เริ่มต้นจากตอนเด็กเราเรียนรู้เพื่อที่จะเอาตัวรอด เรียนรู้เพื่ออยู่ให้ได้ในสังคมอย่างมีความสุข หรือว่าเราอาจจะเรียนรู้จากการถูกบังคับให้เรียนรู้ และอาจจะมีบางครั้งที่เราเรียนรู้เพราะว่าความอยากรู้ของตนเอง
เมื่อเติบโตมาเราเรียนรู้วิชาที่เฉพาะสำหรับตนเองเพื่อที่จะนำมาปฏิบัติงาน อาจจะเป็นสิ่งที่เราอยากรู้และชอบ หรือเราอาจจะไม่ชอบมากแต่จำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อนำมาทำงานเพื่อให้ได้รับผลตอบแทน แล้วนำมาเลี้ยงชีพตนต่อไป
ระหว่างที่ทำงานเราพบว่าเราเริ่มเรียนรู้ว่าเรายังมีความไม่รู้และความพร่องอยู่มาก และเริ่มรู้ว่า ...ด้วยสิ่งที่เรายังไม่รู้ที่มากมาย ถ้าหากว่าเรายังใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมๆนั้นก็คงจะไม่เพียงพอ ไม่ทัน ไม่เหมาะสมกับความรู้ต่างๆที่เราต้องเรียนรู้ เราจึงต้องแสวงหาและพัฒนาการเรียนรู้ของตนให้ดียิ่งๆขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงของการทำงานนั้น เป้าหมายของการเรียนรู้มีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญๆคือ เรียนรู้เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานของเราเองให้ดียิ่งๆขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไป เรียนรู้เพื่อต่อยอดความรู้ของเราเองที่ตัวตนของเราเองก็ถูกถามจากเสียงภายในเสมอว่ามีอะไรอีกนะที่เราควรรู้ หรือต้องรู้ เรียนรู้เพื่อเชื่อมโยงหรือบูรณการความรู้ต่างๆเข้าด้วยกัน และสุดท้ายเรียนรู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจของเราเอง ด้วยฐานคิดแบบพุทธะที่ตัวตนของเรานั้นถูกเคลือบด้วยอกุศลมูล 3 คือ โลภะ โทสะ และโมหะ เราเรียนรู้เพื่อลดละ ทำให้จางลง ในแง่ของกิเลสที่เกาะเกี่ยวจิตของเรา เพื่อเพิ่มพลังแห่งปัญญาที่จะเกิดขึ้น
ตอนเห็นชื่อบันทึก ดิฉันตอบตรงไว้ตรงกับที่คุณ kmsabai ว่าไว้ตอนท้ายเลยค่ะ "เราเรียนรู้เพื่อให้เกิดปัญญา" การเป็นมนุษย์ดีตรงนี้แหละค่ะ ที่สามารถเรียนรู้ ฝึกฝนและปฎิบัติให้เกิดปัญญาได้
ผมว่า...
เราเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิด พัฒนาจิตใจ เพื่อจะได้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ครับ...
ขอบคุณครับ...
สวัสดีครับ อ.ดร. กมลวัลย์ ลือประเสริฐ
สวัสดีครับพี่ Mr.Direct