มีปัญหากันไหม กับภาพพิมพ์ที่พิมพ์เองที่บ้านไม่ได้สีอย่างที่ต้องการเสียที กว่าจะแก้สีภาพ จนได้ภาพที่ต้องการ ก็เปลืองกระดาษ ไปหลายแผ่น… ทำอย่างไร ถึงจะได้สีที่ต้องการ ภายในเวลาที่รวดเร็ว และไม่เปลืองกระดาษจนเกินไป <div><div>
</div><div>สิ่งที่เครื่องพิมพ์ทำก็คือทำหน้าที่ปล่อยหยดหมึกในปริมาณที่ต่างๆ กัน แล้วแต่ว่า จะเป็นส่วนไหนของภาพ ถ้าส่วนไหนเป็นสีดำ ก็ปล่อยหมึกมาก ส่วนไหน เป็นสีขาวๆ สว่างๆ ก็ ปล่อยหมึกน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้ มี driver ของเครื่องพิมพ์เป็นส่วนสำคัญที่จำเป็นต้องลงไว้ในคอมพิวเตอร์</div><div>
</div><div>ใน print driver จะมีให้เลือกชนิดของกระดาษ ซึ่งจะเป็นการควบคุมการปรับลักษณะการพ่นหมึกของเครื่องพิมพ์ให้เหมาะสมกับกระดาษแต่ละชนิด และในการสร้าง driver นั้นทางผู้ผลิตได้ทดลองหาค่ากลางที่ทำให้ภาพโดยส่วนใหญ่มีความสวยงามบนกระดาษที่ทางบริษัทกำหนด </div><div> </div><div>ดังนั้นหากผู้ใช้งาน ใช้กระดาษชนิดเดียวกับที่เครื่องพิมพ์กำหนดจะได้ภาพที่สวยงามเป็นส่วนใหญ่ แต่หากใช้กระดาษที่แตกต่างออกไป สีภาพจะผิดเพี้ยนไปทันที และยิ่งกว่านั้น หากใช้หมึกแบบเติมสีก็ยิ่งแตกต่างออกไป โอกาสจะได้ภาพสีสวยจึงมีได้น้อยกว่าในการพิมพ์เพียงครั้งเดียว</div><div>
</div><div>สิ่งที่ผู้ใช้งานควรทำหากต้องการใช้หมึกพิมพ์แบบเติม และกระดาษจากบริษัทอื่นๆ ก็ต้องพิมพ์ทดสอบก่อน แล้ว หาทางปรับสีภาพให้ผิดเพี้ยนไป (ภาพบนจอ) จนภาพที่พิมพ์สวยงามดี จึง save ค่าต่างๆ ที่ตั้ังนั้นไว้ ในภายหน้า เมื่อมีภาพสีที่ต้องการพิมพ์ ก็ ใช้ข้อมูลที่ save ไว้นั้นมาเปลี่ยนสีภาพแล้วสั่งพิมพ์ ก็จะได้ภาพสีที่ดีขึ้น</div><div>
</div><div>ใน printer driver ของบางบริษัทจะมีคำสั่งให้ สามารถแก้สีได้ ซึ่งการแก้สีแบบนี้ ทำให้เราไม่ต้องไปเปลี่ยนข้อมูลภาพต้นฉบับ แต่การปรับตั้งต่างๆ จะทำได้น้อยกว่า โปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับการแก้สีโดยเฉพาะ</div><div>
</div><div>วิธีสุดท้ายที่จะได้ผลดีที่สุดคือการสร้าง profile ของเครื่องพิมพ์ด้วยวัสดุที่เราใช้งาน แล้วเอาค่า profile นั้น ไปใช้ในโปรแกรมแต่งภาพ เช่น photoshop โดยให้ photoshop แปลงค่าสีจากจอภาพไปเป็นเครื่องพิมพ์ ซึ่งก็จะให้ได้สีที่ถูกต้อง และประหยัดเวลา</div><div><div> </div> <div> </div></div></div>