บันทึก....พยาบาลชุมชนในดวงใจ " "หวะหีม"ผู้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้"
จากพยาบาลชุดขาวเดินเข้าสู่ชุมชน...... ขณะนี้เราทำงานโดยการผสมผสานงานเยี่ยมบ้าน (HHC ภาคชุมชน)งานผู้พิการ งานผู้สูงอายุเข้าด้วยกัน วันนี้ทีมงาน เยี่ยมบ้าน
"หวะหีม" ผู้สูงอายุและผู้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องอาศัยการป้อนข้าวและน้ำจากภรรยาและลูกสาว วันที่เราไปเยี่ยม หวะหีมบวมทั่วตัว หนังตาเกือบปิด ท้องบวม เท้าบวมกดบุ๋ม ความดันโลหิตปกติ(BP=130/80mmHg) ดิฉันนำปัญหาผู้ป่วยมาปรึกษาพญ.จันทนีและผอ.รพ. ท่านทั้ง 2 รับผู้ป่วยไว้เป็นผู้ป่วยในของ รพ.
ดิฉันต้องประสานกับครอบครัวของผู้ป่วย และตัวของผู้ป่วยเอง เนื่องจากรายได้ของ ครอบครัวของผู้ป่วยมาจากตัวภรรยา ขายขนมในตลาด ช่วงกลางวันถึงค่ำ ลูกสาวเป็นลูกมือช่างเสริมสวย หลานวัยรุ่นเป็นผู้ชายอาชีพรับจ้างแต่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ส่วนลูกที่เบิกได้เป็นตำรวจอยู่นครศรีธรรมราช นานๆถึงจะได้กลับบ้าน รายได้เพียงพอแต่ไม่เหลือเก็บ ผู้ป่วยต้องอยู่บ้านลำพัง ตอนเย็นๆจะมีหลานตัวเล็กที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล มาอยู่เป็นเพื่อน เพื่อนบ้านมาดูบ้าง การรับประทานอาหารได้รับวันละ 2- 3 มื้อแล้วแต่ผู้ดูแลจะว่าง การที่ให้ผู้ป่วยนอน รพ.ผู้ดูแลกลัวว่าต้องหยุดงานเพื่อดูแลผู้ป่วย ทำให้ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทีมงาน(ผู้สูงอายุ อสม. พยาบาลชุมชน) ได้ปรึกษากับญาติว่าช่วงกลางวันที่ญาติไม่สามารถมาดูแลได้พวกเราจะพยายามมาช่วยดูแลให้ โดยกลางวันลูกสาวที่เป็นลูกมือช่างเสริมสวยมาดูแลตามมื้ออาหาร กลางคืนหลานวัยรุ่นมาเฝ้า ญาติโอเค
ดิฉันต้องประสานกับตัวของผู้ป่วย ทางทีมงาน( อสม. พยาบาลชุมชน) พูดคุยว่าระหว่างนอน รพ. ผู้ป่วยอาจต้องอยู่คนเดียวบ้างแต่ไม่ใช่เป็นการทอดทิ้ง แต่ภรรยาและลูกสาวต้องหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว ผู้ป่วยโอเครับได้
ดิฉันประสานงานไปแผนกผู้ป่วยใน เนื่องจากเป็นผู้ป่วยเบิกได้เพื่อขอจองห้องพิเศษ ซึ่งทางหัวหน้าผู้ป่วยใน ซักถามเกี่ยวกับผู้ที่มาเฝ้าไข้ เพราะถ้าไม่มีผู้ดูแลกลัวเป็นปัญหาภาระกับเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สามารดูแลได้เต็มที่ ดิฉันต้องประกันกับหัวหน้างาน
ผู้ป่วยใน ว่ามีญาติดูแลต่อเนื่อง ตอนกลางวัน ผู้ป่วยอาจต้องอยู่คนเดียวบ้าง แต่พวกเรา ( อสม. และพยาบาลชุมชน) จะพยายามมาช่วยดูแลให้บ้าง แต่กลางคืนมีหลานเฝ้าตลอด ผู้ป่วยใน โอเค
ดิฉันประสานงานไปแผนก ER เพื่อไปรับคนไข้ แต่วันนั้นเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อขอรถที่พ่อบ้าน
ดิฉันประสานงานพ่อบ้านเพื่อขอรถ refer ไปรับผู้ป่วยที่บ้าน และแจ้งแพทย์เวร Er อีกครั้งว่าสักครู่จะนำผู้ป่วยมา
หวะหีม ยิ้ม เป็นยิ้มครั้งแรกในรอบ 3-4 ปีของท่าน ท่านได้รับแรงใจจากเรา...ตามที่ผู้สูงอายุกล่าวไว้ว่าผู้สูงอายุต้องการแรงใจ
ไม่มีความเห็น