จากนั้นจึงเริ่มให้พวกเราทุกคน ได้แสดงความในใจ แสดงความคิดเห็น แบบอิสระเต็มที่ ก็สรุปออกมาได้ดังนี้ครับ
***หมายเหตุ ตำแหน่งของแต่ละท่านดูได้จากภาคผนวกด้านล่างครับ
ผศ.พญ.ดร.สุธาทิพย์ พงษ์เจริญ : การเดินทางไกลหากมีของหนักแบกอยู่(อธิบายว่า...จุดหมายปลายทาง ตั้งเอาไว้สูง อีกทั้งมีข้อจำกัดต่างๆมากมาย) จงค่อยๆเดินอย่างมั่นคง(เดี๋ยวล้ม!) การจัดสรรบุคลากร งบประมาณ เครื่องมือ หรือ อุปกรณ์ต่างๆให้กับหน่วยงานต่างๆ ให้คิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก และมีความเป็นมิตรต่อกัน มีความสามัคคี รักใคร่ปองดองกัน
นพ.สธน ธรรมอำนวยสุข : การได้มีโอกาสได้เข้าไปทำงานใดๆ เมื่อมีความตั้งใจจริงในการที่จะมุ่งไปสู่ผลสำเร็จของงาน จะเกิดการเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างมหาศาล “แม้ว่าในครั้งแรกจะไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาทำงานบริหาร แต่เมื่อได้เข้ามาทำจริงๆแล้ว จึงได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากการได้มีโอกาสเข้ามาทำงานนี้”
นพ.วิทวัส จิตต์ผิวงาม : “พวกเราทุกๆคน ควรมองเรื่องส่วนรวมเป็นสำคัญ คณะแพทย์แห่งนี้เป็นของพวกเราทุกคน ที่เราจะต้องรักและหวงแหน” คณะฯ ต้องเร่งรีบสร้างจิตสำนึกให้ผู้บริหารรวมถึงบุคลากรทุกคนให้มีจิตสำนึกว่าทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันและ งานคณะฯเป็นเรื่องส่วนรวม
นพ.เอกวีร์ ศรีปริวุฒิ : แม้คณะแพทย์ มน. จะยังเป็นน้องใหม่ในวงการสถาบันผลิตแพทย์(เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ)แต่คณะฯมีจุดแข็งที่มีอาจารย์รุ่นใหม่ มีบุคลากรวัยหนุ่มสาวอยู่มาก ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานได้ง่ายกว่าสถาบันเก่าต่างๆ ที่ บุคลากรมีความอาวุโสมาก โดยส่วนตัวแล้วมีความยินดีที่ได้มาช่วยงานบริหาร ขอให้ยึดคติเตือนใจตามแบบอย่างรุ่นพี่ที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า(อธิบาย...หมายถึงข้อคิดจาก นพ.ธีรยุทธ หยกอุบล และ ผศ.นพ.พีระพล วอง)นพ.ธีรยุทธ หยกอุบล:อย่าดูถูกดวงไฟดวงเล็กๆ สักวันอาจลุกโชติช่วงชัชวาลได้ ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต ขึ้นกับความมุ่งมั่นพากเพียรในปัจจุบันแม้ว่าในวันนี้จะยังตัวเล็กอยู่...ผม(ผู้เรียบเรียง)ตีความและผศ.นพ.พีระพล วอง : จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด สักวัน(ข้างหน้า)ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
นพ.สุวิทย์ เลิศขจรสิน : การทำงานใดๆ เปรียบเหมือนการที่ต้องแสดงบทบาทให้ถูกต้องเหมาะสม เหมาะควรแก่ กาละและเทศะ หากจะเปรียบเป็นการเล่นฟุตบอล เราก็จำเป็นที่จะต้องทำหน้าที่ในตำแหน่งของเราให้ดีที่สุด เพื่อสุดท้ายแล้ว เป้าหมายคือทีมชนะ เวลาทีมชนะ ทุกคนก็ชนะไปด้วย เป็นการเหนื่อยร่วมกันในทีม ให้คิดว่าเราเป็นคนหนึ่งในทีมที่ควรต้องคิดว่าจะช่วยทีมได้อย่างไร
ผศ.(พิเศษ) พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย : การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย หลายครั้งหลายครา ในชีวิตคนๆหนึ่ง เช่นครั้งนี้ชีวิตเปลี่ยนหลังเข้ามาทำงาน แต่คิดเสมอว่าเป็นโชคดีที่ได้เข้ามาทำงานนี้ มีโอกาสได้เป็นผู้นำงานหลายอย่าง แม้จะเหนื่อยมากๆแต่ก็ไม่ท้อ โดยมีครอบครัวเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา คุณสามี((อธิบายว่า...อาจารย์มีแฟนเป็นทหาร:ยศระดับผู้พัน)ให้คิดว่าทำเพื่อชาติ ซึ่งครั้งแรกที่ได้ฟังอาจรู้สึกขำ แต่แฟนพูดว่าเพื่อชาติซึ่งหมายความตามนั้นจริงๆ ก็มหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยใหม่ที่สร้างบัณฑิต เพื่อรับใช้ชาติ คิดว่าจะอยู่ไปเรื่อยๆ ยึดหลัก “slow but sure” คิดว่าจะใช้เกียร์ 2-3ให้เหมาะกับบริบทของเรา
ผศ.พญ.จุลินทร สำราญ : “เวลาเลือกทำงานใดๆ จงพร้อมที่จะรักในสิ่งที่ตัวเองทำ” งานการศึกษาที่รับผิดชอบอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทาย เมื่อมาทำแล้ว รู้สึกทำให้ได้อะไรหลายๆอย่าง แม้จะมีปัญหาเข้ามาตลอดเวลา(เพราะต้องทำกับนิสิตจำนวนมาก) แต่นั่นย่อมหมายถึงการพัฒนาตลอดเวลาเช่นกัน ทุกครั้งที่ท้อจะนึกถึง อ.ศุภสิทธิ์(ศ.นพ.ดร.ศุภสิทธิ์ พรรณนารุโณทัย)ที่ยังกล้าเข้ามาทำงานตรงนี้ ซึ่งคิดว่าไม่มีใครกล้ามาลองทำ เนื่องจากคณะแพทย์ มน. มีเรื่องท้าทายมาก แต่คิดว่าต่อจากนี้ไปคณะแพทยศาสตร์ มน.จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
พญ.ดารณี ลิ้มรุ่งยืนยง : ครั้งแรกคิดว่า อ.ศุภสิทธิ์ จะให้มาเป็นเด็กหิ้วกระเป๋า ทำงานเล็กๆน้อยๆ กลับเป็นว่าได้มาเป็นผู้ช่วยคณบดี ที่ต้องทำงานรับผิดชอบมากกว่าที่คิดเอาไว้ (ทั้งที่ยังมีงานบริการเดิมอยู่มาก ในช่วงแรกจึงต้องนั่งลงทบทวนตัวเองอยู่หลายเพ-ลา ซึ่งก็คิดถึงเรื่องที่จะขอทุนไปเรียนต่อด้วย) แต่เมื่อรับปากแล้ว จึงคิดว่าต้องสู้และทำวันนี้ให้ดีที่สุด สิ่งที่อยากขอและอยากเห็นคือ...ขอวัฒนธรรมองค์กรที่มีความรัก สามัคคี ช่วยเหลือกัน “เมื่อไหร่ที่หัวใจประสานกันได้แล้ว งานยากก็จะง่ายลง” (ไม่อยากให้ใครก็ตาม เมื่อทำงานแล้วถูกต่อต้านมาก งานใดๆก็จะพัฒนาได้ช้า อยากให้สื่อกันตรงๆอย่างสร้างสรรค์
นพ.วิโรจน์ วรรณภิระ : ได้มาอยู่คณะแพทยศาสตร์ มน.ได้ประมาณ 2 ปี เมื่อก่อนที่ทำงานอยู่ รพ.พุทธชินราช ก็ผ่านงานมามาก โดยเฉพาะงานบริการ(อธิบาย...สูติ-นรีแพทย์มือทองในวงการ(ผู้เรียบเรียง))ปัจจุบันได้มาร่วมมือ ร่วมงานกับน้องๆ(ด้วยความอาวุโส แพทย์ส่วนใหญ่ รวมถึงบุคลากรอื่น จึงเป็นน้องพี่วิโรจน์กันทั้งนั้น) ในภารกิจของหัวหน้าภาค อันที่จริงก็ทำตามเจ้านายสั่งแต่เนื่องจากเป็นหัวหน้าภาคที่มุ่งหวังพัฒนาภาคอย่างเต็มที่ ทำให้มีภารกิจมากขึ้นกว่าเดิมมาก เคยได้กลับบ้านไปหาภรรยาได้ตรงเวลาก็ทำไม่ได้แล้ว คิดว่าจะทำงานเกินร้อย อยากเห็นความร่วมมือในระยะปีแรกๆ ให้มาก เพราะหาก “ตั้งใจดีตั้งแต่เริ่มต้น ความสำเร็จก็จะเกินครึ่งไปแล้ว”
ผศ.นพ.เทิดศักดิ์ ผลจันทร์ : งานการศึกษามีปัญหาเยอะ มีเรื่องสำคัญๆมากมายโดยเฉพาะ ยังมีนิสิตแพทย์ที่ต้องผลักดันให้สอบผ่าน National License ทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ท้อใจ สิ่งหนึ่งที่ทำให้มีกำลังใจ เพราะมีความศรัทธาในตัว อ.ศุภสิทธิ์ เป็นเรื่องหลัก และมีร่มเงาต้นไม้ใหญ่อย่าง อ.สุภรณ์ (รศ.นพ.สุภรณ์พงศะบุตร)ทำให้อุ่นใจได้มาก( Role Model เป็นสิ่งสำคัญและเป็นแรงขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ของบุคลากร จริงๆ(ผู้เรียบเรียง)) คิดว่าจะพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุด ชีวิตการทำงานขณะปัจจุบัน รู้สึกมีความสุขกับการทำงาน หลังจากผ่านช่วงวิกฤตมาแล้ว บรรยากาศดูเป็นหนึ่งเดียว น่าจะทำงานได้ดีขึ้น หากว่าภายใน 5-10 ปี ข้างหน้า ถ้ายังมีบรรยากาศเป็นแบบนี้ คณะแพทยศาสตร์ มน.น่าจะก้าวหน้าได้ อย่างแน่นอน
นพ.มณฑล กาฬสีห์ : ประชุมยามค่ำคืนลักษณะนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว (ตอนแรกคิดว่าจะไม่พูด แต่ถ้าไม่พูดอะไรก็อาจจะดูเหมือนไม่ให้ความร่วมมือ) ตนเองเป็นคนพูดตรงๆ (อาจถูกมองเป็นคนมีปัญหา) แต่จริงๆแล้วอยากให้จบในที่ประชุม เมื่อพูดแล้ว Clearแล้วก็จบ ไม่ต้องคิดต่อ เนื่องจากเคยอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งมา 11 ปี มีแต่ผู้ชาย และถูกฝึกมาอย่างนี้ เล่าย้อนไปถึงตอนมาสัมภาษณ์เป็นแพทย์สังกัด มน. ขณะนั้นเป็นแพทย์ใช้ทุน ปี 3 มอ. ขับรถผ่านมาจะไปเที่ยวเชียงใหม่ (เรียกว่าความบังเอิญที่จะได้มาอยู่ที่นี่ )ได้แวะเข้ามาเที่ยวใน มน. ต่อมาจึงตัดสินใจมาสัมภาษณ์ จากวันนั้นถึงวันนี้ เปลี่ยนไปมาก พัฒนาไปมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่(วันหนึ่งที่ลุกฮือขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในคณะแพทยศาสตร์ มน. เมื่อปี ๒๕๔๘) ปัจจุบัน รพ.มีความพร้อมในระดับหนึ่ง มีคนไข้มากขึ้นมาก มีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด เชื่อว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า จะเจริญก้าวหน้าอีกเยอะ อยากให้อาจารย์และบุคลากรทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
รศ.นพ.สุภรณ์ พงศะบุตร : ได้อยู่ที่นี่มา 3 สมัยคณบดีแล้ว “ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง จะเจ็บปวดทุกครั้ง” คณะแพทยศาสตร์ มน.มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด (เฝ้ามองมา 12-13 ปีแล้ว) ความรู้สึกส่วนตัวแล้ว โตเร็วมาก ปัญหาต้องมีตามมาเป็นธรรมดา ขอให้พวกเราได้ช่วยกันมากขึ้น ขอให้ทุกคนมีส่วนช่วย มีความคิดว่าสิ่งดีที่สุดคือปัจจุบันเรามีคณบดีที่จะทำให้คณะแพทยศาสตร์ มน.เจริญก้าวหน้าได้ เนื่องจากเป็นผู้นำที่กล้าตัดสินใจ ไม่อยู่ใต้บังคับใคร จึงหวังว่า คณะแพทยศาสตร์ มน. จะรุ่งเรืองแน่นอน
ภาคผนวก
</stro
อยากให้บุคลากรทุกท่านได้เข้ามาอ่านจัง เพราะอย่างน้อยที่สุดก็จะได้แง่คิดดี ๆ จากผู้บริหารของเรา อีกทั้งยังได้ทราบถึงความคิดของแต่ละท่านในอีกแง่มุมหนึ่ง
ผมชอบและชื่นชม กิจกรรมนี้ และบันทึกนี้ มากจริง ๆ ครับ จะคอยติดตามเอาใจช่วยและคอยแสดงความยินดีในความสำเร็จที่ยิ่ง ๆ ขึ้น จากพลังสามัคคีครับ
ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์วิบูลย์ มากครับ
ท่านอาจารย์ช่วยเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา
และชาว มน. โดยทั่วถึงมาโดยตลอด
ชื่นชมในความมุ่งมั่นทำสิ่งดีๆและมองโลกในแง่บวกสม่ำเสมอของอาจารย์
ด้วยความเคารพครับ
ศิริเกษม
I love u mednu