เรื่องเล่าจากดงหลวง 46 Partnerships


สังคมไทยมีบุคลิกอะไรหนอที่ทำให้ไม่เกิดการหลอมรวมดังหลักการนี้ เรามีตัวอย่างทั้ง Best case และ Worth case บ้างไหมหนอ ?? ยังนึกไม่ออกเลยเนี่ยะ นึกออกแต่ชาวบ้านบางระจันรวมตัวกันต่อสู้พม่าข้าศึก นึกออกแต่วีรกรรมท่านย่าโม และฯลฯ สมัยนั้นไม่มีคำว่าบูรณาการแน่เลย น่าจะมีคำว่า ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ใครถนัดอะไรก็แสดงสิ่งนั้น ใครไม่ถนัดอะไรก็เป็นแรงงานให้กัน แต่ทั้งหมดนั้นมีใจหลอมเข้าด้วยกันอย่างแน่นอน ใจรวมเป็นหนึ่ง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองไม่รอดมาจนปัจจุบันนี้หรอก

<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ทำไมต้อง Partnership: ผู้เขียนจำได้ว่าตอนเข้าไปร่วมงานใหม่ๆกับ Save The Children(USA) ที่จังหวัดนครสวรรค์นั้นต้องเข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง Partnership ทันที ใหม่ๆก็งงๆเหมือนกันแหละ อะไร Partnership สัมมนากันด้วยหรือ ฯ  แต่แล้วก็เข้าใจว่ามันมีความสำคัญมากที่สมควรต้องคุยกัน เพราะบ้านเราไม่ค่อยมีวัฒนธรรมการทำงานร่วมกัน  แม้ว่าคำว่าบูรณาการ  หรือ Integration จะมีมามากกว่า 30 ปีแล้วในบ้านเราเท่าที่จำได้ ซึ่งปัจจุบันก็ยังพูดกันถึงกันอยู่เลย และในทางปฏิบัติก็ยังไม่ไปถึงไหน เหมือนการปฏิรูปการศึกษา พูดกันมาตั้งแต่ผู้เขียนเรียนหนังสือที่ มช. ปี 2512 โน้นนนน ก็ยังพูดกันอยู่และยังบอกว่ายังไม่ได้ปฏิรูปกัน  โครงสร้างสังคมไทยน่าที่จะมีอะไรสักอย่างที่ทำเรื่องเหล่านี้ไม่สำเร็จ ลักษณะคนไทยน่าที่จะมีบุคลิกภาพอะไรสักอย่างสองอย่างไหมที่ไม่เอื้อต่อเรื่องการร่วมมือกันหรือเปล่า ..ไม่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยน..ตั้งเป็นประเด็นไว้โก้ โก้ ก่อนครับ </p><p> แต่การสร้าง Partnership ในการทำงานขององค์กร Save The Children(USA) นั้นมีความจำเป็นต้องเข้าใจและนำไปปฏิบัติจริงเพราะ Save ต้องไปร่วมมือกับองค์กรอื่นๆทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนทำงาน การเข้าไปร่วมมือนั้นต้องทำแบบบูรณาการ แบบคณะทำงาน (Task force committee=TFC) โดยไม่ได้เข้าไปทำเองคนเดียว โดด เดี่ยว เปลี่ยวเปล่า ให้เหงาหงอย ไม่ได้เอาเงินไปกองให้เขาทำเองไปเลย  แต่ไปทำด้วยกัน  ตรงนี้แหละครับ ตรงที่ไปทำด้วยกันนี่แหละ เขาเรียกว่า เป็นแบบ Partnership กัน ฝรั่งจึงจัด Course ขึ้นมาเรียนรู้เรื่องการทำ Partnering เพื่อเตรียมตัวพนักงานเข้าไปร่วมมือในการทำงานกันครับ </p><p>อะไรคือ Partnership: ในความหมายที่เข้าใจก็คือการเป็นพันธมิตรงานแก่กันและกัน ผู้เขียนใคร่จะขยายความเรื่องนี้เพื่อให้เพื่อนได้เข้าใจด้วยกันครับ หลักของมันก็มีดังนี้  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 1cm; text-align: justify; tab-stops: list 42.55pt" class="MsoNormal">·       การยอมรับความแตกต่าง: เป็นเหตุผลข้อแรกเลย เพราะแต่ละองค์กร แต่ละหน่วยงาน จะมีความเด่นความด้อยอยู่  การเข้ามาทำงานร่วมกันแบบ Partnership นั้นเป็นการเอาจุดเด่นของแต่ละองค์กรมาร่วมเข้าด้วยกัน โดยละเว้นจุดด้อยที่แต่ละองค์กรมีอยู่ จุดด้อยขององค์กรหนึ่งอาจจะเป็นจุดเด่นของอีกองค์กรหนึ่ง</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 1cm; text-align: justify; tab-stops: list 42.55pt" class="MsoNormal">·       มีศรัทธาต่อกัน (Trust): จะร่วมกันทำงานก็ต้องมีศรัทธาต่อกัน หากแม้ยอมรับว่าเขาเด่นเรื่องนี้แต่ไม่ศรัทธาเขา ก็อย่าร่วมกันดีกว่าครับ หาเรื่องทะเลาะกันเปล่าๆ ปลี้ๆ ตรงกันข้าม หากมีศรัทธา ก็จะเป็นการอุดช่องว่างให้แก่กัน องค์กรที่มีจุดด้อยก็เรียนรู้จุดเด่นของอีกองค์กรหนึ่ง แล้วเอาองค์ความรู้มาปรับใช้ มาพัฒนาองค์กรของตนเองให้พัฒนาขึ้น ก็ยิ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็ง เรียกว่า Consolidation แก่กัน</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 1cm; text-align: justify; tab-stops: list 42.55pt" class="MsoNormal">·       มีความเท่าเทียมกัน (Equality): องค์กรมีขนาดแตกต่างกัน มีประสบการณ์แตกต่างกัน มีบุคลากรแตกต่างกัน ฯ การเข้าร่วมงานกันต้องรักษาระดับความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครใหญ่ ใครเล็ก ไม่มีชั้นชน มีแต่เพื่อนร่วมงานที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน (Dignity) มีเกียรติภูมิเท่าเทียมกัน มีความสง่างามเท่าเทียมกัน เช่นนี้คือฐานของการร่วมมือที่ดีต่อกัน เรามีคำไทยที่ใช้กันในป่าสมัยก่อน ซึ่งเอามาใช้ได้คือ  แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 1cm; text-align: justify; tab-stops: list 42.55pt" class="MsoNormal">·       ความเป็นหนึ่งเดียวกัน (Unity):  หรือเรียกว่า ความเป็น Solidarity ยึดเป้าหมายเป็นหลักเหมือนกับน้ำสองสีไหลมาบรรจบกัน ไม่ว่าน้ำจะสีอะไรก็เข้าหลอมรวมเป็นอันเดียวกันเป็นเนื้อเดียวกันได้ในที่สุด มีคุณสมบัติของน้ำครบถ้วน</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 1cm; text-align: justify; tab-stops: list 42.55pt" class="MsoNormal">·       การแลกเปลี่ยนกัน การแบ่งปันกัน (Sharing): การแบ่งปันกันเต็มที่ในองค์ความรู้จุดเด่นของกันและกัน เพื่อสร้างสรรค์ความสำเร็จของวัตถุประสงค์ที่จัดทำร่วมกัน การมาร่วมกันโดยเป็นเพียงเป็นผู้รับนั้นไม่เพียงพอ และไม่เหมาะสมในการเป็น Partnership หรือการทำแต่หน้าที่ ต้องเป็นผู้ให้ด้วย ให้ในส่วนที่เรามี รับในส่วนที่เราขาด แลกเปลี่ยนตามความคิดเห็น ประสบการณ์ ทัศนคติที่มีอยู่อย่างตรงไปตรงมาแต่ด้วยลักษณะท่าทีที่เป็นมิตรแก่กัน </p>   <div style="text-align: center"></div>    <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">หากสามารถหลอมรวมกันได้ดังนี้ก็จะพบความสงบ ร่มเย็น สันติภาพ ความก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง เฟื่องฟุ้ง  ตรงกันข้ามหากหลอมรวมกันไม่ได้ ก็ยุ่งตายห....</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">หรือว่าสังคมไทยมีบุคลิกอะไรหนอที่ทำให้ไม่เกิดการหลอมรวมดังหลักการนี้ เรามีตัวอย่างทั้ง Best case และ Worth case บ้างไหมหนอ ?? ยังนึกไม่ออกเลยเนี่ยะ  นึกออกแต่ชาวบ้านบางระจันรวมตัวกันต่อสู้พม่าข้าศึก  นึกออกแต่วีรกรรมท่านย่าโม และฯลฯ สมัยนั้นไม่มีคำว่าพันธมิตรร่วมงาน ไม่มีคำว่าบูรณาการแน่เลย น่าจะมีคำว่า ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ใครถนัดอะไรก็แสดงสิ่งนั้น ใครไม่ถนัดอะไรก็เป็นแรงงานให้กัน  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p>แต่ทั้งหมดนั้นมีใจหลอมเข้าด้วยกันอย่างแน่นอน ใจรวมเป็นหนึ่ง  ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองไม่รอดมาจนปัจจุบันนี้หรอก  แล้วการบูรณาการปัจจุบันนี้ ใจมันไปอยู่ที่ไหนกันหมด อยากรู้จริงๆเชียว.. 

คำสำคัญ (Tags): #partnership
หมายเลขบันทึก: 83839เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2007 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
แหม...อาจารย์วันนี้มาดึกนะขอบคุณมากสำหรับความรู้อย่างนี้ผมว่าเดี๋ยวนี้  มันขาดนะ   เหมือนที่ท่านพุทธทาสว่า   ทุกวันนี้เราเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆด้วยภาษา  ด้วยการบอกกล่าว  แม้เรียนเรื่องปรัชญา  ศาสนา   แท้จริงมันเรื่องลงมือปฏิบัติ  จึงรู้  จึงเข้าใจของ บ่ กิ๋น ฮู้ เน่า  ของ บ่ เล่า ฮู้ ลืม(ของไม่กิน  มันจะเน่า  ของที่ไม่ได้พูดถึงมันอีกมันก็จะลืม)

 

  • สวัสดีครับ เพิ่งอ่านข่าวเมื่อกี้ ประเทศไทยได้รางวัลชนะเลิศอันดับสองร่วม คอรัปชั่นใน Asia ไปไกลแล้วประเทศของเราครับ น่าจะได้อันดับหนึ่งไปเลยครับ แล้วค่อยหาทางสละรางวัลให้ประเทศอื่นบ้าง
  • ขอบคุณมากนะคับ สำหรับข้อความดีๆ เห็นด้วยทุกประการครับพี่ไพศาล

 

  • ใช่แล้วครับ TAFS
  • คนยุคใหม่จะทำอะไรไม่เป็น พูดก็ได้บ้างแต่ไม่ค่อยมีหลักเท่าใด
  • ยิ่งทำยิ่งไม่เอาเลย เก้ ๆกังๆ ต้องฝึกกันเยอะ
  • ขอบคุณครับ
  • ข่าวเศร้าเช้านี้..
  • มันเป็น Indicator อะไรนะเนี่ยะ
  • แล้วเราจะยืดอกไปคุยอะไรกับใครล่ะ เม้ง 
  • ขอบคุณครับ เม้ง พี่สนใจงานเม้งมากครับ
  • ขอบคุณมากครับพี่
  • พูดไม่ออกครับ ทราบข่าวแล้ว แต่ก็คือความจริงครับ ไม่ว่ากันครับ ขอให้ต่อไปอย่าได้เป็นแบบนั้นอีก ต้องสร้างให้องค์กรประชาชนเข้มแข็งเร็วๆ ครับ
  • สำหรับงานผม เป้าหมายไกลๆ คืออยากจะทราบว่าในแต่ละพื้นที่ควรจะปลูกอะไรในสภาพแวดล้อมนั้นๆ หากปลูกพืชชนิดนั้นแล้ว พืชเหล่านั้นจะโตอย่างไร จะเกิดผลผลิตอย่างไรครับ
  • แต่ตอนนี้ต้องเตรียมส่วนประกอบพื้นฐานให้แน่นก่อนครับ เลยต้องทำตั้งแต่ โมเดล การจำลองแบบ แล้วก็การสร้างภาพเพื่อการแสดงผลครับ ต้องการข้อมูลจากการทดลองจริงครับ เพราะสิ่งที่เกิดมาในอดีตไม่มีการเก็บข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ตามที่ต้องการนะครับ
  • ตอนนี้ก็ได้เครือข่ายงานในด้านที่ทำอยู่เยอะพอสมควรครับ แต่ในภาพรวมของทั้งโลกก็ต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรครับ งานที่ทำอยู่เพิ่งมาบูมเอาหนักเมื่อสี่ห้าปีก่อนครับ
  • แล้วจะเล่าให้ฟังอีกนะครับ
  • มีอะไรที่พี่ช่วยได้ก็บอกกล่าวนะครับ เม้ง
  • น่าสนใจในหลายแง่มุม เช่น เป็นสื่อนำไปกระตุ้นการเรียนรู้ของชาวบ้าน แล้วนำไปสู่การปลูกป่าเป็นต้น
  • นำไปจำลองภาพการเกิดปัญหา และการแก้ไขปัญหา อันเนื่องมาจากป่า ต้นไม้ และวิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกัน
  • โดยเฉพาะการนำไปกระตุ้นกับวัยรุ่น เด็ก เยาวชนต่างๆ ได้ดี เพราะเขาชอบ สื่อประเภทนี้อยู่แล้ว  เข้าใจง่าย
  • จะเป็นประโยชน์มากทีเดียว  เม้งครับ
  • พี่เคยมาเที่ยวที่ Heidelberg  สมัยที่ภรรยาพี่เรียนที่ gottingen ขึ้นไปบนปราสาทข้างบนนั้น มองลงมานะ สะพานสวย บ้านชาวบ้านอยู่บยไหล่เขา เป็นสถานที่ประสูตรของรัชการที่ 8 ด้วยใช่ไหมครับ
  • ขอบคุณพี่ไพศาลมากๆ นะครับ
  • คงต้องรบกวนพี่ไพศาลและหลายๆ คนอีกเยอะครับ เพราะตอนนี้เจอถูกคน ถูกกลุ่มแล้วครับ 
  • ถูกต้องครับพี่ รัชกาลที่แปด ประสูติที่นี่ครับ ตอนนั้น พระราชบิดามาเรียนแพทย์ที่นี่ครับ
  • เมื่อปีสองปีก่อน ก็ได้จัดงานครบรอบ 80 ปี ร.8 เหมือนกันครับ
  • ขอบคุณพี่มากครับ เดี๋ยวจะทำโปรแกรมต้นไม้แจกกันบนหน้าจอครับ เผื่อมีคนสนใจครับ สนุกๆ ครับ
เกิดต่อม เอ๊ะ  ขึ้นทันทีว่าไทย  แซง  อินเดีย  และประเทศยากจนอื่นๆในเอเชียเรื่องคอรัปชั่น

เป็นรองเฉพาะ ฟิลิปินส์  อันนี้สัมผัสได้จริงๆที่ ฟิลิปปินส์

 อินเดีย  ประเทศเขาประชากรส่วนใหญ่ยังจนมากๆเลยครับตามความคิดโดยทั่วไป 

หากจนน่าจะเสี่ยงต่อการเกิดการคอรัปชั่นมากๆ

 คนรวยเขาคงจะพอ  คงจะไม่เอาอะไรอีก  คงจะเป็นแบบว่า  ชีวิตนี้พี่มีแต่ให้

(ซึ่งคนไทยในต่างจังหวัด  เขาเข้าใจเช่นนั้นจริงๆ  ผมได้ยินกับหูตัวเองที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ)

 แต่ข้อมูลออกมา  มัน บ่ ใจ่

 

ทักษิณ  เนียะ  เพราะเขาเข้ามาสู่การเมือง  จึงทำให้หินก้อนนี้ถูกพลิกดูทุกแง่มุมจึงเจอเหลี่ยมมากมาย  หลายเหลี่ยม 

มากหลายกลโกง

 แต่มีเศรษฐี  เมืองไทยที่อยู่เบื้องหลัง   ที่ไม่ได้เข้าสู่การเมือง   อย่าลืมว่า  บรรดาหินเหล่านี้มิได้ถูกพลิกนะ  

เราจึงไม่ทราบ

 ขอไว้อาลัยให้แก่บ้านนี้เมืองนี้  ที่วิธีกลโกงมันอยู่ในสายเลือดเลยหรือไร?เอ๊ะ  เบอร์นี้  ให้เท่าไหร่นะ
  • พูดเรื่องคอรัปชั่นทีไร ของขึ้นทุกที
  • ของในที่นี้คือ สมเภท ช้ำใจ เครียด ฯลฯ แล้วก็ไปนั่งสงบสติอารมณ์
  • ท่านทั้งหลายจะโกงกินกันไปถึงไหนกัน เรานึกในใจ และก็เห็นตำตาอยู่ทุกวี่วันตั้งแต่ระดับเล็กๆไปจนใหญ่ ตั้งแต่ไม่กี่พันบาทไปจนเป็นร้อยล้าน พันล้านบาท ตั้งแต่ผิวดำไปถึงผิวขาว..
  • เราก็ต่อสู้มาตลอดนะ จริงอย่างที่ TAFS กล่าว มันมี "เหลี่ยมที่ยังไม่ได้ถูกพลิก" อีกมาก และพร้อมที่จะพลิกเมื่อมีโอกาส
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณบางทราย

ยังมีเหลี่ยมที่ยังไม่ถูกพลิกขึ้นมาอีกมากเท่าไหร่..นั่นน่ะสิคะยังมีอีกมากเท่าไหร่..เฮ้อ ! อ่านแล้วเหนื่อยใจจัง..

สมัยก่อนใช้คำว่า " ฉ้อราษฎร์ บังหลวง " ใช่มั้ยคะ..เห็นภาพชัดเลยนะคะว่าคุณโกงกินจากราษฎร์และรัฐอย่างไรบ้าง..

  • เขาไม่เกรงใจใครเลยนะครับ
  • ขนาดท่าน..ฯพณฯ ทำพิธีต่อหน้าแล้วยังกล้าทำ  นี่หมายความว่า ไม่มีอะไรอยู่เหนือความต้องการได้แม้แต่....
  • พวกเราต้องกล้าคัดค้านและประณามคนที่มีเหลี่ยมเหล่านั้น  ไม่เช่นนั้นอนาคตประเทศชาติอยู่ไม่ได้ วันนี้เราอยู่ได้ แต่ลูกหลานเราล่ะ..ไม่รู้ว่าเขาจะโดนอะไรบ้างในอนาคต
  • เราต้องช่วยกันนะครับ..
  • ขอบคุณครับ
P
 
เห็นบางทรายเครียด  จึงไม่อยากเพิ่มดีกรีอีก

อ่านแล้ว   ให้ผ่อนคลาย  ถือว่ามีเพื่อนเราทุกข์(ใจ)ด้วยก็แล้วกัน

P
คุณเบิร์ดไม่ต้อง  เหนื่อยใจ  "สังคมมันจะเลวลงอีก  ถ้าคนดีท้อแท้"ประเด็นคือว่า  วิธีคิดแบบเหลี่ยมของเขานั้น

เขามั่นใจว่า  มันดี  มีจริยธรรมเรียบร้อย  โลกธุรกิจเขาก็ทำกัน

 ถวายสัตย์ฯเสร็จ  ออกมาจากประตู  พวกเขาลืมหมดเกลี้ยงเลยหรือ?   นี่ผมคาใจ  ตัวอย่างเล็กๆ คือ หวยมันไม่ดีแต่คนก็เล่นกันอยู่  ก็เอามาเล่นกันเปิดเผยไปเลย  

แถมรัฐได้ภาษี(บาป) จากสิ่งเหล่านี้ 

คนก็เริ่มสับสนระหว่างความดี  เลว  จริยธรรม  คุณธรรม  แยกไม่ออก   มันเทาๆ   แล้วเอาเงินนี้มาส่งลูกส่งหลานที่สมองดี  ไปเรียนต่อเมืองนอกจะได้ชื่อว่าผมนักเรียนนอกเงินหวย  รุ่น...นั้นรุ่นนี้....เรื่องอย่างนี้มันจะฝังตัวคนนั้นจนวันตาย  น่าภูมิใจไหม?อย่าลืมว่า  หวยส่งผลกระทบต่อสังคมทางลบนั้นมากมายเหลือเกิน    ของไม่ดีเราก็ต้องบอกว่าไม่ดี  ไม่เอา  มันมีทางอื่นอีกมากมายที่หารายได้  หรือลดรายจ่าย  ประหยัดกัน    ไม่ใช่มาสิ้นคิด  พลิกเอาของชั่วมาเป็นของดี  นี่คือวิธีหนึ่ง  ที่จริงมีอีกมากมายที่มีวิธีคิดเช่นนี้ของเขา คุณทักษิณ  ผมก็เชื่อว่าหากไม่ลงมาทางการเมือง   คนไทยกือบทุกคนจะยกย่องเขาว่า  เป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดของประเทศนี้ก็มิปานเลยล่ะ ผมไม่ใช่คนดังทางด่า  นะครับ   แต่ผมก็มีเครือข่ายแบ่งปัน  และสร้างภูมิคุ้มกันซึ่งกันและกัน ค่อยๆทำตลอดมา  และจะทำต่อไปอีกเรื่อยๆ  ครับขอบคุณครับ
  • ผมกำลังคิดว่า หากวันหนึ่งผลิตเชื้อได้เรียกว่าเชื้อต้านความคิดชั่ว โดยให้ทุกคนดื่มน้ำเชื้อนี้เข้าไปก่อนจะทำงานให้กับสังคมในระดับรัฐบาล
  • เชื้อนี้จะมีการออกฤทธิ์ทั้งสองด้านคือ หากคิดชั่วก็จะชักดิ้นกันต่อหน้าต่อตานักข่าว สื่อทีวี หรือในสภากันเลย
  • หากคนคิดดี ทำดี เชื้อก็จะส่งผลให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แล้วให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
  • อิๆ คิดไปได้ครับ แต่หากทำได้ เราจะเห็นคนดิ้นในทีวีเยอะไหมครับ ไม่ทราบครับ
  • เมืองไทยอุดมสมบูรณ์มากๆ นะครับ จริงๆ แล้ว หากคิดหาแนวทางในการปฏิบัติจริงๆ ผมว่าหยิบโครงดีๆ เยอะแยะมากมายในโครงการหลวง มาสานต่อให้เกิดความต่อเนื่อง รัฐบาลก็จะไปไกลมากขึ้นครับ
  • การศึกษาจะไม่เกิดขึ้นได้ทั่วประเทศนะครับ หากคนยังไม่มีจะกิน เค้าจะไม่สนใจหรอกครับ เพราะต้องแก้ปัญหาปากท้องก่อน
  • แต่การศึกษาก็เป็นดาบสองสามคมครับ
  • ขอบคุณครับ
  • ขอบคุณ    
    P
    ครับ
  • เราช่วยกันครับ
  • ขอบคุณ   น้อง
    P
     ที่ทำให้พี่หัวเราะ ชอบใจน้ำเชื้อนั้น
  • หากทำได้จริงคงจะช่วยให้คนมีความกลัวน้ำเชื้อ บ้างครับ
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท