คนขายปลาหมึกเลือกปลาหมึกลงมาจากแผง เกลี่ยถ่านไฟในเตา ค่อยๆ ย่างปลาหมึกช้าๆ พลิกไปพลิกมาจนสุกสม่ำเสมอทั้งแผ่น
เสียบปลาหมึกใส่เครื่องรีด หมุนวงล้อรีดปลาหมึกจนกระทั่งมันบางลงอย่างสม่ำเสมอ ปรุงน้ำจิ้ม แต่ละท่วงท่าไม่ต่างจากศิลปินที่กำลังสร้างสรรค์งานจิตรกรรม หรือนักบวชที่กำลังประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์
คนขายก๋วยเตี๋ยว ลวกเส้นบะหมี่ในน้ำร้อน สลับน้ำเย็น
แล้วลวกในน้ำร้อนอีก โยนลูกชิ้นลงในน้ำเดือด
ใส่เครื่องปรุงบนบะหมี่ทีละอย่าง คลุกเคล้าเข้ากัน โรยผักชีละเครื่องปรุง
คนขายลูกชิ้นปิ้งเสียบลูกชิ้นใส่ไม้ทีละลูก
ปรับความร้อนจากเตาถ่านให้เสมอกัน วางไม้เสียบลูกชิ้นบนตะแกรง
พลิกไม้ไปมาเพื่อให้ความร้อนซึมซาบสู่เนื้อลูกชิ้นแต่ละจุดอย่างสม่ำเสมอ
แต่ละงานล้วนมีรายละเอียด เช่นเดียวกับงานของคนซ่อมรองเท้า
คนซ่อมนาฬิกา ช่างก่ออิฐ ช่างทำเครื่องเรือน คนพับถุง คนชงกาแฟ...
ไม่ทุกคนในโลกที่สามารถทำงานใหญ่
แต่เราทุกคนสามารถทำงานเล็กด้วยพลังกายใจเดียวกับการทำงานใหญ่
คนจำนวนมากชอบทำงานใหญ่มากกว่างานเล็ก
บางคนถึงกับเหยียดหยามงานเล็กว่าต้อยต่ำ
โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อว่าปริญญาบัตรคือตัวกำหนดความแตกต่างระหว่างงานใหญ่กับงานเล็ก
สถาปนิกไม่น้อยไม่อยากออกแบบงานเล็กๆ
ทนายความไม่น้อยไม่อยากว่าความคดีเล็ก เพราะได้เงินน้อยกว่า
และไม่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้ ทว่าหากทุกคนในโลกไปทำงานใหญ่กันหมด ใครจะทำงานเล็ก?
เราควรแยกให้ถูกระหว่างคำว่า 'งานใหญ่' กับ 'งานยิ่งใหญ่'
งานยิ่งใหญ่มิจำเป็นต้องเป็นงานใหญ่
สถาปนิกสามารถสร้างกระท่อมเล็กให้มีคุณค่าทางศิลปะมากกว่าปราสาท
คนชงกาแฟอาจทำงานด้วยความประณีตกว่านักเคมีในห้องปฏิบัติการ
ไม่ทุกคนที่สามารถเป็นผู้สร้างกระแส หรือ 'เสาหลัก' ในด้านต่างๆ
คุณค่าของคนมิได้วัดกันที่สถานที่ทำงาน เงินเดือน
ศักดิ์ศรีของนายกรัฐมนตรีกับคนขายหมูปิ้งริมถนนไม่ต่างกัน
เพราะหากปราศจากฟันเฟืองตัวเล็กจำนวนมาก
เครื่องจักรแห่งสังคมก็ไม่เขยื้อน