แหล่งผลิตที่ว่าคือบ้านขี อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคามใช้เวลาในการเดินทางไม่นานก็ถึงบ้านขี หมู่บ้านแห่งนี้ชาวบ้านยังคงเลี้ยงไหมกันมากเพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยห้าสิบขึ้นไป
(อาจารย์อ้อมสะออนเส้นไหมของชาวบ้าน)
กิจกรรมการเลี้ยงไหมนี้เป็นงานของคนแก่ แม่จันทร์แม่ฮักของผมบอกเล่าให้ฟังเพราะถ้าไม่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะพลอยขี้โรคไป แต่ถ้าได้ออกกำลังกายบ้าง ทำงานบ้างที่ไม่หนักเกินไปร่างกายก็จะแข็งแรง
แม่จันทร์เล่าว่าคนบ้านขีทอผ้าไม่เก่งแต่อาศัยขยันเลี้ยงหนอนไหม จึงมีเส้นไหมมาก เมื่อได้เส้นไหมมาก็จะไปให้ญาติที่บ้านอื่น ๆ ทอให้และนำผ้าไหมมาแบ่งกัน เจ้าของไหมส่วนหนึ่งคนทอส่วนหนึ่ง งานนนี้เรียกได้ว่าพึ่งพาอาศัยกันจริง ๆ
(เส้นไหมงามของชาวบ้านขี)
เรื่องการเลี้ยงหนอนไหมในความคิดของผมคิดว่ามันเป็นกิจกรรมที่น่าสนับสนุนเพราะเส้นไหมนั้นสามารถขายได้ตลอดและเก็บไว้นานได้โดยไม่ต้องกลัวมันเปลือยยุ่ย มีนายฮ้อยไปรับซื้อถึงที่หากไม่มีเงินใช้ก็เอาไปขายในเมืองให้พ่อค้าก็สามารถทำได้ นอกจากนั้นราคายังสูงอีกด้วย
ตัวอย่างของลูกสะไภ้ในบ้านขีหลังหนึ่งเลี้ยงและสาวไหมได้มาก หลังเก็บเส้นไหมไว้ ไม่นานในครอบครัวต้องการใช้เงินเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว งานนี้ก็เอาไหมไปขายให้แม่สามี แม่สามีก็รับซื้อเหตุผลส่วนหนึ่งเพราะไหมนี้มีค่าและราคาไม่ตกการรับซื้อไว้ก้เพื่อช่วยเหลือสะใภ้และคาดว่าราคามันคงดีในอนาคต
(ลูกสะใภ้เอาไหมมาขายให้แม่สามี ไหมงามมาก)