Holistic Corner : การแจ้งข่าวร้ายของผม กับการได้ประโยชน์ จาก Gotoknow ในฐานะของผู้รับ
บางช่วงงานยุ่งมากครับ เวลาเข้า gotoknow ไม่มีเวลาเขียน blog ก็ใช้สำหรับติดตามเรื่องที่เราอยากเรียนรู้ เผื่อเอาไปใช้ ได้จนบางครั้งชอบอ่านมากกว่าเขียนเสียอีก ( แต่ถ้าเป็นผู้รับอย่างเดียวก็ ดูไม่ค่อยดี เราคงต้องมีส่วนร่วม เผื่อประโยชน์ให้คนอื่นด้วย )
วัตถุประสงค์ที่เข้ามาใน gotoknow ของผมก็คือการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้นี่แหละครับ การแลกเปลี่ยน ย่อมมีการรับ และการให้ การให้อย่างเดียวโดยไม่รับ ก็ดูจะขาดประโยชน์ไปอย่างมาก มีเรื่องหลายเรื่องทีเดียวที่ได้นำไปใช้ ในชีวิตจริง
วันนี้ มี case ที่ต้องแจ้ง เรื่องที่มีผลต่อจิตใจ และ การใช้ชีวิตในวันข้างหน้า ให้ครอบครัวของ ผู้ป่วยท่านหนึ่ง เป็นการแจ้งข่าวร้าย ของครอบครัว เพื่อใช้ในการร่วม ตัดสินใจการรักษา ที่ญาติจำเป็นต้องมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจ สูงอย่างมาก ซึ่งเมื่อ 3 วันก่อน อ่านเรื่อง BREAKING THE BAD NEWS ( อยากให้เข้าไปอ่านครับ ) ของพี่หมอสกล ( คันฉ่องส่องนกไฟ ) พอถึงสถานการณ์จริง ทำให้นึกถึง กลับเข้าไปอ่าน บันทึกดังกล่าวก่อน 1 ครั้ง เมื่อคืนครับ
ผู้ป่วย เคยมีครอบครัวมาแล้ว 3 ครั้ง มีลูก 3 คน กับภรรยาคนแรก เริ่มติดเชื้อเมื่อ 17-18 ปีก่อน เคยได้ยาต้านไวรัส เมื่อหลาย ปีก่อน แต่คงเพราะความท้อแท้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ผู้ป่วยดื่มเหล้ามาหลายปี และขาดยาไป บอกกับคนรอบข้างที่รู้เห็น ว่าปรกติแล้วไม่ต้องกินยา มาคราวนี้ ทรุดลงอย่างมาก พูดได้แผ่วเบา หายใจก็แผ่วเบาด้วย
สภาพครอบครัว เท่าที่ได้สัมผัส มีความไม่สามัคคี ทางความคิดพอสมควรทีเดียว ระหว่าง ลูก ๆ พี่สาวผู้ป่วย และ ภรรยาคนปัจจุบัน ลูกสาวคนเล็กที่มาเฝ้า เพิ่งได้ทราบภาวะเจ็บป่วยเมื่อไม่นานมานี้ ภรรยารู้เรื่องตั้งแต่ก่อนมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 10 ปีก่อน แต่ก็เต็มใจมาอยู่ ส่วนพี่สาวอีก 2 คนก็ รู้เรื่องราวมาตั้งแต่ แรก ๆ ที่ป่วย และเป็นคนดูแล เด็ก ๆ เนื่องจาก พ่อแม่แยกทางกัน เรื่องของครอบครัว ผมคงเล่ามากไปกว่านี้ไม่ได้อีก แต่มันก็ถึงสถานการณ์ ที่จะต้อง คุณกับคนแต่ละคนที่ อยู่กันคนละสภาวะ ช่วงแรกเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร
เรื่องราวที่พี่สกลเขียนไว้ ช่วยผมตัดสินใจ ที่จะบอกและคุยเรื่องราวกับทุกคน ทีละคน เพราะ สถานะแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพื่อที่จะวางแผนชีวิต กับความเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นาน รวมทั้งการตัดสินใจที่จะ วางแผนการรักษา ในช่วงต่อไปนี้ เพราะ คาดว่าหลังจากที่เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้ว จะเกิดปํญหาตามมาในครอบครัวพอสมควรทีเดียว
ความ หวังดี เลื่อนเวลาบอกข่าวร้าย อาจจะกลายเป็นการที่เรา ขโมยเวลาจัดการเรื่องราวของคนไข้ ( และผู้เกี่ยวข้อง ) ไปก็ได้ |
|
Moral couragement ก็คือ เราสามารถตัดสินใจ เพราะ คิดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม สมควร เป็นความดี โดยไม่ทราบว่ามันจะดีจริงๆไหม ประเด็นที่เรา aware ว่า "เราไม่ทราบ" นี้สำคัญ เพราะในชีวิตการทำงาน เราจะเจอสิ่งที่เราได้พยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่ก็เกิดผลที่ไม่คาดคิดมาก่อน เกิดผลเสียได้ สิ่งเหล่านี้บางครั้งเป็นอะไรที่ beyond mortal อย่างเราๆท่านๆที่จะควบคุม เราก็ยังคง keep on doing the right thing ต่อไป |
สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนจากที่สับสนว่าจะรักษาต่อไปอย่างไรดี ความคิด แตกแยกคนละทิศทาง เริ่มคิดแบบเดียวกัน คือ ยอมรับความจริงกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
เรา ได้คุยกันว่า น่าจะถึงเวลาเตรียมการ เรื่องที่ยังติดค้าง หรือ น่าจะสะสางให้เสร็จ ที่ทุกคนยังมีอยู่ ให้เรียบร้อย ดีกว่า เมื่อวันนั้นมาถึงแล้วเราตกใจ ทำอะไรกันไม่ถูก ทุกคน
ทุกคนดูสงบขึ้น ได้ผลดีมากครับ มีผลดีต่อการใช้ชีวิตในช่วงต่อไปของทุกคน เพราะมีความเตรียมพร้อมมากกว่าเดิมแล้ว
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
เรื่องที่เล่ามานี้ ไม่ได้ต้องการเล่าถึงเรื่อง breaking the bad news นะครับ ( อยากให้อ่านเรื่องนี้ใน บันทึกของ คันฉ่องส่องนกไฟ ซึ่งเขียนได้ดีมากครับ )
แต่อยากเล่าเรื่องของ การให้และการรับ ผมเข้าใจว่าที่พี่สกลเขียน เพื่อหวังว่าจะได้ มีใคร สักคน นำ tacid Knowledge ที่ พี่เขาต้องการเล่าให้ฟังไป ใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ได้เพียงเขียนไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็อ่านไปเรื่อยเปื่อย
ซึ่งงานนี้ ผมเป็นผู้รับ เต็ม ๆ และก็เกิดประโยชน์จาก บันทึกที่ได้รับรู้จาก gotoknow เลยต้องนำมาเล่าสู่กันฟัง
ประโยชน์ของบทความนั้น ครบรอบ มีผู้ให้และมีผู้รับ รวมไปถึง มีการนำไปใช้ประโยชน์โดยตรงต่อ ผู้ป่วยและญาติ เกิดอานิสงค์ ของบทความ
วันก่อน ม.อุบลแจ้งมาที่ รพ.วารินฯให้ช่วยปฐมนิเทศนักศึกษาแพทย์ ปี 2 พยาบาลประสานงานถามผมว่าจะใช้หัวข้ออะไรดี ผมบอกว่า " ร่วมสร้างหมอใหม่หัวใจเต็มร้อยก็ละกัน " ที่เป็นหัวข้อ blog ของพี่รวิวรรณ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ คุณพยาบาลบอกเอางั้นเหรอ ผมบอก จริงจริ้ง เรามองเห็นโอกาสของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เสมอ
การให้อย่างเดียวโดยไม่รับ ก็ดูจะขาดประโยชน์ไปอย่างมาก มีเรื่องหลายเรื่องทีเดียวที่ควร ได้นำไปใช้ ในชีวิตจริงแต่ถ้าเป็นผู้รับอย่างเดียวก็ ดูไม่ค่อยดี เราคงต้องมีส่วนร่วม เผื่อประโยชน์ให้คนอื่นด้วย |
ความเห็น (12)
 |
สวัสดีค่ะ
การเป็นแพทย์ มีความเครียดสูง มีความรับผิดชอบสูงและต้องตัดสินใจ ค่ะ
สิ่งที่คุณหมอทำถูกต้องในความเห็นของดิฉันค่ะ
|
สวัสดีครับพี่
|
สวัสดีครับพี่ ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ ผลที่ได้จากการคุยกับผู้เกี่ยวข้องเกิดประโยชน์มากครับ ทุกฝ่ายสบายใจขึ้น กังวลน้อยลง มีทางออกมากขึ้น
แต่ประโยชน์ ที่เกิดขึ้น เกิดจากบทความเรียนรู้ใน gotoknow นี่แหละครับที่ช่วยให้การทำงานของเรา ดีขึ้น นำมาใช้ได้ผล
สวัสดีค่ะ
ดีใจที่ได้รู้จักกับคุณหมอที่น่ารักมากๆเพิ่มขึ้นแล้วอีกคนนึง..เป็นแฟนบันทึกคันฉ่องนกไฟเช่นกันค่ะ
อ่านบันทึกนี้ได้รับสิ่งดีจากคุณหมอ2เรื่อง คือ
1.แนวคิดและวิธีการที่ใช้บอกข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติในระยะสุดท้าย
2.วิธีการโค้ดข้อความ/แนวคิดที่ต้องการ-ชอบมากเพราะทำให้เข้าใจง่าย อ่านได้สดวกและเป็นขั้นตอนดี
ขอบคุณค่ะ
 |
 |
บทความ
เป็นประโยชน์ เรียนรู้ เรื่องราว ของการดูแลชีวิตค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ เห็นคุณหมอแวะเวียนเข้าไปในบล็อกของ FM. พุทธชินราชบ่อยๆและให้ข้อคิดดีๆ วันนี้ได้เข้ามาอ่านเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยก็จะเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ในฐานะผู้รับค่ะ
 |
ซันซัน เมื่อ อ. |
บันทึกของ คุณ ซันซัน ก็น่าอ่านมาก
 |
Mrs. Laddawan wipoosanapan เมื่อ จ. 07 พฤษภาคม 2550 @ 08 |
ผมเข้าไปใน blog ของ พุทธชินราชบ่อยจริง ๆ ครับ เพราะเป็นแหล่งความรู้ ที่ดีจริง ๆ ครับ มีหลายเรื่องที่เอามาใช้ด้วยครับ ก็ยังจะเข้าไปเก็บเกี่ยวความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ ครับ
 |
นาย ธิติ ปราบ ณ ศักดิ์ เมื่อ จ. 07 พฤษภาคม |
ผมมีเรื่องการตัดรองเท้า ที่จะปรึกษา คุณธิติอยู่นะครับ