สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก.. กรุงปักกิ่ง

(ต่อจากบันทึก สงกรานต์ปีนี้ขอไปดับร้อนที่...ปักกิ่ง)

             การได้ไปเที่ยว กรุงปักกิ่ง ครั้งนี้.. ได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวิธีคิดของ คนปักกิ่ง รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหลายเรื่องที่ดิฉันได้ประสบ เช่น

• ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองของกรุงปักกิ่ง หลังจากเรายืน passport ให้เจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้ว... จะมีไฟกระพริบขึ้นมาให้เราเลือกกดว่าบริการของเจ้าหน้าที่อยู่ในระดับใด.... ดังนั้นเราจะเห็นว่าที่ ตม. ของกรุงปักกิ่งนั้น เจ้าหน้าที่จะยิ้มแย้มแจ่มใสมาก... โดยเฉพาะเมื่อเรากด great ให้ (จากหน้าตาบึ้งตึง ก็จะยิ้มให้ทันที)

• ที่กรุงปักกิ่ง คนขับรถเมล์ หรือ รถส่วนราชการ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงขับ... ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้หญิงขับรถระมัดระวังกว่าผู้ชาย และไม่กล้าเสี่ยงเท่าผู้ชาย ดังนั้นอุบัติเหตุจากการขับรถจึงเกิดขึ้นน้อยกว่าถ้าให้ผู้หญิงเป็นคนขับ

• คนปักกิ่ง เป็นคนเปิดเผยมาก.... เวลาเข้าห้องน้ำมักไม่ปิดประตู..ห้องน้ำน่ากลัวมาก.... หากท่านใดจะไปเที่ยวขอแนะนำว่า ขอให้เข้าห้องน้ำเฉพาะในร้านอาหารหรือภัตตาคารและโรงแรมเท่านั้น... ตามสถานที่ท่องเที่ยวถ้าท่านไม่แน่จริง... อย่าเสี่ยงหรือลองนะค่ะ.... เพราะนักท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่เฉพาะชาวต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่อยู่ภูมิภาคต่างๆ ค่ะ...

• ที่ดินต่างๆ ของประเทศจีนนั้น รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของทั้งหมด... ประชาชนมีสิทธิ์ถือครองที่ดินได้จำนวน...ปี (จำไม่ได้ว่ากี่ปีแต่ไม่เหมือนเมืองไทยเราที่ถือครองที่ดินได้ตลอดไป)... แต่เมื่อใดที่รัฐบาลต้องการเวรคืนที่ดินบริเวณใดนั้นจะชดเชยให้เต็มที่... อาจจะเป็นเงินก้อนโตหรือบ้านสวยๆ หลังใหม่... แต่ถ้าเจ้าของที่ดินไม่ยินยอมเมื่อถึงกำหนดเวรคืนแล้ว รัฐบาลจะยึดและไม่ชดเชยอะไรให้เลย

• สำหรับกีฬา olympic ในปีหน้านี้ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพนั้น... รัฐบาลกำหนดไว้ว่าห้ามคนจีนในภูมิภาคต่างๆ เดินทางเข้ากรุงปักกิ่ง เพราะไม่เช่นนั้น กรุงปักกิ่ง แตกแน่ๆ

• เวลาเดินทางในกรุงปักกิ่งนั้นเค้าจะบอกทางกันโดยการบอกทิศว่าอยู่ ทิศไหน เช่น ทิศตะวันออก ทิศเหนือ เป็นต้น เพราะกรุงปักกิ่งมีขนาดใหญ่ จะบอกแค่ชื่อร้าน หรือ ตรอก ซอก ซอย ไม่ได้... ไม่งั้นหลงแน่

• ปาท่องโก๋ที่ปักกิ่งไม่เหมือนบ้านเราเลยค่ะ... เป็นแผ่นแบนๆ เค็มๆ (คนจีนชอบกินเค็มค่ะ) .... ดิฉันชอบปาท่องโก๋แบบบ้านเรามากกว่าค่ะ

• หอฟ้าเทียนถาน เนื่องจากเป็นสถานที่บวงสรวงเทวดาการตกแต่งจึงไม่ใช้สีเหลืองเพราะเป็นสีของฮ่องเต้ (ถ้าใช้สีเหลืองจะกลายเป็นบวงสรวงฮ่องเต้แทน) ... การตกแต่งจึงเน้นสีเขียวและน้ำเงิน.... ซึ่งสวยมากๆ ค่ะ แต่น่าเสียดายที่ดิฉันไม่ได้ยืนอธิฐานตรงจุดบวงสรวงที่เค้าบอกว่าเป็นศูนย์รวมของพลังทั้งหมด... เพราะรัฐบาลจีนสั่งให้รื้อออกเนื่องจากมีคนไปจุดนั้นมากเกินไป

• กำแพงเมืองจีน สร้างขึ้นด้วยชีวิตของคนจีน.... แต่กำแพงเมืองจีนก็สามารถใช้ประโยชน์ช่วยปกป้องเมืองและรักษาชีวิตคนจีนรุ่นหลังๆ ได้จริง... จากการรุกรานของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ที่มีจำนวนมาก

 

• ทหารชาวนา.. เป็นกองทัพที่ราชวงศ์จีนสมัยต่างๆ เกรงกลัวที่สุด... เพราะประชากรจีนเกือบทั้งหมดเป็นชาวนา... หากรวมตัวกันขึ้นก็ยากที่ทหารปกติจะต้านรับได้

         ดิฉันขอยกตัวอย่างเพียงเท่านี้นะค่ะ.. เพราะเรื่องเล่าหรือประวัติศาสตร์จีน... เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย ต่างๆ มีเยอะมาก... หากนึกเรื่องเด็ดๆ ได้อีกจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกนะค่ะ

 

[มณฑล สรไกรกิติกูล (Monthon Sorakraikitikul)]

ขอบคุณที่เก็บเรื่องดีๆ จากปักกิ่งมาฝาก