ตลอดระยะเวลาในการให้บริการปรึกษา
พบว่ามีผู้ที่ประสบปัญหาความรัก รักไม่สมหวังจะเกิดความทุกข์ เกิดขึ้นในจิตใจ เกิดความเศร้า เหงา หว้าเหว่ ร้องไห้ เสียใจ ไร้ค่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ยอมรับไม่ได้ รักนี้ต้องชำระ ชีวิตนี้ขาดเขาเราต้องตาย จะมีคำพูดเหล่านี้วนเวียนในจิตใจ ของผู้ที่สูญเสีย ในแต่ละวันจะอยู่กับความทุกข์ ปล่อยปละละเลย ไม่ค่อยใส่ใจดูแลตนเองมากนัก
สภาพจิตใจของผู้ที่อกหัก ผู้ที่มีความรู้สึกแบบนี้อาจจะเข้าใจดี แต่ผู้เขียน บันทึกจากประสบการณ์ของผู้ที่เป็นครูที่มีโอกาสได้มาบอกเล่าคอารมณืความรู้สึก ว่าเมื่อ แฟนทิ้ง จะมีสภาพจิตอย่างนี้
ความรู้สึกที่เกิดขึ้น บอกกับตนเองว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปจากตนเอง ฝันไปหรือเปล่า ยังยอมรับไม่ได้ในการจากไปของแฟน มักจะโทษตนเองว่า เป็นความผิดของตัวเอง ตนเองไม่ดี เขาถึงได้ทิ้งไป ขาดที่พึ่งทางจิตใจ ในผู้หญิงบางคนก็ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้
ยังจะต้องยึดเหนี่ยวเขาไว้ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม ตามล่าทุกแห่งที่แฟนไป ไม่ว่าโทรไปหา ไปดักพบ ฝากเพื่อนโทร ตามตื้อ ขอโทษขอโพย ขอโอกาสอีกครั้งให้กับตนเอง สรุปว่าจะขอทำทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง ให้อภัยทุกอย่างที่จะให้แฟนกลับมา
เป็นความจริงค่ะ ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าทำไมต้องถูกทิ้ง
ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งกล่าวไว้ว่า
เมื่อคนรักของเราจากเราไป จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระ
เมื่อเขากลับมา, เขาจะเป็นของเขาไปตลอดกาล
แต่ถ้าเขาไม่กลับมา
ให้คิดซะว่า, เขาไม่ใช่ของเราตั้งแต่ต้น
ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากๆ ในฐานะที่ไม่มีเพื่อนอยู่ในเมืองไทยเลย เราขอระบายให้เพื่อนๆฟังก็แล้วกันนะ เมื่อเช้าเราถูกแฟนบอกเลิก ที่แย่กว่านั้นเรายังมีปากเสียงกับพ่อของแฟนเราอีก ตั้งแต่เรากลับจากเมืองนอกเราก็คบผู้ชายคนนี้แค่คนเดียว เกือบ 2 ปีแล้ว แต่แล้วความสัมพันธ์ที่มันร่อแร่อยู่แล้ว ก็ไม่อาจไปต่อได้
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่เรารู้จักกับแฟนเราใหม่ๆ ช่วง มกราคมปีที่แล้ว เรารู้สึกดีมาก แฟนเราเค้าก็ทุ่มเทให้เรามากเลย ถึงขนาดเค้าไปสักชื่อเราที่แขน แต่เนื่องจากพ่อแม่เค้าอยากให้ลูกเป็นนายร้อยทหาร มีรอยสักมันก็เป็นทหารไม่ได้ แล้วเค้าก็สักซะใหญ่เลย ทำให้ลบยากทั้งที่พยามไปลบที่กรุงเพหลายรอบแล้วก็ตามแต่ก็ไม่จาง นับจากจุดนี้เป็นต้นมามันทำให้ พ่อแม่เค้าจงเกลียดจงชังเรามาก ซึ่งแต่เดิมพ่อแม่เค้าก็ไม่ค่อยชอบเราอยู่แล้ว เพราะบุคลิกเราดูมั่นใจ แล้วเราก็แต่งตัวแต่พ่อแม่เค้าชอบเด็กเรียบร้อยแบบผ้าพับไว้ เมื่อกลางปีที่แล้วแฟนเราถูกพ่อแม่สั่งห้ามไม่ให้คบกัน แต่แฟนเราก็ยังแอบโทรหาเราทุกวันแล้วก็มาเจอเราบ้างประปราย ก็แอบคบแอบโทรหากันมาเรื่อยๆ จนมาถึงเมื่อ มกราคม ต้นปีนี้เราเตรียมการจะไปต่อด๊อกเตอร์ที่นิวซีแลนด์ ทำวัซ่า จ่ายค่าเล่าเรียน แถมเดินทางไปเรียนเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไปได้ไม่ถึง 15 วัน แฟนเราเค้าโทรไปหาทำให้เรารู้สึกตัดเค้าไม่ขาด จึงตัดสินใจถอนสภาพนักศึกษาแล้วกลับมาเมืองไทยเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ เรายอมทิ้งอนาคตที่เมืองนอก เพื่อเค้า ในที่สุดเราก็กลับมาอยู่เมืองไทย อยู่กับความสัมพันธ์แบบหลบๆซ่อนๆไม่ให้พ่อแม่เค้ารู้ จริงๆก่อนเราเดินทางไปนิวซีแลนด์พ่อแม่เค้าเคยโทรมาขู่ราดน้ำกรดเราถ้าเราไม่เลิกคบกับลูกเค้า แต่เฟิร์นก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร จนกระทั่งวันนี้นอกจากขู่ราดน้ำกรดแล้ว เค้ายังหาผู้หญิงมาให้คบกับแฟนเรา ซึ่งแฟนเราก็คบกับผู้หญิงคนนั้นขณะที่คบกับเราอยู่ระยะหนึ่ง จนผู้หญิงคนนั้นไปมีกิ๊กใหม่แล้วเลิกไป ช่วงนั้นเราทรมานมาก ต้องไปหาจิตแพทย์กินยาทุกวัน ตั้งแต่กุมภามาความสัมพันธ์ก็โอเค คุยกันทุกวัน วันละหลายครั้ง แต่เรื่องมันมีอยู่ว่าวันนี้เราคุยกับแฟนทางโทรศัพท์มีปากเสียงกันนิดหน่อย แฟนเราเค้าก็กดวางหูแล้วก็ปิดเครื่องไม่ยอมคุยกับเรา เราก็เลยขับรถไปดักรอเค้าหน้าบ้าน เป็นตึกแถว ในระหว่างที่เค้าขับรถเข้ามาจอด พ่อเค้าก็ออกมาหน้าบ้านพอดี แทนที่เราจะมีโอกาสปรับความเข้าใจกับแฟน พ่อเค้ากลับเข้ามาด่าเราด้วยถ้อยคำหยาบคาย เรียกเราว่าอีเหี้ย เลิกมาตามตื้อลูกกูสักที แล้วก็ตะโกนด่าเราโดยใช้สรรพนามมึงกูตลอดเวลา ที่แย่กว่านั้นคือแฟนเราเค้าก็กลัวพ่อเค้ารู้ว่ายังแอบติดต่อเรา เค้าก็ผลักแขนเราแล้วก็พูดต่อหน้าพ่อเค้าว่า เฟิร์นผมขอร้องล่ะ อย่ามาตามตื้อผมอีกเลย ผมรู้สึกฝืนมากที่ต้องแอบคบกันไปซะเถอะแล้วไม่ต้องติดต่อกลับมาอีกนะ ในขณะเดียวกันพ่อเค้าก็ตะโกนว่าใช่อีเหี้ยมึงเลิกยุ่งกับลูกกูซะที เห็นมั้ยว่าลูกกูไม่ได้อยากคบมึงเลย แล้วก็ด่าลามไปถึงพ่อแม่เรา พลางพูดว่าถ้ามึงไม่ไปกูจะไปโทรหาตำรวจมาลากมึง เราก็เบรกแตกแล้ว หันไปหาพ่อของแฟนแล้วก็พูดหยาบๆออกไปเลยว่า มึงหุบปากไปเลย ถ้ามึงอยากจะเอาตำรวจมาลากคอกูมึงก็เข้าบ้านไปโทรเลยดิ ยืนอยู่ทำไม พูดแค่นี้ แฟนเราก็บอกว่า เราหยามศักดิ์ศรีเค้าโดยพูดหยาบกับพ่อเค้า แต่ทีพ่อเค้าด่าเราเสียหายดังลั่นจนข้างบ้านออกมาดู โดยที่แฟนเราไม่ปกป้องอะไรเราเลย หลังจากนั้นเราก็ร้องไห้กลับบ้าน แล้วแฟนเราเค้าก็ดมือถือไปเลย คิดว่าคงเปลี่ยนเบอร์หนีเราไปแล้ว เราหัวใจแตกสลายเลยเพราะรักเค้ามาก ยอมทิ้งอนาคตการเรียนต่อที่เมืองนอก กลับมาหาเค้า แต่เราไม่ได้อะไรเลย ช่วยบอกเราทีว่าเราควรจะทำยังไงต่อไปดี ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้วตอนนี้เราเป็นแค่ชู้เท่านั้นเอง เราเลือกเองที่จะเป็นแบบนี้ เรารักเขามาก ๆเลย เพิ่งจะรู้ก้ตอนที่สายไป ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเราอยากเป็นเจ้าของของเค้ามากไป มันทำให้เค้าอึดอัด มาก ๆ เวลาที่อยู่กับเรา เค้าเลยกลับไปหาแฟนเก่าเค้า เราขอร้องให้เค้าคบเราด้วย เค้ายอมแต่มีข้อแม้ว่าแฟนเค้าจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้ นั่นใงเจ็บแปลบ เลยมั้ยหล่ะเรา เค้าบอกว่าจะเปิดโอกาสให้เรา แต่เราคิดว่าเค้าคงแค่สงสารเรามากกว่า กลัวเราจะอ่อนแอ เค้าคงคิดว่าถ้าเราทนไม่ได้ เราคงออกไปจากชีวิตเค้าเองแหล่ะ เราก็เป็นได้แค่นี้ใง เค้าคงไม่มีวันกลับมารักเราอีกแล้ว เราน่าจะเข้าใจมันให้ได้ ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือยอมรับมันให้ได้ เราเลือกเอง เลือกที่จะเป็นแค่ ชู้ เพียงแค่ขอให้มีเค้าอยู่กับเรา ถึงมันจะไม่ได้ใจเค้าเลยก้เหอะ แต่เมื่อมันถึงเวลาที่เราทนไม่ไหวเราก็คงเดินออกมาโดยที่เราเข้มแข็งมากกว่านี้ ถึงเวลานั้นเราคงตัดใจจากเค้าได้แล้วหล่ะเมื่อวานเค้าโทรมาหาเรา เราดีใจมาก ๆ แต่ เค้ากลับโทรมาบอกว่าถ้าแฟนเค้าโทรมา ให้เราบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้ว แค่คุยกันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร มันเจ็บแปลบ ๆ โทษใครไม่ได้นะ เลือกที่จะเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องเจ็บแบบนี้แหล่ะ จำไว้ เรามาทีหลัง แล้ววเค้าก็ไม่เลือกเรา เรายื้อเค้าเอง แม้มันจะไม่ได้ใจของเขาเลยแต่มีหวังเล็ ๆว่าสักวันเค้าจะเป็นความดีของเราบ้าง
สวัสดีค่ะ ....คนที่มาทีหลัง
ขอให้กำลังใจนะค่ะ คุณเป็นคนที่กล้าหาญ และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เผชิญกับความจริง ทำให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นค่ะ