ใช้ปืนแก้ปัญหา ?


3จังหวัดชายแดนภาคใต้

      ที่อำเภอเทพา  อำเภอสะบ้าย้อย  อำเภอจะนะ  จังหวัดสงขลา  เป็นพื้นที่เป้าหมายของการก่อความไม่สงบรวมเป็น 4 จังหวัด  คือ  ยะลา  ปัตตานี  นราธิวาท  สงขลา  แต่จังหวัดสงขลา  เหตุการณ์ต่างๆ  มักจะไม่ค่อยมีการออกข่าว  เพราะเกลงว่าจะมีผลกระทบกับภาพลักษณ์ของขาดใหญ่  น่าแปลกที่จังหวัดสตูลเป็นพื้นที่เป้าหมายของกระบวนการแบ่งแยกดินแดน  แหลมมลายู  แต่ไม่เกิดเหตุการณ์  บางคนเชื่อว่า  กลุ่มไทยมุสลิมจังหวัดสตูลประชุมกันแล้ว  ไม่เห็นด้วย  บางคนเชื่อว่า  เป็นแหล่งกบดาลของคนและอาวุธ  เรื่องทำนองนี้  หากจะได้คำตอบ  ต้องใช้กระบวนการ  เรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม  หากประชุมหารือกันธรรมดาให้ประธานพูดบนเวที  ใกล้ๆหมดเวลาจึงให้ยกมือเสนอความเห็น  คงไม่ได้คำตอบ  เมื่อครั้งไปช่วยงานซึนามิที่ ภูเก็ต  พังงา  กระบี่  ระนอง  เคยถามแกนนำมูลนิธิศุพนิมิตร  ว่า  หากจะให้ไปทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  มีความเห็นอย่างไร  เธอตอบว่า  เคยมีคนมาติดต่อ  ให้ค่าตอบแทน 2 เท่า  จากที่นี่  แต่เธอไตร่ตรองแล้วคิดว่า  ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้  แต่เธอกลัวว่า  อาจจะถูกฆ่าเสียก่อน  เมื่อเธอเข้ากับชาวบ้านได้ดี 

      กองกำลังทหาร  ที่ขุดบังเกอร์ใช้ลวดหนามหุ้มรอบที่พัก  กลับกลายเป็นป้องกันตนเอง  ไม่ใช่ป้องกันประชาชน  เคยถามว่า  มีชาวบ้านเอาดอกไม้มาให้หรือไม่  ได้รับคำตอบว่า  แม้แต่อาหาร  ที่ชาวบ้านบางครั้งนำมาให้  ทางทหารยังไม่กล้ารับประทาน  แล้วเมื่อไหร่มวลชนจะอยู่ข้างเรา  ภาพที่หน่วยทหาร  หน่วยพฒนาต่างๆ  จะเข้าถึง  เข้าใจพัฒนา  ยังอยู่อีกห่างไกล  สลดใจ  ที่เห็นผู้หญิง  เด็ก  ชาวไทยมุสลิม  ยืนรอบโรงพัก  เพื่อให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา  ทราบว่ากลางคืน  มีการตีกลอง  ตีเกราะ  ให้ชาวบ้านมาประชุมกันถ้าใครไม่มา  จะอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้  ชาวบ้านคิดว่า  ไม่ให้ความร่วมมือกับราชการ  ตัวเขาอยู่ได้  แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ก่อการ  ตัวเขาอาจจะตาย  ภาพในพิพิธพันธ์เมืองโกตาบารู  เมืองหลวงของรัฐกลันตัน  ประเทศมาเลเซีย  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  หญิงและเด็กต่างถือปืนยาวสมัยโบราณออกสู้รบเพื่อรักษาดินแดนของตน  หากคิดแง่ดี  ว่าไทยมุสลิมส่วนใหญ่  หวงแหนรักแผ่นดินไทย  ไม่อยากให้มีการแบ่งแยกดินแดน  เพียงแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร  การให้ประชาชนไทยมุสลิม  ไทยพุทธ  มีอาวุธไว้ป้องกันตนเอง  เป็นจำนวนมากๆ  อาจช่วยแก้ปัญหาได้  แต่ก็เสี่ยงเหมือนกัน  กลัวว่าอีกหน่อยการประท้วงที่หน้าโรงพัก  หญิงและเด็ก  จะพกอาวุธมายิงใส่ตำรวจแทนที่จะยิงกับผู้ก่อการ  อย่างไรก็ตาม  ต้องหารือในภาคีภาคใต้เอง  การตัดสินใจต้องเกิดขึ้นจากคนในพื้นที่  ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 

     สวัสดี  นายแพทย์บุญเรียง  ชูชัยแสงรัตน์ 

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี

โทร. 0819415586  วันที่ 22 เมษายน 2550

หมายเลขบันทึก: 91789เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2007 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ปัญหามันไปไกลเกินแล้ว เหมือนแก้กันไปวันๆ  จิตรใจคนก็คงเครียด ระแวงไม่รู้สิ้น ต้องใช้ระยะเวลาเป็นชั่วอายุ เพราะภาพแห่งความเคียดแค้น มันติดตรึงใจไปจนตาย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท