นักเรียนนายร้อย


“ก็ต้องให้ตอนนี้นี่แหละ เกษียณแล้วจะเอาแรงที่ไหนมาหาเงิน ผมไม่ได้รวยเป็นร้อยล้านหรอก แต่นึกถึงลูก ถ้าเราตายไปไม่มีคนมาช่วยเหลือจะทำยังไง”

เมื่อเร็วๆ นี้ มีโอกาสได้ไปงานเลี้ยงรุ่นของนักเรียนนายร้อยรุ่นหนึ่ง (รุ่นไหนขอปิดไว้แล้วกันค่ะ) ไม่ใช่ว่าโชคดีมีแฟนในเครื่องแบบหรอกนะคะ แต่ให้บังเอิญว่า เพื่อนๆ คุณพ่อที่เสียไป อยากเห็นหน้าค่าตาหลานๆ เลยเรียกให้ไปรวมตัวกันในงานเลี้ยงรุ่นประจำเดือน ที่สโมสรตำรวจ

เลิกงานดิฉันกับน้องสาวก็นั่งรถแท็กซี่ไปกัน ไม่คิดว่าจะเป็นงานใหญ่โตอะไร เลยใส่ชุดทำงานปกติไป ที่ไหนได้ คนอื่นๆ เค้าแทบจะแต่งชุดราตรีกันไปเลยทีเดียว เพราะมีแต่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งนั้น แม้กระทั่งอดีต ผบ.ตร. ที่เพิ่งเสียตำแหน่งคนล่าสุด ก็ไปในงานด้วย แถมมาทักเพราะรู้จักกันดีกับคุณพ่ออีกต่างหากหมดความมั่นใจไปหลายเลยค่ะ

ก็เพิ่งจะทราบงานนี้นี่แหละค่ะว่า ตำรวจเค้าจะมีที่ปรึกษารุ่นซึ่งเป็นนักธุรกิจด้วย  รุ่นนี้ได้ข่าวว่ามีตั้งร่วม 20 คน แถมเป็นนักธุรกิจชั้นนำในวงการทั้งนั้น ที่มาร่วมในงานนี้ด้วย  เอ! มีเพื่ออะไรใครทราบบ้างดิฉันเข้าใจเอาเองว่า อย่างนี้แหละที่เค้าเรียก น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า

โดนลุงๆ อาๆ ซักประวัติกันไปยกใหญ่ หลายคนก็งงว่า ทำไมดิฉันและน้องยังต้องเช่าอพาร์ทเม้นต์อยู่อีก ทำไมคุณพ่อไม่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ไว้ให้ใช้ในกรุงเทพฯ  ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเค้าไปรวยกันมาจากไหน พูดเป็นเรื่องตลกไปได้ จะซื้อบ้าน ซื้อรถในกรุงเทพฯ ให้ลูกใช้ จะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศได้อย่างไร ในเมื่อเงินเดือนตำรวจแค่นิดเดียวเอง ที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่เก่าก่อน แถมมีลูกตั้งสาม (เมียไม่นับ เพราะนับไม่ถ้วน) …สงสัยคุณพ่อคงกลัวเสียภาษีมากกระมัง

สิ่งสำคัญที่ได้รับจากงานครั้งนี้ก็คือ เรารับรู้ได้ถึงความรักใคร่ สามัคคี และกลมเกลียวกันของคนกลุ่มหนึ่ง ที่แม้ว่าจะได้ดิบได้ดีกันไปคนละทิศละทาง (ทั่วประเทศเลยทีเดียว) แต่สุดท้าย ความลำบากที่ผ่านพ้นมาด้วยกันตลอดระยะเวลาที่เรียน ทำให้แม้จากกันไปแล้ว แต่ก็ยังห่วงหากันจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน แม้กระทั่งออกจากชีวิตราชการไปแล้วก็ยังไม่ลืม  ก็ต้องให้ตอนนี้นี่แหละ เกษียณแล้วจะเอาแรงที่ไหนมาหาเงิน ผมไม่ได้รวยเป็นร้อยล้านหรอก แต่นึกถึงลูก ถ้าเราตายไปไม่มีคนมาช่วยเหลือจะทำยังไง คำพูดของคุณอาคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจลาออกไปทำธุรกิจ และประเดิมตั้งกองทุนให้ลูกเพื่อนที่เสียชีวิตไปถึงหนึ่งล้านบาท...ขอบคุณแทนทุกคนอีกครั้งค่ะ

สนุกสนานกันอยู่หลายชั่วโมง จบท้ายด้วยบรรดาหลานๆ ร่วมขยับปาก เอ้อๆ อ้าๆ ร้องเพลงกับลุงๆ อาๆ เพราะมีแต่เพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วก็ขำกันยกใหญ่ เสียดายก็แต่ว่าช่วงแรกมัวแต่เกรงใจ เลยไม่ทันได้จิบไวน์ชั้นเลิศ ที่เค้าเอามาฉลองกัน

คำสำคัญ (Tags): #diary
หมายเลขบันทึก: 84735เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2007 23:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 19:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • มาทักทายครับผม
  • งง งง ว่าทำไมไม่ได้อ่านนานมาก
P
  • ขอบคุณค่ะที่ยังไม่ลืมกัน
  • หายไปช่วงหนึ่ง หลังจากคุณพ่อเสียชีวิต และต้องจัดการภารกิจต่างๆ มากมาย
  • ช่วงนี้ก็บำเพ็ญประโยชน์ เดินทางไม่ได้ขาดสาย และคงหายไปเป็นระยะอีกเช่นเคยค่ะ

 

  • ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท