เส้นทางที่ 1 : เดนปาซ่าร์ – หาดคูตา – ทานาล็อต – หาดจิมบาราน - อูบูด


          วันแรกของการตระเวณทัวร์ในบาหลี  เดนปาซ่าร์คือเป้าหมายแรกของเรา เท่าที่เคยอ่านจากเว็บบอร์ดท่องเที่ยวต่างๆ  ยังไม่พบใครนำเที่ยวเดนปาซ่าร์เลยสักครั้ง อาจจะเป็นได้ว่าไม่ค่อยน่าสนใจเหมือนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างคูตาหรืออูบูด แต่การท่องโลกของเรามองมากกว่าการเที่ยวตามสถานที่สวยงามอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ต้องลึกซึ้งถึงวัฒนธรรม ภูมิประเทศ และการปกครองท้องถิ่นด้วย ทริปตะลุย 3 เมืองหลักครั้งนี้จึงพลาดเดนปาซ่าร์ไม่ได้เด็ดขาด

          เริ่มออกตัวจากโรงแรมนิกกิ ด้วยการขับรถทัวร์รอบๆ เมืองตามแผนที่อันสลับซับซ้อนที่ได้จากสนามบิน เสียเวลาอยู่นานพอควร ด้วยด้อยความสามารถในการอ่านแผนที่ แถมถนนแต่ละเส้นก็มีแต่ชื่อแปลกๆ อ่านยาก จำยาก รถราในเมืองเยอะพอสมควร แถมต้องระวังรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ค่อยต่างจากในเมืองไทยสักเท่าไหร่  แต่เป้าหมายของเราถือเครื่องหมายไฮไลต์สถานที่น่าสนใจในแผนที่ Bali Museum

          คนจำนวนไม่น้อยไม่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เพราะดูเป็นสิ่งน่าเบื่อ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีลักษณะคล้ายๆ กันทั้งนั้น แต่พิพิธภัณฑ์เป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนและความเป็นไปของประเทศได้ดีที่สุด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ สไตล์การท่องเที่ยวของเราที่มุ่งเน้นท้องถิ่น แถมข้อมูลท่องเที่ยวยังแทบไม่มี จึงต้องศึกษาจากพิพิธภัณฑ์เป็นอันดับต้นๆ ในทุกประเทศที่ไป

          ด้วยความมุ่งมั่นในการหา Bali Museum ทำให้มองแต่ป้ายและเกรงว่าจะขับรถเลยผ่านไป ก่อให้เกิดความบังเอิญที่เลี้ยวเข้าไปจอดรถใน Place of the Raja (King) หรือบ้านของกษัตริย์ที่อยู่ในเขตเดียวกับวัด เรียกว่าPURI (วัด) PEMECUTAN (ปูริ เปเมจูตัน)ปกติแล้วสถานที่นี้ไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็มีชาวบ้านส่วนหนึ่งเข้ามาทำบุญในวัด พอเข้าไปคุยกับรปภ.ของสถานที่เพราะนึกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ บอกว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาจากเมืองไทย คุณลุงแกก็เลยพาทัวร์บ้านกษัตริย์เสียเลย 

          ระบบการปกครองของอินโดนีเซียถูกนำโดยประธานาธิบดี แต่ในเมืองหรือเกาะต่างๆ นั้น แยกย่อยเป็นทั้งการปกครองโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐและกษัตริย์ ทำให้ทราบว่าระบบกษัตริย์ในประเทศเค้านั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนเรา แต่มีลักษณะคล้ายๆ กัน คือเป็นผู้ปกครองเมืองและสืบต่อกันตามเชื้อสาย บริหารตัวเองตามแนวนโยบายของประธานาธิบดี แล้วรายงานความเป็นไปให้ทราบ เท่าที่ทราบในบาหลีมี 3 เมืองที่ปกครองโดยระบบกษัตริย์ คือ คูตา เดนปาซ่าร์ และอูบูด ดังนั้นเราจึงเห็นบ้านของกษัตริย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวใน 3 เมืองนี้ (เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงทั้งคู่ เลยจับใจความได้ตามนี้ หากใครมีข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ ก็จะขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ)

          กษัตริย์ของเดนปาซ่าร์ชื่อ IDA COKORDAPEMECUTAN XI (อิดา จอกคอดาเปอเมอจูตันที่ 11) เราไม่ได้พบกษัตริย์ เพราะคาดว่าคงเป็นการยากที่จะเข้าพบ ได้แต่บังเอิญสวนกับญาติท่านเท่านั้น แต่ดูจากหน้าแล้วพิมพ์เดียวกันกับรูปที่ติดอยู่ทั่วไปเลย ดูหน้าตาเค้าแล้วคงคล้ายๆ กันหมด ภายในพระราชวัง (ใช้คำนี้ดูจะเหมาะกับกษัตริย์มากที่สุดค่ะ) ค่อนข้างกว้างขวาง มีสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ประทับ ที่ว่าราชการ ลานพักผ่อนที่มีเครื่องดนตรีพื้นเมืองนานาชนิด รวมถึงศาลาที่เคยใช้เป็นที่ขัดฟันด้วย  บอกตามตรงอันนี้แปลไม่ถูกจริงๆ ตอนไปพิพิธภัณฑ์เค้าอธิบายก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง รู้แต่ว่าจะมีพิธีสำหรับกษัตริย์ที่นอนอยู่บนเตียงแล้วมีคนมาขัดฟันให้ ไม่แน่ใจว่าเพื่อทำความสะอาด หรือจัดแต่งฟันให้ดูสวยงาม ใครมีข้อมูลช่วยกรุณาเข้ามาอธิบายด้วยเถอะค่ะ

  

          เดินทั่วพระราชวังแล้วก็เลยต่อไปที่วัดซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันค่ะ เป็นสถานที่ประกอบพิธีทำบุญ ชอบคนบาหลีมากที่สุดก็ตรงที่เค้าชอบทำบุญนี่แหละค่ะ ทำบุญกันเกือบทุกวัน ตอนเช้าอันดับแรกก็ต้องนำกระทงดอกไม้พร้อมธูปหนึ่งดอกไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านหรือสถานที่ สิ่งที่เสียดายมากคือไม่ได้บทสวดที่เค้าใช้ตอนบูชากระทงดอกไม้ คงคล้ายๆ กับบทสวดมนต์ นะโม ตัสสะ บ้านเรากระมังคะ

          สัญลักษณ์ของบาหลีที่เราเห็นทั่วไปคือ หนุมาน ที่เป็นรูปปั้นตั้งอยู่ทั่วเมือง แต่สัญลักษณ์ของเมืองเดนปาซ่าร์จริงๆ แล้ว คือมังกรและเต่า เราจึงเห็นรูปสัตว์สองชนิดนี้ตามเจดีย์ที่บูชาของชาวเดนปาซ่าร์  วันที่มานี้เป็นวันก่อนบุญใหญ่ เค้าจึงจะมีการเตรียมพิธีต่างๆ สำหรับวันรุ่งขึ้น  คนบาหลีน่ารักและมีน้ำใจมาก ไม่ต่างจากคนไทยเท่าไหร่ค่ะ เจอคนที่มาทำบุญเลยขอเข้าไปถ่ายรูปพิธีกรรมของเค้าเสียหน่อย นอกจากได้รับรอยยิ้มที่จริงใจแล้ว ยังได้รับคำแนะนำอย่างละเอียดเสียด้วย (เออๆ ออๆ ตามไป เพราะเค้าพูดภาษาอินโด ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ)

                พิธีกรรมของศาสนาฮินดูนั้น ค่อนข้างเยอะและยุ่งยากพอสมควร เอาเป็นว่าจะเล่าเฉพาะสิ่งที่น่าสนใจเท่านั้นแล้วกันค่ะ หลังจากจัดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เค้าก็จะจุดธูปหนึ่งกำ ประมาณ 11 ดอก แล้วเอาควันธูปรมในโหลแก้วใสเล็กๆ จากนั้นเอาโหลไปตักน้ำ เราก็จะเห็นควันลอยขึ้นมาจากน้ำพร้อมกลิ่นหอมของควันธูป แล้วจึงนำดอกไม้โรยใส่ไปในโหล ชอบขั้นตอนนี้ค่ะเพราะดูสวยและหอมด้วย จากคำบอกเล่าที่ฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ และท่าใบ้ประกอบ เลยเข้าใจเอาว่าเป็นการทำความสะอาดภาชนะที่ใส่ดอกไม้บูชา พร้อมทั้งช่วยเสริมให้มีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น ทำให้เหมาะกับการบูชาค่ะ แล้วก็สวดมนต์ พรมน้ำมนต์  ต่างๆ นานา ตามสไตล์ฮินดูไป               

 

          แยกจากกันด้วยความประทับใจ ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาเดียวกัน คนเอเชียก็สามารถสื่อสารกันเข้าใจด้วยความจริงใจค่ะ จากนั้นก็เดินทางต่อไปหาจุดหมายแรกที่ตั้งใจ แต่กว่าจะไปถึงเราก็ไปแวะได้อีก 2 ที่ใกล้ๆ กัน ที่แรกแวะเพราะชอบความยิ่งใหญ่อลังการ เป็น Government house (บ้านของผู้ปกครองเมือง เดาว่าเป็นจวนผู้ว่าฯ ค่ะ) ไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกเช่นกัน และวันศุกร์ก็เป็นวันหยุดราชการ (ดีจังเลยหยุดตั้งสามวัน) รปภ.คงเห็นว่าเป็นผู้หญิงไปคนเดียว ไม่น่าจะเข้าไปทำอะไรได้ เลยอนุญาตให้เข้าไปเดินชมและช่วยถ่ายรูปให้อีกต่างหาก

          กลับมามีแต่คนสงสัยว่าทำไมไปคนเดียวแล้วได้รูปถ่ายตัวเองติดมาด้วย..ปากเป็นเอก เลขเป็นโทค่ะ  เจอใครก็ยิ้มแล้วขอให้เค้าช่วยถ่ายให้ ไม่อย่างนั้นไม่ได้รูปตัวเองกลับมาแน่ค่ะ

          ออกมาก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม แวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์นักรบที่ “Puputan Square” อยู่ติดกับสนาม ฟุตบอลที่มีเด็กมาเล่นกลางวันแสกๆ แล้วก็ใกล้กับBali Museum และ Pura Agung Jagatnatha และ ค่ะ จอดรถที่เดียวเดินไปเที่ยวได้ทั่วเลย ไม่ต้องเสียค่าจอดรถหลายรอบ เอ! รู้สึกจะยาวไปแล้ว ยังไม่ออกจากเดนปาร์ซ่าเลย งั้นไปต่อที่หาดคูตาเลยดีกว่าค่ะ

 อนุสาวรีย์นักรบ

 

Bali Museum

 

Pura Agung Jagatnatha

          เราตั้งใจว่าคืนนี้จะไปนอนที่อูบูด แต่ต้องย้อนกลับไปทางคูตา ทานาล็อต แล้วก็อูลูวาตูก่อน ถึงเวลาเข้าจริงกว่าจะออกจากเดนปาซ่าร์ ไปแวะกินข้าวที่คูตา ช็อปปิ้ง SuperNova เดินเล่นชายหาดคูตาที่มีแต่คนเล่นเซิร์ฟบอร์ดอีกนิด แล้วไปชม Tanah Lot วัดที่ล้อมรอบด้วยทะเล ก็ไปได้ไกลสุดแค่หาดจิมบาราน เลยต้องแปะโป้งไว้ก่อน รอมาอีกครั้งวันสุดท้ายก่อนไปต่อที่จาการ์ต้า (ที่ไปแล้วก็รู้สึกเสียดายเวลา รู้อย่างนี้อยู่บาหลีต่อจนจบโปรแกรมดีกว่า)

          หาดคูตา มองไปทางไหนก็มีแต่เซิร์ฟบอร์ด วิวทะเลสวยๆ ไม่ค่อยเห็นหรอกค่ะ นอกจากดูนั่งท่องเที่ยวอาบแดดแล้วก็เพ้นท์ตัว แต่เห็นแล้วก็ แหม! ถ้ามีโอกาสคงต้องลองเล่นดูสักครั้งล่ะค่ะ 

 
หาดแห้งๆ อย่างนี้แหละค่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่เซิร์ฟบอร์ด

           ทานาล็อตเป็นวิหารกลางมหาสมุทรอินเดียที่สร้างในศตวรรษที่ 16 โดยนักบุญดายังระวาดี ที่บำเพ็ญศีลภาวนาและศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่นับถือของชาวบาหลี เชื่อกันว่ามีงูลายศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักษ์รักษาอยู่ภายใต้วิหาร           

         เดินเล่นที่ทานาล็อตท่ามกลางแดดอันร้อนระอุ จุดที่ประทับใจที่สุดกลับเป็นนักท่องเที่ยวที่แอบไปตกปลาอยู่ตรงหน้าผามหัศจรรย์ ทำให้จุดชมวิวเด็ดๆ ต้องมีพวกเค้าติดมาด้วยทุกรูป และนักเล่นเซิร์ฟบอร์ดเท่ห์ๆ ที่ลอยมากับคลื่นซึ่งกระหน่ำเข้ามายังฝั่ง ถือว่าฝีมือพี่แกสุดยอดมากค่ะ

  ให้ดูว่าคลื่นแรงมากจริงๆ ค่ะ
 เห็นมนุษย์ตัวเล็กๆ สองคนนั่งตกปลามั้ยคะ

          เมื่อถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ก็รีบขับรถไป Uluwatu ต่อ และเมื่อคาดว่าจะไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกดินที่นั่นแน่ๆ เลยแวะที่หาดจิมบารานก่อนซะเลย จากสี่หาดที่มีโอกาสได้ไป บรรยากาศที่จิมบารานดีที่สุดค่ะ มองขึ้นไปบนเขามีแต่ไฟเต็มไปหมด แสดงว่ามีที่พักอยู่เยอะมาก ได้ข่าวว่ามีแต่แพงๆ เลยไม่กล้าเข้าไปสืบราคา ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนใจร้ายมาวางระเบิดหาดสวยๆ อย่างนี้ได้ลงคอ

          เมื่อเดินไปตามชายหาด จะเห็นร้านอาหารและโต๊ะวางเรียงอยู่เต็มไปหมด ใจหนึ่งก็คิดว่า โห!..ต้องแพงแน่ๆ เลย เท้าแทบจะจุ่มในน้ำทะเลอยู่แล้ว บรรยากาศก็สุดแสนจะโรแมนติค แถมไปคนเดียวสั่งอะไรจะกินหมดเนี่ย รู้อย่างนี้ขนพรรคพวกมาเยอะๆ จะดีกว่า แต่ใจหนึ่งก็สั่งว่า แหม! ทำงานเหนื่อยมาทั้งปีนะยะ มาจนถึงนี่แล้วเธอจะพลาดโอกาสดีๆ อย่างนี้ได้ยังไง เมื่อสติหลุดไป ความอยากก็เข้ามา จึงเดินไปเลือกมุมที่สุดแสนจะโรแมนติคที่สุด ใกล้ทะเลที่สุด ห่างไกลจากชาวบ้านที่สุด จะได้ไม่อายใครเค้าที่มานั่งอยู่คนเดียว (มีแต่คู่สวีทเต็มชายหาดเลย..เฮ้อ)

           แล้วก็ดูเมนูอาหาร เอ๊ะ! ไม่แพงเท่าไหร่นี่หว่า แต่อ่านไม่ออกนี่แหละเรื่องใหญ่ แล้วจะสั่งอะไรดีน๊า...ปัญหาใหญ่เลยนะคะไอ้การเลือกของกินเนี่ย ถ้าเข้าใจผิด อ่านไม่ออก สั่งมั่วๆ ได้ของแย่ๆ มานี่เสียหายใหญ่หลวงเลย แล้วเค้าก็ให้ไปเลือกวัตถุดิบถึงที่ค่ะ เล็งแล้วเล็งอีกก็ใจไม่ถึงให้เค้าฆ่าสัตว์เป็นๆ ค่ะ เลยเลือกปลาสดๆ ตัวนึงที่ตายแล้วน้ำหนัก 1 กก. กับหมึกตัวเขื่องขนาด 1 กก...อย่างน้อยเราก็ไม่ได้สั่งให้เค้าฆ่าล่ะค่ะ

          รายละเอียดไปอ่านใน รายการอาหารที่บาหลี นะคะ ขอบอกว่าถูกสุดๆ และคุ้มมากจริงๆ เมื่ออิ่มท้อง อิ่มใจ อิ่มอารมณ์แล้ว ก็พร้อมออกเดินทางขับรถไปอูบูดอีกครั้ง ระยะทางแค่ 40 กว่ากม. แต่กว่าจะไปถึงก็ปาเข้าไป 2 ชม.ทีเดียวค่ะ...เพราะมัวแต่หลงและถามทางซะนาน...อีกแล้วคร้าบบบบท่านผู้ชม

หมายเลขบันทึก: 92553เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2007 00:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 23:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

  แล้วไม่มีรูปหาดจิมบารานมาให้ดูเหรอคะ ตกลงหาดนี้สวยกว่าที่ซานัวร์อีกเหรอคะ น่าแวะเที่ยวรึเปล่าคะ จะได้วางแผนถูก ( จริง ๆ ก็ไม่ค่อยมีเวลาหรอกค่ะ แต่อยากรู้ว่าถ้าอยากดูทะเลของบาหลีที่สวยที่สุดภายในระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ควรดูที่ไหนดีคะ )

  ชอบรูปที่ถ่ายมาค่ะ บาหลีมิวเซียมก็สวยนะคะ เริ่มรู้สึกแล้วล่ะค่ะว่า รู้อย่างนี้น่าจะให้เวลากับที่บาหลีมากกว่านี้ ที่เที่ยวเยอะกว่าที่คิดอีกค่ะ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย

  ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้เห็นภาพและเข้าใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ

หาดจิมบารานไปตอนมืดแล้วค่ะ ภาพที่ได้มาเลยไม่สวยเท่าที่ควร ถ้าถามถึงความสวยของหาดที่บาหลี สู้บ้านเราไม่ได้หรอกค่ะ แต่หากอยากเล่นเซิร์ฟ ก็ต้องไปหาดคูตา กีฬาทางน้ำอื่นๆ หาดนูซาดัวร์ สองหาดนี้คนพลุกพล่านค่ะ อยากดูหายทรายสีดำใกล้ๆ ก็ฝั่งตรงข้ามกัวลาวาห์ ส่วนอีกสองหาดที่เหลือ คือซานัวร์กับจิมบาราน จะเป็นหาดสงบๆ ค่ะ แห้งๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ

ถ้าให้แนะนำสำหรับเวลาจำกัดนะคะ วันสุดท้ายออกจากอูบูดแต่เช้าไปวัดทามานอายูนก่อน จากนั้นไปทานาล็อต แล้วผ่านคูตาเพื่อจองโรงแรม ต่อด้วยอูลูวาตู (สองที่นี้ก็ติดทะเลที่คลื่นแรงมาก..วิวสวยค่ะ) แล้วมาจบตอนเย็นกินอาหารทะเลที่หาดจิมบาราน เพราะบรรยากาศดีมากๆ ได้นั่งติดทะเล อาหารสดและไม่แพง แต่คนเยอะหน่อยนะคะ แล้วนอนที่คูตาเป็นคืนสุดท้ายก่อนกลับ เพราะใกล้สนามบิน หากมีเวลาตอนเช้ายังไปเดินเล่นที่หาดคูตาได้อีกค่ะ

At Pantai Kuta (ชายหาดกุตะ) เป็นย่านสำคัญของบาหลีอีกแห่งหนึ่งเลย มีที่พักหลากหลายระดับให้เลือกสรร แสะที่สำคัญ เป็นแหล่งชอปป์ด้วยแหละ มีอนุสาวีรย์ ตอนที่บาหลีโดนบอมบ์ มีห้างดิสคอฟเวอรี่ที่ใหญ่มาก ตรงข้ามกัน มีวอเตอร์บอมบ์ อลังการงานสร้างมาก ชายหาดสีดำ คลื่นแรงมาก ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น นิยมไปเล่นกีฬาทางน้ำกันสารพัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่ชื่นชอบงานศิลป์ วัฒนธรรม พลาดไม่ได้เลยที่บาหลี แล้วคุณจะลืมไม่ลง

ถ้าได้ไป ลองศึกษาภาษาอินโดนีเซีย สักนิดสักหน่อยก็ดีนะ

Selamat datang ยินดีต้อนรับ

Selamat Pagi สวัสดีตอนเช้า

Selamat Siang สวัสดีตอนเที่ยง

Selamat Sore สวัสดีตอนบ่าย

Selamat malam สวัสดีตอนค่ำ

Selamat tidur ราตรีสวัสดิ์

makan กิน

minum ดื่ม

terima kasih ขอบคุณ

sama sam ไม่เป็นไร

ini apa นี่คืออะไร

Berapa harga? ราคาเท่าไร

สนใจภาษาอินโดนีเซีย คุยกันได้นะครับ

กำลังวางแผนจะไปบาหลีช่วงปีใหม่นี่แหละค่ะ ไปคนเดียวเหมือนกัน ได้แรงบันดาลใจจากขอบคุณพอใจนี่แหละ ก่อนหน้านี้กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่นาน วิตกเรื่องที่พัก (ถ้าพัก

คนเดียว) จะปลอดภัยไม๊ เพราะเคยอ่ายเจอในเว็บว่าของหายบ้าง คิดว่าควรจะไป

พักแถวไหน ในเมืองหรือชายหาดจะปลอดภัยกว่า

ดีใจมากเลย เจอบล๊อกนี้ กำลังวางแผนจะไปเที่ยวต้นเดือนมีนานี้พอดี ช่วยได้เยอะเลยครับ

ตอนแรกจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนยังไม่แน่ใจ เลยต้องเตรียมแผนสำรอง เผื่อต้องไปคนเดียว

มีคำอื่นๆ ของภาษาอินโดอีกมั้ยครับ อยากฝึกมั่ง ^_^

กำลังจะไปเที่ยวบาหลี 17 -21มีนานี้ จองตั๋วแล้ว ทั้งไปและกลับ

นึกไม่ออกว่าจะเจออะไรมั้ง รู้อย่างเดียวว่าอยากไปเห็นธรรมชาติของบาหลี

และวัฒนธรรมชาวบ้าน ตามที่ได้เห็นรูป ขอบคุณมากสำหรับเรื่องราวของคุณ

ไปคนเดียวเหมือนกัน เพื่อน ๆ ไม่มีใครเสี่ยงเหมือนเรา เอาใจช่วยเราด้วยน่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ Porjai

พอดีว่ากำลังวางแผนจะไปเที่ยวบาหลีค่ะ

แต่ว่าจับจุดเริ่มต้นไม่ถูก

น่าจะอยู่หาโรงแรมที่บาหลีน่ะค่ะ อยู่ประมาณสัก 2-3 คืน

อยากรบกวนถามว่า ถ้าอยู่ ที่ ----บาหลีอย่างเดียว --- มีที่ไหนที่น่าสนใจบ้างค่ะ

และการเดินทางไปเที่ยวแต่ละที่ไปได้อย่างไรบ้าง

เพราะคุยกับแฟน เห็นบอกว่า มีชายหาด เดินไปได้ใกล้ๆ ดูท่าทางแล้วจะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ก็เลยอยากถามเพิ่มเติมค่ะ

ขอบคุณมากน่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท