สาเหตุของการแต่งงานที่ผู้หญิงไม่ควรใช้


           นักจิตวิทยาได้กล่าวถึงสาเหตุของการแต่งงานที่ผู้หญิงไม่ควรใช้ เอาไว้หลายข้อ  โปรดตรวจดูว่า คุณมีข้อใดข้อหนึ่งในนี้บ้างหรือไม่
ถ้าเผอิญคุณมีข้อใดข้อหนึ่งใน 9ข้อ นี้ มันก็อาจจะเป็นเครื่องสะกิดใจคุณบ้างไม่มากก็น้อย ก่อนการตัดสินใจกระโดดลงไปสู่ประตูวิวาห์ก็ได้ ข้อเตือนใจเหล่านี้ได้แก่

(1) อย่าแต่งงานเพราะคุณกลัวว่าจะไม่ได้แต่ง
ผู้หญิงหลายคนพอชักเริ่มมีอายุสูงขึ้น ก็เกิดอาการวิตกจริตว่า ถ้าเราไม่รีบ"คว้า" ใครไว้สักคนในขณะนี้พอเราแก่ตัวลงไปจริงๆ คงไม่มีใครมา "คว้า" เราเป็นแน่ อย่ากระนั้นเลยเจอใครที่พอดูได้ก็รีบด่วนตัดสินใจ ไปลง เอ ยกับเขา เ พี ยงเพราะกลัวว่าจะต้องเข้าไปเป็นสมาชิกหมู่บ้านสาวโสดนั่น เอ ง

            การตัดสินใจแต่งงานด้วยเหตุผลทำนองนี้ น่าจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เพราะคุณไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบคล้ายกับลอยคออยู่ในน้ำ อะไรลอยผ่านมา ก็คว้า เอ าไว้ก่อน ไม่ทันได้พิจารณาให้รอบคอบ และดูว่า สิ่งที่คุณคว้าไว้นั้นเป็นสิ่งมีพิษมีภัยหรือ เป็นที่พึ่งได้จริงบางทีสิ่งที่คิดว่าเป็นทุ่นให้เกาะได้ กลับกลายเป็นเ พี ยงฟางหญ้า หรือปลิงที่คอยดูดเลือดคุณเสียอีก สุดแสนจะชอกช้ำยิ่งเสียกว่าอยู่คนเดียวเป็นไหนๆ

              นอกจากนี้ ถ้าคุณอยู่ในวงสังคมคุณอาจจะถูกแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกครอบครัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็น พี ่น้องพ่อแม่เพื่อนฝูงที่คอยผลัดเปลี่ยนมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใย คุณด้วยคำถามประเภท"ทำไมจึงยังไม่แต่งงานเสียที?" "มีอะไรหรือ?" (หรืออีกนัยหนึ่งก็ คือ"คุณมีปัญหาอะไรหรือจึงยังเป็นโสดอยู่ได้ปูนนี้!") สิ่งต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟังเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ

              และในที่สุดคุณก็ตกลงใจที่จะลดมาตรฐานของชายในฝันของคุณลงอย่างฮวบฮาบ น่าใจหายหรือต่ำกว่า50%ก็ยอม ขอให้ได้ชื่อว่า"ได้แต่ง"ก็เป็นพอ ถ้าคุณทำเช่นนี้ย่อมเป็นของแน่นอนว่าคุณกำลัง"ลนลาน" หาคู่และย่อมเป็นของแน่อีกเช่นเดียวกันว่า คู่ที่หามาได้จากการไม่พิจารณาให้รอบคอบนั้น จะมีผลร้ายกับชีวิตของคุณเช่นไร

          (2) อย่าแต่งงานเพราะคุณอยากจะออกจากบ้านจากครอบครัวเดิมของคุณ
           นี่เป็นเหตุผลที่ฤดีมาศตัดสินใจแต่งงานกับสาธิต เพราะเธอเบื่อพ่อแม่ที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เธอเบื่อสภาพแวดล้อมของบ้านและความไม่ปรองดองของ พี ่ๆ น้องๆ เธอคิดว่า การออกไปอยู่กับสาธิตจะเป็นคำตอบของเธอ แต่เมื่อเธอไปอยู่บ้านกับสาธิตจริงๆ เธอกลับต้องไปเผชิญกับปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่เธอนึกว่า น่าจะหมดไปตั้งแต่สมัย"บ้านทรายทอง"นั่นแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหา พี ่ๆ น้องๆ ของเขา ที่ไม่ได้ยอมรับเธออย่างสนิทใจ ฤดีมาศรู้สึกว่า ตัวเธอเหมือนคนแปลกหน้าที่หลุดเข้าไปอยู่ในโลกที่เธอไม่รู้จัก

         (3) อย่าแต่งงานเมื่อคุณกำลังอกหัก หรือเมื่อต้องการประชดแฟนเก่า  ผู้หญิงหลายคนอกหักจากแฟนเก่า และด้วยความเจ็บใจก็จะรีบแต่งงานกับผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างปุบปับ เป็นทีประชดแฟนเก่าว่า"ฉันก็มีเสน่ห์เมื่อเธอจากฉันไปได้ ฉันก็สามารถหาผู้ชายคนอื่นมาแทนเธอได้เหมือนกัน" ความจริงเรื่องการอกหักนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับคนเป็นจำนวนมาก คุณย่อมเจ็บปวดเป็นธรรมดาแต่เมื่อคุณอกหัก คุณยังไม่ควรรีบ"คว้า" ใครก็ได้ และแต่งๆไป เพราะผู้หญิงอกหักทุกคนจะมีสภาพจิตใจที่ตกต่ำ ความรู้สึกภาคภูมิใจในตน เอ งจะลดลงไป และช่วงนั้นคุณมักจะขาดวิจารณญาณในการเลือกผู้ชายที่ดีๆ

          คุณมักจะไปเลือก เอ าผู้ชายที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติมาแต่งด้วย เพราะจิต ใจคุณบอบช้ำ คุณต้องการคนมาเยียวยาและเขาเสนอตัวเข้ามาพอดี ซึ่งคุณก็จะตกลงเพราะคุณ คิดว่าคนนี้แหละที่จะมาสมานแผลใจให้คุณได้ แต่เมื่อแต่งไปแล้วจิตใจคุณเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ คุณอาจนั่งมองสามีพร้อมกับตั้งคำถามให้กับตัว เอ งว่า"ฉันเลือกเขามาได้อย่างไร"

      (4) อย่าแต่งงานเพราะคุณสงสารเขา  อลิสาตกลงใจแต่งงานกับพินิจเพราะเขาดูน่าสงสาร เฝ้ารักเฝ้าติดตามเธออยู่เสมอ ท่าทางเขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเธอเลย ดูเขาเป็นผู้ชายที่แล้วแต่เธอจะกรุณา อลิสารู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาเลย แต่ดูเขาก็ไม่มีอะไรเสียหาย น่าจะเป็นผู้นำครอบครัวได้ 

        แต่หลังจากแต่งงานกันได้ระยะหนึ่ง เขากลับแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธออย่างน่าเกลียด แม้กระทั่งเพื่อนฝูงของเธอเขาก็ไม่ต้องการให้เธอไปคบค้าสมาคมด้วย อลิสาแทบเป็นบ้าเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่อิสระ เป็นตัวของเธอ เอ ง และคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายที่ดูขรึมๆ เรียบๆ จะสามารถแสดง "ฤทธิ์เดช" และวางอำนาจกับชีวิตเธอได้ถึงเ พี ยงนี้

          (5) อย่าแต่งงานเพราะหลงใหลในรูปสมบัติของเขาเ พี ยงอย่างเดียว รูปสมบัติหรือความหล่อล่ำอาจเป็นสิ่งที่ถูกตาถูกใจในเบื้องต้น แต่ถ้าคุณมัวไปหลงใหลในรูปที่เห็นเ พี ยงอย่างเดียว คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ภายใต้รูปที่ดูหรูเริดของเขานั้นซ่อนอะไรไว้ภายใน เขาอาจจะเป็นพยัคฆ์ร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้หนังราชสีห์ก็ได้ คุณควรจะหัดมองคนให้ถึงแก่นแท้ของบุคลิกมากกว่า เ พี ยงแค่รถสปอร์ตราคาเป็นล้านของเขาและยิ่งกว่านั้น คนสวยๆ หล่อๆ มักจะใช้เวลาตกแต่งแต่รูปภายนอกของเขามากกว่ารูปภายใน และจะมีประโยชน์อะไรที่จะได้แต่เปลือกซึ่งไม่มีแก่นของเขา หรือไม่ก็เป็นแก่นที่เน่า หรือกลวงข้างใน ยิ่งกว่านั้น ภายใต้ความหล่อและกลิ่นอาฟเตอร์เชฟของเขาก็คือ กลิ่นเหงื่อกลิ่นตัว เจาะลึกลงไปก็เจอแต่น้ำเลือดน้ำเหลืองน้ำหนองเหมือนๆ กัน แล้วคุณจะไปหลงใหลได้ปลื้มอะไรกันนักหนากับรูปที่ไม่กี่วันก็เหี่ยวเฉาลงไป

         (6) อย่าแต่งงานเพราะทรัพย์สมบัติและเงินในบัญชีของเขา
ผู้หญิงหลายคนแต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวย เพราะขี้เกียจไปกัดก้อนเกลือกินกับใคร ความจริงเรื่องความรวยนั้นใครๆ ก็ชอบ เป็นคุณสมบัติในทางที่น่าพิสมัยของผู้ชายด้วยซ้ำไป แต่ถ้าผู้ชายที่มีแต่ความรวยให้คุณเ พี ยงอย่างเดียว แต่เขาไม่มีเวลาให้คุณ หรือเขาให้คุณเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองของเขา แต่เขาไม่ซื่อสัตย์กับคุณ แอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยให้คุณช้ำใจอยู่เสมอ คุณจะทนได้หรือ ต่อให้เขามีเงินล้นฟ้าคุณก็จะน้ำตาเช็ดหัวเข่าและคิดว่า สู้เขาไม่ร่ำไม่รวย แต่มีเวลาและความรักให้คุณจะดีกว่าเป็นไหนๆ

            ดังนั้น เมื่อรู้จักผู้ชายที่ร่ำรวยควรศึกษาเขาให้ดีว่า เขาทำมาหากินอะไร อย่าให้ความรวยมาทำให้คุณตามืดมัวไปกับวัตถุสำเร็จรูปที่เขาสรรหามาให้ มากกว่าความรักและความจริงใจของเขา

           (7) อย่าแต่งงานเพราะอยากหนีตนเอง คนบางคนแต่งงานเพราะไม่ต้องการเผชิญกับความรู้สึกสับสนว้าวุ่นและขาดเป้าหมายของชีวิตตน เอ ง ใช้การแต่งงานเป็นการแสวงหาความหมายให้ชีวิต อยากให้คู่สมรสมาเติมความ"ขาด"ในชีวิตที่เขาควรจะเติมให้ตน เอ ง ผู้หญิงบางคนไม่ใคร่ชอบตน เอ ง ไม่ใคร่เชื่อหรือไว้วางใจว่า จะมีใครที่รักเธอจริง เมื่อมีความสัมพันธ์กับใคร ก็มักจะต้องการให้ผู้ชายนั้นมาเติมให้ชีวิตของเธอเต็มขึ้นมา ซึ่งเธอก็มักจะพบกับความผิดหวัง เพราะเธอไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น เธอต้องการแต่งงานเพื่อหลีกหนีบางสิ่งบางอย่างของชีวิตที่เธอไม่อยากเผชิญกับมันเท่านั้น

         (8) อย่าแต่งงานเพราะคิดว่าจะเปลี่ยนนิสัยเขาได้ นิสัยคนเรานั้นจะเปลี่ยนได้หรือไม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวของเขา เอ ง อย่าคิดว่า คนเราจะเปลี่ยนนิสัยกันได้ง่ายๆ เพราะเรามักจะมีความเคยชินดั้งเดิมที่ได้รับการปลูกฝังมาเป็นสิบๆ ปี การเปลี่ยนความเคยชิน ต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยว อย่าแต่งงานเพราะคิดจะเปลี่ยนนิสัยใคร เพราะถ้าเขาไม่อยากเปลี่ยนตัวของเขา เอ ง คนที่เสียใจที่สุดก็คือคุณ

           (9) อย่าแต่งงานเพราะความเหงา  ถ้าคุณเป็นคนขี้เหงามองหน้าตัว เองในกระจกก็เบื่อมองไปรอบๆ ห้องก็เจอแต่สิ่งเก่าๆเฟอร์นิเจอร์เดิมๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นในชีวิต และคุณก็คิดอยากจะได้ใครสักคนมาแก้เหงา คุณก็เลยแต่งงานไปกับคนที่คุณรู้ทั้งรู้ว่า เขาไม่เหมาะกับคุณ แต่คุณคิดว่า"ดีกว่าอยู่เปล่าๆคนเดียว" เขาคงมาช่วยบำบัดความหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวในจิตวิญญาณคุณได้ละก็ขอบอกว่า คุณคิดผิด เพราะเมื่อความเหงาเข้าจู่โจมจิตใจนั้น คนเรามักขาดการกลั่นกรองเห็นผิดเป็นชอบ คุณอาจจะไปคว้าใครก็ไม่รู้มาบำบัดความเหงาของคุณ และคนคนนั้นอาจจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ในชีวิตภายภาคหน้าของคุณก็ได้

            ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มิได้หมายความว่าคุณไม่ควรแต่งงานหรือถ้าคุณแต่งงาน โดยไม่มีข้ออ้างทั้ง 9 ข้อนี้ ชีวิตคู่คุณจะปลอดโปร่งโล่งใจตลอดไป การแต่งงานจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ขึ้นอยู่กับตัวแปรมากมาย 9 ข้อนี้ เป็นเ พี ยงข้อควรระวังว่า

            ถ้าคุณแต่งงานด้วยเหตุผลเหล่านี้โอกาสที่คุณจะผิดหวังกับชีวิตคู่นั้นอาจจะมีสูงกว่าคนอื่น การแต่งงานที่ประสบความสำเร็จ มักจะเริ่มจากความรัก ความเข้าใจเป็นพื้นฐาน แต่ก่อนที่ความสัมพันธ์ของคุณจะพัฒนาไปสู่การแต่งงานนั้น คุณอาจจะใช้วิจารณญาณใคร่ครวญสักนิดว่า  คุณรักเขาหรือไม่

คำสำคัญ (Tags): #ครอบครัว
หมายเลขบันทึก: 94042เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2007 11:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไม่อยากเหงาทำงัยดีเฮ้ย

ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง เพื่อตัวเองบ้าง แค่นี้ก็หายเหงาแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท