Acad.-Edu.
นางสาว ธันย์ชนก ปานทะโชติ

::: เกร็ดความรู้ :::


                  ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า วันนี้กว่าจะเข้ามาเขียน Blog ได้ นั่งนึกรหัสผ่านตั้งนานว่าคืออะไร ก็เลยถามตัวเองว่า เราไม่ได้เข้า Blog นานขนาดไหนแล้วเนี่ย นับไปนับมา นับมานับไป ก็... นาน เหมือนกัน เนอะ แฮะๆๆ

                  นั่นแน่ กำลังคิดกันแน่ๆ เลยว่า ผู้เขียนกำลังจะแก้ตัวว่ายังไง งั้นคราวนี้ แบบว่า..เอ่อ..ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ..เฮ้อออ

                  เพื่อไม่ให้เป็นการละทิ้งหน้าที่ (ที่ชื่นชอบ) ก็ขอนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ (อีกแล้ว) มาให้อ่านกันค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เป็นเรื่องใกล้ตัวจริงๆ ค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

                  1. เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่มที่ขายๆ กันตามห้างสรรพสินค้า  เซเว่นอีเลฟเว่น  รวมทั้งที่ไปเติมน้ำมันครบ 800  แถมน้ำ 1 ขวด   อะไรทำนองนี้
                      ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า  โดยสารพิษชนิดหนึ่ง  สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม  เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ครั้งเดียว  อายุการใช้งานสั้นๆ เท่านั้น  ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดาย นำมาบรรจุน้ำดื่มอีก  รวมทั้งน้ำที่มากับขวด  หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์   ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดที่ๆ ร้อนๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้ 

                  2. ม่านพลาสติกที่แขวนในห้องน้ำเพื่อกั้นพื้นที่แห้งกับเปียก    
                       มีข่าวแจ้งมาว่ามีนักจุลชีววิทยาคนหนึ่งในต่างประเทศ  เขาสังเกตว่าที่ม่านพลาสติกมีคราบดำๆ  ทีแรกเขาคิดว่าเป็นคราบสบู่  เขาลองขูดแล้วเอาไปส่องกล้อง  ปรากฏว่าคราบดำๆ  ดังกล่าวเป็นแบคทีเรียชนิดร้ายแรง ที่เติบโตโดยอาศัย การผายลม  การเลอ การไอ จาม ของมนุษย์เรานี่แหละ เป็นอาหารอย่างดีของมัน  เขาแนะนำว่า เราควรถอดไปซัก อาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือนละ 2 ครั้งก็ได้ หรือถ้าไม่มีเวลาก็เดือนละครั้งก็ยังดี นอกจากนี้เขาเตือนว่า อะไรที่เป็นพลาสติกก็เข้าข่ายเหมือนกัน โดยเจ้าเชื้อโรคนี้มันจะเข้ามาทำอันตรายเราก็ต่อเมื่อเราป่วย มีบาดแผล คนแก่ คนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

                  3. เรื่องคนนอนดึก
                      เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา 3  ทุ่ม  เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ  ขับของเสียตามอวัยวะต่างๆ  ย่อยอาหารให้หมด  ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก  รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ยแน่นอน  ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสม  แต่ถ้าต้องนอนดึกเลี่ยงไม่ได้  เพราะขนงานมาทำ หรือติดงานอะไรก็ตาม ควรปฏิบัติดังนี้ 
                      -  งดเนื้อสัตว์ เช่น  เนื้อวัว  เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก    
                      -  หากเราอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด  ยิ่งเคี้ยวละเอียดยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้    
                      -  ดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้งอุ่นๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดาผสมน้ำผึ้ง  หรือถ้าไม่มีอะไรเลย  น้ำอุ่นธรรมดาสัก 1 แก้วก็ได้ 
                      -  เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้อง/ฝ่าเท้าอุ่น  โดยการห่มผ้า
                      -  อาหารมื้อดึก  ควรเป็นมื้อเบาๆ อย่างเช่น  ผัก  ผลไม้  นม  ไข่  เนื้อปลา  จะดีกว่า
                      -  ควรเลี่ยงน้ำเย็น  น้ำอัดลม  เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย   ร่างกายต้องการความร้อน เพราะช่วยในการย่อยอาหาร  หากดื่มแต่น้ำเย็น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร  จะทำให้ร่างกายต้องพยายามปรับอุณหภูมิให้อุ่นเหมาะสมก่อน  แล้วจึงนำไปใช้  การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มีประโยชน์อะไร  เพิ่มกรดให้ร่างกาย  แถมมีน้ำตาลที่สะสมตามร่างกายอีก  

****  ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์  ควรกินเวลา 07.00 - 09.00 น.  เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด   ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมากๆ  ถ้าอดมื้อเช้าไปนานๆ ขั้วกระเพาะจะเป็นปุ่มปม  และนานเข้าๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ   
         อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8  แก้วนะ น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย  อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด  
         ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด  เนื่องจาก ถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน  ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อยๆ  จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
         ห้ามกินนมตอนเช้าแทนข้าวเช้า เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก  นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม  จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี  กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อย  ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า  ระวังมะเร็งในไขกระดูก  แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า หรือ ตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็น ดื่มได้ตามปกติ มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่ายๆ อย่าง นมกับไข่ก็ไม่ว่ากัน 
          ถั่วต่างๆ รวมทั้งธัญพืช เช่น ลูกเดือย  ข้าวฟ่าง ฯลฯ  มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรคและแบคทีเรียชนิดไม่ดี ออกจากลำไส้เรา ควรกิน อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
          พืชผักสีเขียว มีคลอโรฟิล  ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี  เซลล์แต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงค่ะ

                  ที่นำมาให้อ่านนี้ ผู้เขียนได้รับ Forward Mail มาจากเพื่อนน่ะค่ะ ท่านอาจารย์หมอวัลลภท่านให้ความกรุณาเป็นอย่างยิ่งในการให้คำแนะนำในการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ ท่านบอกว่าควรลงอ้างอิงด้วย แต่ทุกครั้งที่ผู้เขียนนำมาลง ไม่มีอ้างอิงทุกที (ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ) ก็ต้องขออภัยท่านอาจารย์จริงๆ ค่ะ แต่อยากเผยแพร่ เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ เพราะผู้เขียนคิดว่า เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทำงาน (Workaholic) นำมาลงให้อ่านบ่อยๆ ก็คงจะทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพกันบ้างนะคะ

                  "อโรคยา ปรมา ลาภา"



ความเห็น (5)
  • หายไปนานมาก
  • ขอบอก
  • มาให้ทำโทษเสียดีๆๆ
  • เขียนมาให้อ่านอีก 2 บันทึก
  • ฮ่าๆๆๆๆ
ข้อมูลดีครับ แต่เอาไปปฏิบัติส่วนตัวยากครับ เพราะมีนิสัยเสียหลายข้อที่แก้ยากมาก.....
  • ขอบคุณท่าน อ.ขจิต และ ท่าน อ.จารุวัจน์ ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนกันค่ะ
  • แต่ท่าน อ.ขจิต คะ แหมมม! อีก 2 บันทึก ขอเวลา 2 เดือนนะคะ อิอิอิ
  • ท่าน อ.จารุวัจน์ คะ แค่ปฏิบัติได้ 1 ใน 3 ของบันทึกนี้ ก็ถือว่า บันทึกนี้มีคุณค่ามากแล้วค่ะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
  • ถ้ามนุษย์ ทำอะไรซ้ำๆ กัน 7 ครั้ง จะกลายเป็นความเคยชินค่ะ ถ้าอย่างนั้น ลองดูนะคะ 
  • เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก
  • ขอบคุณครับ จะเก็บใส่สมองไว้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท