นานาสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยง: นก กระรอก งู จิ้งจก ตุ๊กแกและอื่นๆ


เพื่อนๆชาวกรุงที่ยังไม่เคยมาบ้านเรามาก่อน มักถามว่า"มีตุ๊กแกมั้ย กลัวตุ๊กแกที่สุด" หรือ "มีงูมั้ย ไม่อันตรายเหรอ"

 

ก่อนที่นกกระเต็นจะบินหนีไป มีนกที่เพิ่งเคยเห็นตอนมาอยู่บ้านริมน้ำนี้มาเกาะทีต้นตะแบกเช่นกัน พยายามดูในหนังสือดูนกว่ามันชื่ออะไร ก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็น นกบั้งรอกไฟ หรือนกอีวาบตั๊กแตน หรือมันคืออย่างเดียวกันโผมาเกาะที่กิ่งต้นตะแบกข้างห้องทำงานที่กำลังเขียนบล็อกอยู่นี่แหละค่ะ ตัวมันเล็กกว่านกกระปูดนิดนึง ขนออกจะสีเทาเข้มที่ลำตัว ใต้ท้องสีเทาอ่อนอมน้ำตาล หางยาวมาก เวลามันเกาะอยู่สูงๆ จะเห็นว่าที่หางด้านในมีบั้งขาวๆเป็นระยะๆ วงตาเป็นสีแดงชัดเจน กะว่าจะถ่ายรูปซักหน่อยพอเราขยับตัวมันโผไปที่ต้นมะขามใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆกัน

ตั้งแต่ต้นตะขบขนาดใหญ่ที่เคยออกลูกเล็กๆสีแดงเต็มต้นถูกน้ำท่วมแล้วรากเน่าล้มครืน นกหลายๆชนิดที่เคยมาแวะเวียนก็หายไป ทีจริงพวกมันก็ไม่ได้หายไปไหน มันก็ไปที่ต้นไม้อื่นที่ไม่ได้อยู่ในบ้านเรา ต้องมองดูมันในระยะไกล มีกล้องส่องนกอันหนึ่งส่องดูนก ดูผีเสื้อจนเวียนหัวตาลายเป็นพักๆ(บางทีก็ส่องดูคนหาปลาบ้าง ชาวบ้านที่ทำงานที่แปลงเกษตรบ้าง)

เคยลองนับเล่นๆนับนกได้กว่าสิบชนิดทีเดียว มีนกกระปูด(หนึ่งคู่) นกอีวาบตั๊กแตน(หนึ่งคู่) นกกางเขนบ้าน นกสีชมพูสวน นกปรอด นกกระจอกบ้าน นกกระจิบธรรมดา นกกินปลีอกเหลือง นกกินปลีคอสีน้ำตาล นกแซงแซวหางปลา นกแซงแซวหางบ่วง นกอีแพรด นกขมิ้น นกกระจิ๊ด นกเขา นกกระเต็น(นกกินปลาปีกสีฟ้า) นกเอี้ยงธรรมดา นกเอี้ยงหัวหงอน นานทีจะเห็นนกตีทอง นี่คือพวกที่มาที่บ้าน

ที่ฟากตรงข้ามเป็นแนวไม้ร่มครึ้มไม่ตัดต้นไม้กันเลยมีนกเป็ดน้ำสองคู่อยู่ในดงยอดไม้ ตอนเช้าและเย็นจะพากันบินวนเป็นวงกว้างขึ้นๆลงๆสง่างามมาก ดูมีอิสระเบิกบานแบบนกๆ ฟากโน้นก็มีนกกระปูดอีกคู่หนึ่งเหมือนกัน และมีนกอะไรไม่รู้อยู่กันเป็นฝูงมักส่งเสียงเซ้งแซ่เป็นพักๆ

นี่ไม่นับพวกนกที่ไปหากินในนาข้าวพวกนกกระยางชนิดต่างๆที่บินกันเป็นฝูงๆผ่านบ้านทุกเช้าเย็น นานๆยังเคยเห็นนกอพยพน่ารักดูแปลกตามาเกาะที่ต้นไม้ข้างบ้านอยู่แค่วันเดียวแล้วไม่ได้เห็นอีกเลย คงมาพักเหนื่อย

 คนสมัยนี้เห็นนกแทนที่จะมีความสุขแบบใสๆ กลับมักนึกเลยไปถึงไข้หวัดนก เป็นกรรมแท้ๆ

ยังมีกระรอกหางฟูสีนวลๆ และสีนำตาลแดงเยอะมากวิ่งปีนป่ายอยู่บนต้นมะขามหลายต้น บางทีมาวิ่งบนหลังคาเป็นทางลัด

ทั้งผีเสื้อ นก กระรอกต่างๆเป็นสิ่งสวยงามที่คนกรุงตื่นเต้นที่ได้เห็นอย่างใกล้ชิด แต่นั่นแหละชีวิตในชนบทยังมีสิ่งอื่นๆที่เป็นความหวาดกลัวของคนกรุง

เพื่อนๆชาวกรุงที่ยังไม่เคยมาบ้านเรามาก่อน มักถามว่า"มีตุ๊กแกมั้ย กลัวตุ๊กแกที่สุด" หรือ "มีงูมั้ย ไม่อันตรายเหรอ"

เราบอกว่าที่บ้านเป็นธรรมชาติม๊ากมากไอ้ที่ถามๆน่ะมีทุกอย่างเลย และมีมากว่านั้นอีก แต่ไม่ต้องไปกลัว สัตว์พวกงู จิ้งจก ตุ๊กแก แมงมุม อึ่งอ่าง คางคกน่ะมันกลัวพวกเธอซะยิ่งกว่าพวกเธอกลัวมันอีก ฉันอยู่บ้านนี้มากว่าห้าปียังไม่เคยได้รับอันตรายใดๆ ต้องรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขให้ได้ เวลาสวดมนต์แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์เสมอ

แต่สงสัยว่าฝีมือการทำอาหารของพี่น้อย และความอร่อยสดของกุ้งแม่น้ำตัวโตมันกุ้งสีแดงเยิ้มอาหารขึ้นชื่อของอยุธยา และบรรยากาศริมน้ำณโค้งน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีผู้มาเยือนคนหนึ่งถึงกับกล่าวว่าเป็น"Million dollars' view"ทั้งยังเป็นส่วนตัวดีกว่าไปพักรีสอร์ทใดๆคงเป็นสิ่งดึงดูดใจที่มีพลังมากกว่าความกลัวสิ่งกระจ้อยร่อย ก็เห็นมากันแล้วมากันอีก กลับกรุงเทพด้วยสวัสดิภาพทุกคน

หมายเลขบันทึก: 90960เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2007 15:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2012 10:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

             แถวๆบ้านแก่นจัง ฤดูร้อน นี่ต้องไปหาเก็บผักผักบุ้ง ผักก้านจอง ผักแว่น ตามหนองน้ำ แล้วหาปลาที่คลองหลังบ้านมาทำกับข้าวกิน แต่ถ้าหน้าฝนจะดีหน่อยที่มีพืชผัก สดชื่น ขึ้นมา

        ตอนนี้มาอยู่ในเมืองกลับไปบ้านทีก็ต้องไปสูดกลิ่นอากาศดีๆ ที่ชาวเมืองเรียกว่าบ้านนอก แต่ใครจะรู้ว่าบ้านนอกมีดีกว่าที่คนกรุงเห็นอีกเยอะ บรรยายไม่หมด รบกวน คุณนายด็อกเตอร์ บรรยายเยอะๆเลยนะค่ะ ชอบอ่านค่ะ  อ่านแล้วอยากเป็นเด็กอีกครั้ง

story 81


Play
ธรรมชาติสร้างสรรค์สรรพสิ่ง      ล้วนมีประโยชน์
สูงใหญ่เทียมตึกระฟ้า    เล็กน้อยเพียงฝุ่นทราย
ไม่ว่าใหญ่เล็กหรือมากน้อย   คุณค่าอยู่ที่การใช้สอย  
  • ฟังแล้วน่าพักอาศัยจังเลยนะครับ
  • วันหยุดทำตัวว่างๆ สะบายๆ ปล่อยใจไปตามธรรมชาติรอบข้าง พิจารณาความเป็นจริงของเขา การอยู่ร่วมกันอย่างสันติก็มี  การพึ่งพาอาศัยกันก็มี ต่างคนต่างอยู่ ไม่จิกตีกัน ก็มี ฯลฯ
  • แต่คนเราตรงข้ามหมดนะครับ
P คนกรุงล้วนโหยหาสิ่งปลอบประโลมจิตวิญญาณ พี่คิดว่าคนทีอยู่ต่างจังหวัดในชนบทนั้นโชคดีหลายอย่าง คิดดีๆคนกรุงจะรู้ว่าเขาอยู่ได้เพราะธรรมชาติในชนบทยังสามารถเป็นปอด ดูดซับอากาศพิษที่แพร่กระจาย และยังผลิตพืชพรรณ ภักษาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศ
P ขอบคุณมากสำหรับanimationค่ะ ทำให้ยิ้มอยู่คนเดียวและได้ข้อคิดมาบ้างแม้จะฟัง-อ่านภาษาจีนไม่ออก
บทกวีเซ็นเท่เชียวค่ะ
Pไปอ่านเรื่องผักหวานป่าของพี่บางทรายแล้วอยากลองลิ้มรสผักหวานป่าโคก เชื่อว่าตัวเองต้องไม่เคยทาน เคยทานแต่ผักหวานบ้าน อีสานมีผักแปลกๆเยอะมาก เคยไป อุบลราชธานีทานอาการพื้นบ้านมีผักมาจานโต หลายอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ
มีคนบอกว่าแถวสระบุรีมีต้นผักหวานป่าขายซื้อมาปลูกได้ จะลองไปซื้อมาปลูกดูค่ะ
บ้านน่าอยู่ตามประสาคนชอบอยู่ริมน้ำและมีเวลาจัดการดูแล ความสงบทำให้สามรถเรียนรู้อะไรๆจากธรรมชาติและผู้คนได้มากค่ะ

สวัสดีค่ะ

เบิร์ดอ่านแล้วชอบที่สุดตรงคำว่า " ต้องรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขให้ได้ เวลาสวดมนต์แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์เสมอ "..

ขอบคุณสำหรับแง่งามของบันทึกค่ะ

จริงๆนะคะ.การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติเนี่ย..มความสุข..สงบที่สุด..เรากับธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวกัน..

ดิฉันเป็นแฟนประจำ;)

 ก่อนนี้ไม่ได้แสดงตน เห็นว่าน่าจะบอกคุณนายฯซะหน่อยว่าฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เอาเสื่อมาปูรออ่าน blog ทุกวันค่ะ

 

อาจารย์คะ เด็กๆเคยมีบ้านอยู่ริมคลองที่ไปออกแม่น้ำบางปะกง ชอบมากค่ะ บรรยากาศอย่างนี้เลยค่ะ

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน

P คุณเบิร์ด
Pคุณครูแอ๊ว
Pคุณ Ms.Q
P คุณsasinanda
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวจากธรรมชาติที่แสนธรรมดา แต่ทุกท่านเห็นพ้องกันว่ามันเป็นความสุข ความสงบ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท