เวลาที่เหลืออยู่ก็คือ "เวลานี้" ยังไงล่ะครับ ดร. Ka-Poom
วันเสาร์ที่ผ่านนี้ ผมใช้เวลาเกือบทั้งวันอยู่ที่วัดพลงช้างเผือก อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูนิพัทธธรรมนาท (นาท ติสฺสวโส) ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดพลงช้างเผือก ท่านเป็นพระที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับครอบครัวของผมค่อนข้างมาก ท่านเป็นพระที่ผมรู้จักมาตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นเด็ก
ท่านเป็นทั้งพระ "นักพัฒนา" และพระ "สอนวิปัสสนา" ผมจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่ท่านมาศึกษา/สอนวิปัสสนาอยู่ที่วัดปรินายก กรุงเทพฯ ช่วงนั้นผมได้มีโอกาสไปกราบท่านอยู่เนืองๆ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้จักว่าวิปัสสนาคืออะไร รู้แต่ว่าไม่ใช่เรื่องที่ผมสนใจ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ "ยัดเยียด" ที่จะสอนผมแต่ประการใด
วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2550 เวลา 16.00 น. คนนับพันถือดอกไม้จันทร์ เบียดเสียดกันขึ้นไปบนเมรุเพื่อนมัสการร่างที่ไร้ชีวิตของท่านเป็นครั้งสุดท้าย ผมมีความรู้สึกเหมือนกับเสียญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดท่านหนึ่งไป เกิดความรู้สึกแวบขึ้นมาว่าชีวิตคนเรานั้นช่างสั้นนัก ....เราคงต้องเรียนรู้ที่จะรักสิ่งต่างๆ รอบข้างให้มากขึ้น เพราะที่จริงแล้วเวลาที่เรามีกันอยู่นี้ ....มีไม่มากเลย!!
กราบเรียนท่าน อาจารย์ ดร.ประพนธ์ ชีวิตสั้นจริงๆครับ
บางท่านทำงานไปข้างหน้า จนลืมบรรยากาศข้างทาง ริมทาง สนใจแต่ output และ outcome
ลืมความ "รัก ฅน เพื่อน น้อง ทีม" ครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์ JJ ...ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันนะครับ ....ขอบคุณครับสำหรับ Comment ....ปัจจุบันเราห่วงแต่ "เป้าหมาย" จนไม่ได้ "สนใจ" ความสวยงามระหว่างทางอย่างที่อาจารย์พูดถึงครับ
ผมเพิ่งอ่านหนังสือที่อาจารย์ ดร. ประมวล เพ็งจันทร์ เขียนไว้เรื่อง "การเดินทางสู่อสรภาพ" เป็นบันทึกการเดินเท้าจากเชียงใหม่ไปสมุยครับ ...น่าสนใจมาก ....ถ้ามีโอกาสจะนำมาบันทึกให้อ่านต่อไปครับ
เรียนท่านอาจารย์คะ
รักกันไว้ดีกว่านะคะ...อย่าเหยียบย่ำเพื่อนกันเลยค่ะ
เราไม่อาจรู้ได้ว่า เราเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้กี่วัน
ของผมอาจจะเหลือ
1 วัน 5 วัน หรือ 100 วัน
เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีมารยาท
ไปไม่ลา มาไม่ไหว้
ลาละครับทุกๆท่าน
การสูญเสีย หรือการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือเคารพบูชา เป็นทุกข์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้เราได้ทบทวนสัจธรรมให้เกิดความแจ่มชัดและเห็นแจ้งมากขึ้น อย่างที่ท่านอาจารย์นำเสนอผ่านบันทึกนี้ รวมทั้งความเห็นของอีกหลายท่าน ...
ผมเขียนบทกวีนี้ไว้นานแล้ว ขอดัดแปลงและนำมาฝากญาติๆอีกครั้งครับ ...
อันความตาย นั้นอยู่ใกล้ เพียงแค่เอื้อม
เมื่อมีเกิด ก็มีเสื่อม สูญสลาย
ใช่เรื่องใหม่ แต่คนเขลา กลับเมามาย
หลงตัวตน กันอยู่ได้ ทั่วโลกา
ตะเกียกตะกาย กอบโกย ไม่รู้สิ้น
สัจธรรม ไม่ยลยิน ไม่ใฝ่หา
ปล่อยชีวิต ให้ล่วงผ่าน กาลเวลา
ใช้ชีวิต อย่างไร้ค่า ไปจนตาย (ก็มี) .
กะปุ๋มไม่มีเวลาที่เหลืออยู่เลยค่ะ...
(^_______^)
เวลาที่เหลืออยู่ก็คือ "เวลานี้" ยังไงล่ะครับ ดร. Ka-Poom
มีแต่เวลาที่เป็นอยู่ค่ะ...
เวลาที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ค่ะ....
(^______^)
กะปุ๋ม
ขออภัยค่ะอาจารย์เคาะเร็วไปหน่อย...ดลใจสะกิดอย่างแรง ก็เพราะคิดว่าตนเอง...อาจไม่มีเวลามากพอแม้แต่หนึ่งวันก็อาจเป็นได้...อย่าว่าถึงเจ็ดพันวันเลยค่ะ...สรุปแล้วก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าตนเองเหลือเวลาอยู่อีกกี่วัน...
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ...(เดี๋ยวท่านครูบา...บอกว่ากะปุ๋มก็ไม่รู้จักไปมาลาไหว้ค่ะ...อิอิ)
(^______^)
กะปุ๋ม