เกณฑ์ตัดสินวัด สำหรับพุทธบริษัท .. ถ้าชอบมอบให้ใช้ฟรี !


ยิ่งสอนยิ่งทำให้คนติดยึดสถานที่หรือวัตถุ และยึดติดครูอาจารย์ ทุกข์มาเมื่อไรต้องไปหา
      อยากให้ทุกวัด ทุกสำนักที่อ้างตัวว่าเป็นพุทธ ได้ทำหน้าที่อันบริสุทธิ์ นำผู้คนสู่อิสระครับ 
      ผมมีเกณฑ์ส่วนตัว ที่จะใช้พิจารณาวัดหรือสำนักทางพุทธ ว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ดังนี้ครับ
  • สำนักใด ยิ่งสอนยิ่งทำให้คนติดยึดสถานที่หรือวัตถุ และยึดติดครูอาจารย์ ทุกข์มาเมื่อไรต้องไปหา .. จะแก้ทุกข์ต้องไปวัดนั้น หรือพบอาจารย์เจ้าสำนักนั้น .. ผมตอบตัวเองทันทีว่า ไม่ใช่
  • สำนักใด ยิ่งสอนยิ่งทำให้คนหลุดพ้นจากทุกข์ ไม่แบกของหนักอย่างโง่ๆอีกต่อไป .. ลดอัตตา ตัวตนลงได้ .. สร้างประโยชน์เกื้อกูลโลกได้มาก .. ผลักคนให้อิสระจากวัดและครูอาจารย์ โดยไม่หวังอามิสกระจอกๆ .. นั่นแหละ ใช่เลย ของผมล่ะ

        ข้อความข้างบนผมไปเขียนไว้ที่ บันทึกนี้ ของ อ.หมอวิจารณ์ พานิช ครับ .. อยากให้ตามไปอ่าน และช่วยกันสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้ ความจริงครับ .
         ว่ากันมาว่ากันไป  ผมเลยเข้าไปใหม่อีกครั้ง  พร้อมแสดงทัศนะว่า ... 

          ที่นี่น่าจะเป็นที่สะท้อนความเชื่อ ความคิด ไม่ได้สรุปถูกผิด โดยเชื่อว่าทุกคนมีปัญญาที่จะรับข้อมูลอย่างฉลาด  โดยไม่ต้องตกเป็นทาสความคิดใคร .. ท่านเจ้าของบันทึกก็บอกชัดแจ้งว่าจากข้อมูลที่ท่านมีและรับรู้มา  ทำให้ท่านคิด และรู้สึกอย่างนั้น .. ทั้งยังสารภาพว่าไม่ยืนยันว่าจะเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง .. ท่านก็บอกเป็นนัยๆอยู่นะครับว่า  อย่าเชื่อตามท่านอย่างไร้เหตุผล .. ผมว่ากาลามสูตรคือเครื่องมือชั้นยอด  นำมาใช้เถอะครับ .. ถ้าใครจะมาต่อตรงนี้ผมว่าควรเสนอมุมมองความคิดของท่านแต่อย่าได้ไปวิจารณ์ความคิดใคร .. หากข้อมูลใดที่เห็นว่า ไม่ใช่  ก็จงเสนอสิ่งที่ท่านคิดว่า ใช่ มา หักล้างอย่างสร้างสรรค์ 
         ทำความจริงแท้ให้ปรากฏ เป็นกุศลกรรมครับ  ผมอยากอ่าน  อยากเรียนรู้  แต่ไม่อยากรับรู้การระบายอารมณ์ของใคร
        ขอบคุณครับ.
หมายเลขบันทึก: 89830เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2007 00:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 21:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ท่านคือบันฑิต และเป็นกัลยาณมิตรโดยแท้ครับ

สาธุ สาธุ สาูธุ 

  • ตามมารับของฟรีไปใช้ครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ อ. Handy

เบิร์ดใช้เกณฑ์วัดป่า วัดบ้านค่ะ คือเบิร์ดจะชอบวัตรปฏิบัติของสายธรรมยุตร ที่ท่านดูเคร่งครัด  มีระเบียบวินัย  สำรวม  ดูงามนัก..ไม่เน้นสิ่งก่อสร้าง  ไม่เน้นการเจิมป้าย เครื่องรางของขลัง ดูหมอ หรือ นั่งคุยกับสีกาอย่างไม่สำรวม..แต่เน้นการปฏิบัติเพื่อลดอัตตา  ลดมิจฉาทิฐิ เป็นหลัก

ดูๆไปก็คล้ายๆกับของอาจารย์เหมือนกันนะคะ ^ ^

 

ตามไปอ่านแล้วค่ะ อ่นข้อคิดเห็นที่หลากหลายด้วย คิดตรงกับอ.Handy ค่ะ สมัยนี้เวลาคนเข้าวัดมักจะไปด้วยความศรัทธา และไม่สามารถต่อศรัทธาเข้าไปสู่เส้นทางสายปัญญาได้

การเจริญสติ มีปัญญา เข้าใจ มองเห็นในสิ่งใดๆตามที่มันเป็นอาศัยการฝึกฝนที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป มีครูบาอาจารย์ที่ดีชี้แนะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในสังคมที่นิยมความเร็ว และต้องการรวย

ขอบคุณทุกท่านครับ ที่แวะมาเยี่ยมเยือน

  • น้องบ่าว ธรรมาวุธ ... รู้สึกเช่นเดียวกันครับ.. สาธุ สาธุ สาูธุ 
  • คุณน้องชาย นาย สิงห์ป่าสัก .. ใช้แล้วช่วยแจกต่อก็ไม่ว่านะครับ .. ยิ่งชอบ
  • คุณ เบิร์ด .. ที่ไหนไม่สำคัญนักครับ  ขอแต่เพียงอย่าพาเราไปติดค้าง ระหว่างทาง โดยไม่ยอมให้เข้าถึงปัญญาที่แท้จริงก็แล้วกัน
  • อ. คุณนายดอกเตอร์ ... ครับ ขอย้ำว่าของแท้ต้องท้าพิสูจน์ ให้มาดูได้  สัมผัสได้ โดยไม่จำกัดกาล และที่สำคัญต้องไม่มีการมอมเมา หรือเอาเหยื่อกิเลสมายั่วให้อยาก จนกระทั่งปฏิบัติธรรมด้วยความอยากกันอย่างที่พบเห็นอยู่ไม่น้อย.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท