บันทึก....พยาบาลชุมชนในดวงใจ " ผู้สูงอายุต้องการแรงใจ "
"หวะหีม" ผู้สูงอายุและผู้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องอาศัยการป้อนข้าวและน้ำจากภรรยาและลูกสาว วันที่เราไปเยี่ยม หวะหีมบวมทั่วตัว หนังตาเกือบปิด ท้องบวม เท้าบวมกดบุ๋ม คืนวันรุ่งขึ้นหลังส่งหวะหีม นอนรพ. เวลา 19.00 น.ทีมงาน(อสม.บ้านกลางและพยาบาลชุมชนบ้านกลาง) ไปเยี่ยม วันนี้กับเมื่อวานต่างกัน สิ่งที่ทีมงานทุกคนเห็น พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตัวยุบบวมทันตาเห็น
ผู้ป่วยยิ้ม และพูดว่า "ผมขอบคุณ..ขอบคุณทุกคน" และน้ำตาไหลคลอเบ้าตาทั้งสอง "พี่พิษ" อสม.คนหนึ่ง เอามุมเสื้อของชุดโรงพยาบาลเช็ดน้ำตาลูกผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง
ทุกคนอึ้ง..... หลังพูดคุย ให้กำลังใจนานประมาณ 20 นาที พวกเราอำลาผู้ป่วยและสัญญาว่าจะมาเยี่ยมใหม่ ในวันรุ่งขึ้น และวันรุ่งขึ้นผู้ป่วยก็ย้ายไปนอนห้องพิเศษ 2
ทีมงานกับความห่วงใย |
อสม.บ้านกลางและพยาบาลชุมชน |
หน้ายุบบวมแล้วครับ | |
|
กลับจากเยี่ยมผู้ป่วย ทีมงานก็นั่งจิบน้ำชาเฉี่อย(น้ำเปล่า)แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องโครงการเคาะประตูเยี่ยมบ้าน ต่อ มาถึงตอนนี้ อสม.บ้านกลางพูดเริ่มจะมีความคิดเห็นแนวเดียวกันแล้วว่า "ดีนะ..แลตะได้ช่วยคนด้วย ทีนี้คนอื่น ๆจะได้รู้บ้างว่า อสม.ไม่ใช่แต่สำรวจลูกน้ำยุงลาย อย่างเดียว " ดิฉันสังเกตุจากพฤติกรรม สีหน้า และแววตาของอสม.บ้านกลางแล้ว ทุกคนมุ่งมั่น มีความกระตือรือร้นอยากทำงาน ถึงตอนนี้ดิฉันเริ่มคิดเข้าข้างตนเองว่าวันนี้ถนนสายนี้....มีเพื่อนร่วมทางแล้ว
การเยี่ยมบ้านแบบบรูณาการครั้งนี้ เริ่มเป็นรูปร่างขึ้นมา ด้วยการทำงานเป็นทีม สอนงานจากการปฏิบัติจริง โดยอาศัยทักษะการสร้างแรงจูงใจในรูปแรงใจ และตัวดิฉันเป็นRole Model ที่ดีแก่อสม. ที่สำคัญต้องได้ใจ ของตัวอสม.ก่อน ถึงจะเกิด ทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ได้
ดีจังเลย ผู้สูงอายุจะได้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ไม่โดดเดี่ยว และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอยู่ ซึ่งจะส่งผลดีกับจิตใจด้วย เมื่อสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะรู้สึกว่าสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
ถ้า อสม.ทั่วทั้งประเทศไทยเอาใจใส่ต่อสุขภาพของคนในชุมชนของตัวเองก็จะดีไม่น้อยทีเดียวเชียวล่ะ ชุมชนของเราก็จะมีแต่ความรักและสามัคคีกัน ความสงบสุขก็จะเกิดกับไทยเรา