ธรรมะกับชีวิต 3:บุคคลที่ข้าพเจ้าไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว


ความหมายของคนที่ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง คือคนที่จะเข้าไปสัมผัสเฉพาะในกรณีที่ควร ที่จำเป็นเท่านั้น

บุคคลที่ข้าพเจ้าไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว

     ในการใช้ชีวิตของข้าพเจ้ามีคนประเภทนี้อยู่ด้วยเสมอ  เป็นการจำกัด  เป็นการขีดเส้น  หรือม่านกำแพงให้กับคนที่มีลักษณะเช่นนี้  ในเชิงที่มีขอบเขตที่ชัดเจนระดับหนึ่ง

 

ความหมายของคนที่ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง

          คือคนที่จะเข้าไปสัมผัสเฉพาะในกรณีที่ควร  ที่จำเป็นเท่านั้น  ถ้าหากในลักษณะทั่วไปแล้วก็เสมือนเป็นเพื่อนร่วมโลก   แต่ก่อนคนกลุ่มนี้อาจจะเป็นคนที่มีประเด็นปัญหาต่อกัน    แต่ปัจจุบันอาจไม่ต้องมีก็ได้  แต่จะเกิดจากการประเมิน วิเคราะห์ด้วยมุมมอง  ด้วยประสบการณ์  ฐานข้อมูล  ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน  โดยไม่ใช้ อคติในการตัดสิน   มองด้วยฐานของศีลธรรม  จารีต  มาตรฐานเฉพาะ  ตามบริบทที่เป็นหรือควร  หรือมีเพิ่มเติม

 

ทำไมถึงไม่อยากเกี่ยวข้องแบบกัลยาณมิตรกับคนกลุ่มนี้

-          เพราะไม่มั่นใจในตรรกะของการใช้ชีวิต ของความคิดคนกลุ่มนี้ว่าจะได้มาตรฐาน  ดีงามเพียงพอหรือไม่

-          เพราะว่าคนกลุ่มนี้เคยทำ  เคยกระทำการอันเป็นสิ่งที่ไม่ควร  ไม่งามแบบชัดเจน  และน่าเชื่อถือว่าผิดหลักการที่ควรเป็น  ผิดจากจารีต กฎและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม  ชุมชนนั้น

-          คนกลุ่มนี้ได้กระทำการให้เกิดความเดือดร้อนต่อตน โดยขาดเหตุผลที่เหมาะที่ควรชัดเจน 

-          เพราะคนกลุ่มนี้มีโอกาสอันจะนำภัยมาสู่ตนในภายหน้า  หรือไม่น่าไว้วางใจต่อความดีงามในวันหน้า

-          เพราะไม่เกิดประโยชน์จากการได้สัมผัส  เรียนรู้กับคนเหล่านี้แบบลึกซึ้ง

-          อาจจะเพราะจริตที่อ่อนไหว  เปราะบาง  เพราะตนเองไม่ได้มีเกราะกำบังใดๆ ที่จะปกป้องตนจากบุคคลที่อาจจะก่อความทุกข์  ความไม่สงบให้กับชีวิตตน    หรือจากปัญญาที่ยังไม่มีเพียงพอต่อการรับรู้ ยอมรับ

 

ตัวอย่างคนกลุ่มนี้

-          เป็นคนที่ทำสิ่งที่ไม่ควร  สิ่งที่ไม่เหมาะสมซ้ำซาก เป็นนิสัยส่วนตนที่มองอย่างไรก็ยากจะเปิดใจและแก้ไขได้ในวันอันใกล้

-          เป็นคนที่ขาดศีลธรรม  มีศีลธรรมที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้

-          เป็นคนที่ชอบพูด  สื่อสารแบบไม่คิด  ให้ร้ายผู้อื่นทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว

-          เป็นคนที่ไม่มีเหตุผลที่ดี  ตาที่ควรเป็น(ตามบริบทนั้นๆ)  กระทำการณ์อันมาสามารถอธิบายได้ด้วยหลักการ  หรือเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปทางสังคม

-          คนที่เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง  ขาดมิติของการยอมรับความคิดเห็น  ฟังไม่เป็น  ขาด สุนทรียสนทนา

-          คนที่ประเมินแล้วมีสัดส่วนที่เป็นสีดำมากกว่าครึ่ง ณ ขณะนั้นๆ

-          ขาดจุดยืนที่มั่นคงในตนเอง  ไม้หลักปักเลน  พูดอย่างทำอย่าง  เช้าอย่างเย็นอีกอย่าง

                                             

***ถ้าหากท่านผู้รู้ท่านใดมีมุมมองเช่นไร  ก็ขอได้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ        ขอบคุณมากครับ****      

                                                                 มีต่อ....

     
หมายเลขบันทึก: 83832เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2007 23:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 16:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อย่างที่เคยคุยกันว่า เรียนรู้จากเขาเพื่อการเติบโตของเรา

อ.ธวัช จาก สคส. เคยถามผมครั้งหนึ่งเรื่อง การพัฒนาตนเองจากข้างใน ว่าให้ผมเขียนออกมา และผมเคยคุยกับน้อง kmsabai มาครั้งหนึ่ง ผมคิดว่า สิ่งที่คิดและปฏิบัติอยู่ ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีคิดอันเกิดจากดอกผลของการเรียนรู้ตนเองทั้งสิ้น

ผมอ่านแล้ว...ผมมองว่า น้องมองรอบด้านครับ และชื่นชมในการใช้ภาษาที่ทำให้เรื่อง ดูนุ่มนวลชวนอ่าน แม้จะมีหัวข้อเรื่องที่เป็นเชิงลบไปก็ตาม

ผมคิดว่า...การเรียนรู้ตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะปเรียนรู้ผู้อื่น

หากไม่เข้าใจตนเอง ก็อย่าหวังว่าจะเข้าใจคนอื่น

ปัญหา..คือโจทย์ข้อสอบที่ยาก และเราได้ทำโจทย์นั้นก็ถือว่า เป็นโอกาสที่เราจะผ่านและได้เลื่อนชั้น

เราจะเจอโจทย์ยากๆขึ้นไปเสมอในชีวิตที่เดินไป

ผมให้กำลังใจครับ

น้องหมอสุพัฒน์ ครับ

  • ลองคิดเสียว่า เขาเหล่านี้มาสอนเรา เรื่อง การใช้ชีวิต ในโลกยุคเกินกึ่งพุทธกาล สิครับ

ถ้าเรากำหนดได้ เราคงเลือกให้รอบ ๆ ตัวเรามีแต่คนดี ๆ แต่ในชีวิตจริงเราเลือกไม่ได้ครับ...

ไม่มีสังคมไหนที่มีแต่คนดี และก็ไม่มีเหมือนกันที่สังคมไหนจะมีแต่คนเลว..

ภายในตัวของบุคคลก็เหมือนกันครับในคนเลว ก็คงมีความดีเล็ก ๆ ที่เราอาจจพอมองเห็นได้บ้าง คงต้องใช้ความพยายามครับ... 

แต่เราคงต้องเริ่มสร้างเกราะของเราที่อ่อนแอให้แข็งแรงขึ้นก่อน โดยใช้ธรรมะที่เรามี....

การให้อภัยจะทำให้เรามองบุคคลอื่นได้สะดวกใจมากขึ้นครับ...

รักษาระดับของความข้องเกี่ยวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ต้องถึงขนาดตัดหรอกครับ รักษาระยะห่างก็พอ คนในสังคมเดียวกันหนีกันไม่พ้นหรอกครับ...

ยิ่งพยายามหนีก็ยิ่งเป็นทุกข์ พยายามเรียนรู้ทำความเข้าใจ ยอมรับ และให้อภัย เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากขึ้นครับ...

 

สวัสดีครับพี่เอก

  • ขอบุคณมากครับ  กับข้อคิดดีๆ
  • ผมจะพยามมองให้รอบๆด้านครับ
  • สิ่งที่ได้เรียนรู้คือตนเองครับ ว่าภายในของเราก็ต้องพัฒนา และเรียนรู้ที่จะปรับปรุงเปลี่ยนให้ดีขึ้นครับ
  • สิ่งที่ได้อีกอย่างคือ  ในช่วงวันเวลาที่ผ่านมาในอดีตหรือปัจุบัน  เราอาจจะเป็นคนประเภทที่เราเองได้ขีดกรอบแบบน้ไว้ก็ได้
  • อาจจะมีใครเคย  หรือคิดกับเราเช่นนนี้อยู่ในปัจจุบันก็ได้ครับ
  • สรุปแล้ว  ผมคิดว่าคนในผมไม่อยากข้องเกี่ยวแท้จริงแล้วเขาก็ต้องมีส่วนที่ดีอยู่ไม่มากก็น้อน  และเขาอาจจะกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางไปสู่อนาคตที่ดีกว่านี้ครับ

สวัสดีครับอาจารย์..เต็มศักดิ์

  • กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับที่ให้คำแนะนำ
  • สั้นๆแต่ว่าได้ความหมายที่ลึกซึ้งสำหรับศิษย์คนนี้มากเลยครับ
  • ตามอ่านบันทึกอาจารย์เสมอๆครับ
  • ไม่แน่ใจว่าท่านอาจารย์เป็นวิทยากรอบรมของเสมสิกขาด้วยหรือเปล่าครับ

 

สวัสดีครับพี่Mr.DIRECT

  •   ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
  • แม้ว่าจะไม่ได้รู้จักกัน  แต่สิ่งที่พี่บันทึกกลับตรงประเด็นที่ผมเสนอออกมา  หรือกำลังติดขัดอยู่มากๆครับ
  • อยากเรียนว่า  ผมชอบทุกบรรทัดที่บึนทึกมากเลยครับ  บางครั้งผมก็คิดไม่อยากทั้งหมด
  • ขอบคุณอีกครั้งครับ  

น้องหมอสุพัฒน์ ครับ

  • ผมเป็นแค่ วิทยากรเสริม เท่านั้นครับ ยังไม่ใช่วิทยากรหลักของเสมฯ  เพราะไปช่วย หลวงพี่ไพศาล จัดอบรมเรื่อง เผชิญความตายอย่างสงบ ครับ
  • เขินๆเหมือนกันนะครับเวลาบอกรับศิษย์ทางไกลอย่างนี้ เอาเป็นว่า เราคงมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอีกนะครับ

มงคลข้อแรก และข้อที่ 2  คือ ไม่คบคนพาล  คบบัณฑิต  น้องน่าจะสามารถ  ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า โดยเฉพาะ การเป็นหมอที่ดี จะเป็นที่พึ่ง ของ คนอื่นในวันข้างหน้า เพราะเรามีธรรมะ  แต่บางทีเราก็ต้องเจอ คนเหล่านี้อยู่เนือง ๆ ครับ โดยเฉพาะการทำงานที่น้องกำลังทำอยู่ 

ก็แบบที่พี่เต็มแนะนำ แหละครับ ต้องอยู่กับคนเหล่านี้ให้ได้นะครับ  เพราะ น้องอาจจะไม่สามารถหนีคนเหล่านี้ไปได้ตลอดชีวิต

เห็นด้วยทุกข้อเลย ค่ะ..แต่เราต้องพยายามอยู่กับคนเหล่านี้ได้โดยจิตไม่ตก..ก็ยากนะคะ แต่ยังไงก็ต้องพยายามค่ะ...(ตามมาเยี่ยมเยียนค่ะ)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท