พัฒนาตนเอง (6) : เชื่อมั่นในตนเอง


เตือนสติตนเองอยู่เสมอ ว่าเรา...ทำได้

ย่อมมีบ้างเป็นธรรมดาในชีวิตการทำงานที่ในบางครั้ง ที่อาจขาดความมั่นใจในตนเองบ้าง เชื่อว่าตนเองทำไม่ได้หรืออาจทำได้ไม่ดีนัก ลองมาสำรวจดูตนเองสักหน่อยครับว่าเป็นเพราะอะไร และจะมีวิธีการฝึกฝนตนเองให้ผ่านพ้นไปได้อย่างไร

ความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นการเคารพนับถือตนเอง และเชื่อว่าตนเองทำได้ ถึงแม้จะยังไม่เคยทำงานนั้นมาก่อนเลย ตรงนี้แก้ไขได้ โดยการเรียนรู้ศึกษางานนั้นๆ บางครั้งอาจ

  • ขอคำแนะนำ หากเราไม่เคยมีประสบการณ์หรืองานนั้นยากเกินความสามารถเรา ก็จงอย่ารีรอที่จะขอคำแนะนำจาากผู้มีประสบการณ์ / ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นโดยเฉพาะแล้วก็จะทำงานนั้นด้วยความวิริยะ หมั่นศึกษาหาความรู้เรื่องที่จะทำเพื่อหาวิธีแก้ไข
  • อย่าท้อแท้  จงอยาท้อแท้ว่าเรามีปมด้อย พูดไม่เก่งบ้าง สุขภาพไม่ดีบ้าง ความจำไม่ดีบ้าง ทนต่องานหนักไม่ได้บ้าง หรืออื่นๆ ที่คิดว่ามีขอให้เปลี่ยนทัศนคติจากความคิดที่เป็นปมด้อยของตนเอง และลองตรวจดูว่าตนมีอะไรที่เป็นปมเด่นบ้าง แล้วใช้ปมเด่นนั้นทำงานด้วยความตั้งใจ ไม่ท้อแท้
  • หมั่นเตือนตนเอง นิสัยขาดความเชื่อมั่นในตนเองอาจสร้างได้โดยการหมั่นแนะตนเอง เป็นการเตือนสติตนเองอยู่ตลอดเวลา นั่นเอง และอย่าพูดหรือคิดในทางที่ทำลายตัวเราเอง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ตัวเราเองตกต่ำ จงหมั่นคิดว่าเราทำได้ และหากงานจะยากเพียงใดก็ตาม เราก็สามารถทำได้ และถ้างานยาก เราก็จงมีความเชื่อว่า เราต้องเรียนรู้ได้ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเลขบันทึก: 89089เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2007 09:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
อยากแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง เพราะเป็นคนชอบทำบุญ เนื่องจากวันหนึ่งได้ไปแถวท่าน้ำศิริราช และบังเอิญผ่านไปพบกับ ชายพิการขาลีบ คนหนึ่ง ใส่เสื้อเหลือง (เราจะทำความดีเพื่อในหลวง) แขวนป้ายบอกว่าเป็นคนพิการ ยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ร.พ.ศิริราช ใกล้กับท่าน้ำ ขาของเขาเดินไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้าคอยค้ำยันพยุงร่างเวลาเดิน เขาบอกกับเราว่า "มาโรงพยาบาลมีเงินติดตัวมานิดหน่อยและจ่ายค่ายาไปหมดแล้ว ตอนนี้หิวข้าวแต่ไม่มีเงินจะซื้อข้าวกิน ขอเงินซื้อข้าวกินได้ไหมครับ" เราบอกว่า "ได้ เดี๋ยวจะพาไปกินข้าวที่ร้านอยากกินอะไรล่ะจะซื้อให้" ชายพิการกลับปฏิเสธความปรารถนาดีของเรา เราก็เลยงง?? ก็ไหนว่าหิวข้าวแต่ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน พอเราจะซื้อให้กลับปฏิเสธเฉยเลย ทำให้เรารู้ว่าเขาไม่ได้ลำบากจริง แต่เขาอาศัยความพิการและนิสัยขี้สงสารของชาวบ้านมาหากินหลอกขอเงิน
ต่อมาอีกหลายวันเราไปเดินแถวท่าน้ำศิริราชอีก เราก็ได้พบกับชายพิการคนนี้ กำลังคุยกับเจ้าของร้านโทรศัพท์แถวท่าน้ำ เขาเอาโทรศัพท์ออกมาอวด เราเห็นแล้วโอ้โห! ใช้โทรศัพท์มือถือหรูและแพงกว่าของเราอีก เราทราบภายหลังว่าชายพิการคนนี้ยังคงทำมาหากินอยู่แถว ๆ โรงพยายาบาลศิริราชทุกวันด้วยการโกหกว่าไม่มีเงินซื้อข้าวบ้าง ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้านบ้าง ดังนั้น จึงขอเตือนเพื่อน ๆ ว่าบางทีความสงสารคนพิการของเราซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเลือกพิจารณาในการช่วยเหลือเขาสำหรับคนที่ลำบากจริง ๆ การให้เงินไม่ควรให้เพื่อตัดความรำคาญหรือเห็นว่าสะดวกไม่ต้องเสียเวลา แต่ควรให้ในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ เช่น หิวข้าวก็ซื้อข้าวให้กินเลยจะดีกว่า
  • สวัสดีคุณสายน้ำแห่งความคิดค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้มากๆค่ะ  เพราะว่า  ใช่เลยค่ะ  กับชีวิตการทำงานที่  "ย่อมมีบ้างเป็นธรรมดาในชีวิตการทำงานที่ในบางครั้ง ที่อาจขาดความมั่นใจในตนเองบ้าง เชื่อว่าตนเองทำไม่ได้หรืออาจทำได้ไม่ดีนัก" และวิธีการฝึกฝนตนเองให้ผ่านพ้นไปได้ก็คือ  "ความเชื่อมั่นในตนเอง การเคารพนับถือตนเอง และเชื่อว่าตนเองทำได้"  เตื่อนสติตัวเองอยู่เสมอว่า  "เราทำได้"  และในที่นี้  แอ๊ดขอต่อยอด
  • ในข้อหมั่นเตือนตนเอง นิสัยขาดความเชื่อมั่นในตนเองอาจสร้างได้โดยการหมั่นแนะตนเอง เป็นการเตือนสติตนเองอยู่ตลอดเวลา นั่นเอง และอย่าพูดหรือคิดในทางที่ทำลายตัวเราเอง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ตัวเราเองตกต่ำ จงหมั่นคิดว่าเราทำได้  กับคุณสายน้ำแห่งความคิดสักเล็กน้อยนะคะ ว่า...การที่เราต้องเตือนตัวเองด้วยคำพูดและการกระทำที่เป็นบวก  อยู่ตลอดเวลาก็เนื่องจากว่า  "การกระทำของตัวเราจะเป็นไปตามความคิดของเรานั่นเอง"  และในบางครั้งเราอาจจะมีความรู้สึกสงสัยอยู่ในใจลึกๆว่า  ..เราจะทำได้จริงน่ะหรือ..ไม่น่าจะทำได้....ทำไม่ได้มั้ง...เมื่อมีความสงสัยอยู่ในใจแบบนี้ก็เริ่มท้อแท้..แล้วจะทำอย่างไร  จะแก้ไขอย่างไรที่จะให้เป็นคนคิดให้กำลังใจตนเอง  เชื่อมั่นใตตัวเองว่า  "เราทำได้"  ....ก็มีวิธีที่ง่ายๆนะคะ  วิธีที่เราทำได้ตลอดเวลานั่นก็คือ...ฝึกซ้อม...ฝึกฝน...ทำจนเป็นนิสัย.....
  • ด้วยความขอบคุณ

ขอบคุณ... dd ครับที่ได้มาร่วมแบ่งปัน

ผมขอเรียกประสบการณ์ที่ท่านให้นี้ว่า "ประสบการณ์บุญ"  ท่านให้ข้อสังเกตได้ดีทีเดียวครับว่า การทำบุญนั้น...ดี แต่ก็ควรดูเจตนาของผู้ขอด้วยว่า เจตนาที่จริงใจในการขอบุญหรือไม่ ถูกกาล และ ถูกเทศะ ด้วย

...สาธุ

ขอบคุณ

P

ที่มาร่วมต่อยอดความคิดให้กระจ่างชัดเจนยิ่งขึ้น ดังประเด็นที่ว่า "การกระทำของตัวเราจะเป็นไปตามความคิดของเรานั่นเอง" 

 

สวัสดีครับคุณสายน้ำแห่งความคิด แวะมาขอบคุณครับที่กรุณาเก็บบล็อกของผมไว้

ผมเคยไปอบรม Mind Training เขาก็จะเน้นที่ใจจริงๆ ตามชื่อหัวข้ออบรมเลย เหมือนพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เลย

มโน  ปุพพัง  คะมาธัมมา  มโนเสฎฐา  มโนมะยา  แปลความว่า  ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่  มีใจเป็นประธาน  ธรรมทั้งหลายสำเร็จด้วยใจ

ไม่อาย ไม่ยอม เจียมตน คงใช้ได้ทุกสถานการณ์นะครับพี่วิชิต

ขอบคุณ

P

มากครับที่ให้ข้อคิด ...ส่วนจะใช้ได้กับทุกสถานการณ์หรือไม่นั้น ..ต้องลองดูครับ "ไม่ลอง..ไม่รู้"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท