแต่ตอนนั้นที่ตึกโรคกระดูก เข้าไปคุยกับตะวัน ว่าทำกิจกรรมไหม ระบายสีไหม น้องตะวันบอกว่าเอา หนูชอบวาดภาพ ไอ้เข้ เราฟังแล้วก็อดขำไม่ได้ น้องชอบจระเข้  ตะวันบอกว่า หนูเบื่อ” “หนูไม่มีไรทำ หนูชอบนะ พี่คนอื่นไม่มาเหรอ เราบอกไปว่ามาแต่กระจายไปตามตึกต่าง ๆ ส่วนพ่อของตะวัน ครั้งนี้ที่เจอจะให้การตอบรับดี เพราะเราเคยเจอกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว เราคุยเล่นกับน้องสักพัก พ่อของน้องก็เดินไปไหนไม่รู้ ปล่อยให้เราอยู่กับน้องสองคน เรางงนิดหน่อย แต่ก็คิดในใจว่า พ่อ คงไว้ใจเราปล่อยให้เราดูน้องและดูแลเป็นเพื่อนเล่นกัน จุดนี้ก็เข้าทางเราเลย เพราะเราเข้าไปก็เพื่อช่วยลดภาระบางส่วนของีผู้ปกครองบ้าง ในการเปลี่ยนสภาวะแวดล้อมข้าง ๆ บ้างออกไปข้างนอก ไปเจอสิ่งอื่นบ้าง จะได้รู้สึกผ่อนคลาย

อีกมุมหนึ่งในห้องสันทนาการมีเด็กทำกิจกรรมกันหลายคนที่เดียว น้อง ๆ ตั้งวงสนทนากั นในการทำกิจกรรม จะเอาสีนั้น สีนี้ไม่สวย ของตัวเองไม่เห็นสวยไหม ของเขาสวยกว่า” “ดูของเขาสิวาดเป็นมะเขือเทศน้อง แต่ละคนสนทนา แลกเปลี่ยนมุมมองกัน จะต่างกํนก็ตรงที่เป็นเด็ก แต่เด็กก็จะมีมุมมองของเด็กที่ต่างอกไปจากผู้ใหญ่ ความน่ารัก ความสดใส  ไม่ว่าจะวัยไหน ก็ล้วนแต่ต้องการสังคม การเสวนา การแชร์ความคิดความรู้สึกกัน

น้องโฟล์ก : เด็กแสนซนของเราวันนี้ เจ็ปปวดจากความเจ็บป่วยมากจนไม่สามารถที่จะทำกิจกรรมอะไรได้เลยนอกจากนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ร้องแต่อยากจะกลับบ้าน แม่ของน้องก็ไม่รู้จะทำอะไร เราก็ไม่รู้จะทำอะไร ได้แต่ชวนน้องพูดคุย น้องก็นิ่งฟังเราแป๊ปหนึ่ง ก็ร้องต่อ เรารู้ว่าน้องเจ็บมากจนไม่อยากจะทำอะไร เราคิดแต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้น้องลืมอาการเจ็บนั้นไปบ้าง การที่คนเราเจ็บจนไม่รู้จะทำอะไร มันทุกข์น่าดูเหมือนกัน ขอส่งแรงใจไปถึงแม่น้อง และตัวน้องโฟล์กค่ะ ถึงแม้จะช่วยอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ แต่เรายิ้มให้แม่น้อง พูดคุยกับแม่ของน้อง แม่น้องโฟล์กก็มีช่วงเวลาที่ยิ้ม และคลายบ้างเมื่อได้พูดคุยให้คนอื่นรับรู้ความทุกข์ที่เผชิญอยู่

วันนี้ได้เรียนรู้หลายอย่าง เรียนรู้เรื่อง อาสาสมัครตัวน้อยจาก น้องเด็กป่วยเอง การต้องการสังคมที่รับรู้ การนึกคิด ความรู้สึกที่เหมือนกัน ความเจ็บปวดมากจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ก็มีสิ่งเล็ก ๆ ให้มองเห็น ให้คิด ให้กระทำ ขอบคุณสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นแรงผลักดันให้ดำเนินต่อไป เพื่อเป็นแรงขับสิ่งที่ใหญ่ในอนาคต
หมายเลขบันทึก: 94999เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2007 13:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ดีจัง 

ขออนุญาตนำไปโพสต์ต่อใน

gotoknow.org/blog/sph นะครับ

มีอะไรดีๆบอกอีกนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท