KM WS : ม.หอการค้าไทย "การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการฯ"


ลีลาของอาจารย์แต่ละท่านที่มานำเสนอก็เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งนั้น บ้างก็ว่าออกมานำเสนอเพราะสีเสื้อเข้ากับสีลิปสติก บ้างก็กระโปรงสวยเลยเป็นตัวแทนกลุ่ม ขำกันน่าดู ไม่ใช่ขำเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องที่ออกมานำเสนอทุกกลุ่ม สกัดได้ออกมาดีมากละเอียดทุกข้อ สมกับที่เป็นอาจารย์คุณภาพจริง ๆ

          เมื่อวันที่ 23-24 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา เราทีม NUKM ได้มีโอกาสไปจัด KM Workshop ให้กับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยอีกครั้ง คราวนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 40 คน เป็นอาจารย์ทั้งหมด โดยมีหัวปลาว่า “การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น” ทีม NUKM ไปกันคราวนี้มี 5 คน ดังนี้

          P P P P P

          ครั้งแรกที่ไปคราวนี้บอกตามตรงว่า ไม่ค่อยมั่นใจกับการไปเป็น “ฟาน้อย” เลย เพราะหัวปลาที่ตั้งคนละเรื่องกับที่เรารู้ ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไรนัก แล้วจะฟังได้รู้เรื่องหรือเปล่า หรือจะได้อะไรตามที่หวังไว้หรือเปล่า (แล้วยังแอบคิดอีกว่า กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเป็นอาจารย์ คงไม่ค่อยได้รับความร่วมมือในการเล่าเรื่องเท่าที่ควร)

          วันแรกของงาน ไปถึงช่วงเช้าก่อนงานเริ่มเล็กน้อย แต่ผู้เข้าร่วมยังมากันไม่มากนัก เลยเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง คนเข้าร่วมมากันประมาณ 20 กว่าคน ก็เริ่ม KM Workshop คราวนี้ อ.วิบูลย์ ปรับกระบวนการใหม่ โดยเริ่มจากการให้ชม VCD เสียงกู่จากครูใหญ่ ซึ่งสังเกตได้เลยว่าสะกดผู้เข้าร่วมได้เลย เป็นการสร้างแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นได้ดี เพราะจะบอกกลาย ๆ ว่าให้ “ถอดหมวก” กันได้แล้ว เราจะเริ่มแลกเปลี่ยนกันแล้วนะ ชมจบให้จับกลุ่มสกัดโจทย์ 2 ข้อ คือ ได้แรงบันดาลใจอะไร และ ปัจจัยสู่ความสำเร็จของครูใหญ่คืออะไร แล้วมานำเสนอกัน

          บรรยากาศดีมาก อาจารย์ทุกคนที่เข้าร่วม KM Workshop ครั้งนี้ให้ความร่วมมืออย่างดี ช่วยกันสกัดโจทย์ แล้วนำเสนออกมาได้ดีมาก

          ถึงเวลาจับกลุ่มเล่าเรื่อง ตอนแรกตั้งใจแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประจำกันคนละกลุ่ม น้องหน่อยจะได้ประเดิมประจำกลุ่มครั้งแรกคนเดียวด้วย แต่ผู้เข้าร่วมมี 20 กว่าท่าน จึงแบ่งเป็น 3 กลุ่ม น้องหน่อยเลยมาประจำกลุ่มด้วยกัน ทำให้เห็นบรรยากาศได้ดี การจับกลุ่มเล่าเรื่องนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นมาก ๆ (มากเกินคาดจริง ๆ) จะขอเล่าในกลุ่มของตัวเองเพราะสัมผัสได้ลึกกว่ากลุ่มอื่น

          สมาชิกในกลุ่มมี 8 ท่าน เป็นอาจารย์จากต่างคณะกันแต่ก็รู้จักกันอยู่แล้ว มีตำแหน่งทางวิชาการ (ผู้ช่วยศาสตราจารย์) 4 ท่าน และอาจารย์ ที่ยังไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ 4 ท่าน บรรยากาศการเล่าเริ่มจาก “ผศ.” ไล่ตั้งแต่อาวุโสมาเลย การเล่านั้นเป็นไปด้วยการเอื้อให้เกิดความอยากเล่ามาก ๆ เพราะท่านที่เล่านั้นก็เล่าประสบการณ์การขอตำแหน่งตั้งแต่สมัย 10 กว่าปีมาแล้ว บางคนใช้เวลาเป็น 10 ปี บางคนใช้เวลาแค่ข้ามเดือนก็รู้ผลแล้ว

          อาจารย์ที่ยังไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ 4 ท่าน มีบางท่านที่ไม่คิดจะขอ ผศ. รศ.เลย พอฟังแล้ว อาจารย์ในกลุ่มทุกท่าน โดยเฉพาะ ผศ.ทั้ง 4 ยุกันทั้งกลุ่ม ทำไมไม่ขอ ขอเลย ทำเลยนะ ทำผลงานเลยนะ จนต้องเปลี่ยนความคิดว่าจะทำดู อาจารย์ที่ไม่คิดจะขอเลื่อนตำแหน่งให้เหตุผลว่า เกณฑ์ในการขอเลื่อนตำแหน่งฯ เปลี่ยนไปเรื่อย พอทำผลงานเสร็จเป็นเอางานวิจัย จึงไม่มีเวลาจะทำ ทั้งกลุ่มก็ให้ความเห็นว่า ทำไปเถอะ เพราะเราอยู่ในสังคม มันเป็นการยอมรับทางสังคมที่ปฏิเสธไม่ได้แล้ว ยุกันจนอาจารย์คนนั้นเปลี่ยนทัศนคติว่าจะลองทำดูบ้าง

          มี ผศ.ท่านหนึ่งเล่าว่าตัวเองเหมือนครูใหญ่จากการชม VCD เมื่อกี้มาก เริ่มจากการเป็นประชากรชั้น 2 นั่นคือ เจ้าหน้าที่ธรรมดา จนตั้งใจเรียนเพิ่ม สอบเป็นอาจารย์ จนปัจจุบันเป็น ผศ. อาจารย์จึงให้กำลังใจทุกท่านที่กำลังทำผลงาน ว่า “ให้ทำไปเถอะ ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง แต่ให้แบ่งเวลาให้ดี เพราะตัวอาจารย์เองก็ทำทุกอย่าง งานสอน งานวิจัย งานบริหาร งานบ้าน ภรรยาที่ดี และคุณแม่ที่ด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนทำได้” ส่วนอาจารย์ท่านอื่นที่บอกไม่รู้จะเล่าอะไร ไม่มีประสบการณ์ในการขอตำแหน่ง พวก ผศ. ก็ให้เล่ามาว่าทำถึงไหนแล้ว อยากรู้อะไร ทั้งกลุ่มจริง ๆ สัมผัสได้ถึงพลังในการเล่าเรื่องได้ดีมาก ๆ

          แต่งานนี้ “ฟาน้อย” เลยทำงานหนักในการต้องย้ำถึงเวลาที่เรากำหนดกัน เพราะทุกคนอยากรู้ อยากเล่ากันจนพูดเลยเวลากันมาก (แอบกระซิบน้องหน่อยว่า พี่ไม่เคยพูดมากอย่างนี้เลยนะเนี่ย แต่อย่างนี้ถือว่า ดี นะ ดีมาก ๆ ด้วย เพราะเป็นการที่พูดมากที่ดีกว่าการไม่พูดเลย) กลุ่มที่ได้เป็น “ฟาน้อย” ชื่อว่ากลุ่มอิทธิบาท 4 เพราะปัจจัยสู่ความสำเร็จของกลุ่มนี้เน้นเรื่องอิทธิบาท 4 (อีก 2 กลุ่มก็มีกลุ่มจตุคาม และกลุ่มทำบุญ – ตั้งตามปัจจัยสู่ความสำเร็จแบบขำ ๆ) บรรยากาศทุกกลุ่มก็เป็นอย่างนี้ คือ ทุกกลุ่มใส่ใจกับการ “ให้” ประสบการณ์ของตนมาก จนเกินเวลาทานข้าวกลางวันไปเกือบชั่วโมงเลย

          ช่วงบ่ายมานำเสนอภาพรวม และ Best Practice แต่ละกลุ่ม เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด เพราะลีลาอาจารย์แต่ละท่าน มีการนำเสนอที่ดึงดูดมาก สำหรับตัวเองแล้วประสบการณ์ครั้งนี้ประทับใจมาก ๆ ได้ทั้งเสียงหัวเราะ ได้ทั้งความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วย

          วันที่สองของงาน รู้สึกดีมาก เพราะผู้เข้าร่วมเข้าครบตามจำนวนที่เข้าจากวันแรก ไม่มีใครหายเลย (จากที่อ่าน AAR ทำให้รู้ว่าทุกคนรู้สึกดีกับการเข้า Workshop ครั้งนี้) วันนี้เริ่มจากชม VCD ความสำเร็จของเกษตรพิจิตรและโรงพยาบาลบ้านตาก แล้วแบ่งกลุ่มสกัดโจทย์ 4 ข้อ (KM คืออะไร ทำ(ใช้)KMแล้วได้อะไร ปัจจัยสู่ความสำเร็จคืออะไร และนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร) แล้วออกมานำเสนอ

          การนำเสนอก็น่าสนใจอีกเช่นกันเพราะลีลาของอาจารย์แต่ละท่านที่มานำเสนอก็เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งนั้น บ้างก็ว่าออกมานำเสนอเพราะสีเสื้อเข้ากับสีลิปสติก บ้างก็กระโปรงสวยเลยเป็นตัวแทนกลุ่ม ขำกันน่าดู ไม่ใช่ขำเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องที่ออกมานำเสนอทุกกลุ่ม สกัดได้ออกมาดีมากละเอียดทุกข้อ สมกับที่เป็นอาจารย์คุณภาพจริง ๆ

          จบด้วยการ AAR แต่พูดได้ไม่หมดทุกท่าน เพราะเกินเวลาอีกตามเคย แต่ก็ส่งใบ AAR กลับมาทุกคน และในวันที่ 3 พฤษภาคม 2550 นี้จะมีบุคลากรจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมาศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็ยินดีต้อนรับล่วงหน้าเลยนะคะ

          อ่านเรื่องเกี่ยวกับ KM Workshop : ม.หอการค้าไทย เพิ่มเติมอีกที่น้องหน่อยที่ไปด้วยกันดังนี้ค่ะ

KM workshop ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย : การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ (24 เมษายน 2550)

Story telling : อาจารย์รุ่งรัตน์ ชัยสำเร็จ

KM workshop ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย: การเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ(23 เมษายน 2550)


นำภาพบรรยากาศมาฝาก


นำเสนอแล้วก็จะได้ของรางวัลด้วย


ช่วงนำเสนอ


ช่วงท้ายของ KM Workshop

          รัตน์ทวี อ่อนดีกุล

หมายเลขบันทึก: 92915เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2007 17:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • หุหุ น่าสนุกดี นะค่ะ แต่ว่าขนาดมืออาชีพอย่างพี่โอ ยังวิตกกังวล เลย แต่ทำออกมาได้ดี จนทำให้อาจารย์ ม.หอการค้า พอใจ และเข้าถึงได้ ก็ยอดเยี่ยมละค่ะ
  • เวลาไปทำกิจกรรมกะอาจารย์ต่างๆนี่ สิ่งที่เราคิดไว้ล่วงหน้าคือกลัวเรื่องการให้ความร่วมมือ แต่ ก็ความกลัวเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเอง จริงๆแล้วไม่ใช่เลยสักนิ
  • เก่งๆ กันทั้งนั้นเลย ได้ประสบการณ์ให้ตัวเองอีกเพียบ

                             

สวัสดีครับคุณโอ

น่าสนใจมากครับ ผมทำ ผศ.แล้วแต่ยังไม่อยากขยับไปทำ รศ. เลยรู้สึกคนที่เป็นรศ.แล้วแก่...เลยยังไม่อยากแก่...มีเกร็ดมาเล่าให้ฟังบ้างไหมครับ...เผื่อจะอยากเลื่อนตำแหน่งกับเขาบ้าง...

โอชกร

หนุกมาก จริง ๆ  เพราะเป็น 1 ในกลุ่มที่เข้าร่วมทำ work shop ด้วย  ขอปรบมือให้สำหรับการเก็บรายละเอียดของทีมงาน  อยากบอกว่าทึ่งใน บุคลากร ของ ม.นเรศวร มาก ๆ  โดยเฉพาะท่านวิทยากร ดร. วิบูลยฺ์  อาจารย์ให้เกียรติกับผู้ร่วมงาน ทีมงาน และบุคลากรที่อาจารย์อ้างอิงถึงเสมอ หากท่านได้รับทราบวิธีการนำเสนอของท่านดร. วิบูลย์ คงปลื้มใจ ทีมงานของอาจารย์มีคุณภาพมากเลย  แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งคือการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วย  เพื่อนๆ ที่ไม่ได้เข้าอบรม ถามถึงการอบรม ยังไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้เท่า น้องรัตน์ทวีเลย  ขออนุญาต นำข้อมูลไปเผยแพร่ด้วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท