ธรรมะขีดเส้นใต้ ๓ : พระอรหันต์สิ้นชีวิตแล้วเป็นอย่างไร?


คำว่าเกิดก็ใช้ไม่ได้ คำว่าไม่เกิดก็ใช้ไม่ได้ คำว่าทั้งเกิดทั้งไม่เกิด ก็ใช้ไม่ได้ คำว่า จะว่าเกิดก็ไม่ใช่ ไม่เกิดก็ไม่ใช่ ก็ใช้ไม่ได้

     ถ้าท่านผู้ใดสนใจในพระพุทธศาสนาสักหน่อย ท่านอาจเคยมีคำถามว่า ภาวะของนิพพานนั้นเป็นอย่างไร? หลายสำนักบอกว่านิพพานคือเมืองแก้วที่สวยสดงดงาม บางสำนักก็ว่าเป็นความดับสูญไม่เหลืออะไร บางสำนักก็ว่าเป็นสภาวะที่เป็นอมตะ ไม่เกิด ไม่ตาย ก็แล้วแต่ว่ากันไปครับ

     คำถามเหล่านี้มีมาแต่สมัยพุทธกาลแล้ว และคำถามนี้พระพุทธเจ้ามีคำตอบครับ


     พุทธพจน์เปรียบเทียบพระอรหันต์สิ้นชีพเหมือนไฟดับ  ดังความตอนหนึ่งในคำสนทนาระหว่างพระพุทธเจ้ากับวัจฉโคตตปริพาชกต่อไปนี้

วัจฉโคตต์: ท่านพระโคดมผู้เจริญ  ภิกษุผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วอย่างนี้  จะเกิด ณ ที่ไหน?

พระพุทธเจ้า: ดูก่อนวัจฉะ  คำว่าจะเกิด  ก็ใช้ไม่ได้

วัจฉโคตต์: ถ้าอย่างนั้น  ก็ไม่เกิด

พระพุทธเจ้า: คำว่า ไม่เกิด ก็ใช้ไม่ได้

วัจฉโคตต์: ถ้าอย่างนั้น ก็ทั้งเกิดและไม่เกิด

พระพุทธเจ้า: คำว่าทั้งเกิดและไม่เกิด  ก็ใช้ไม่ได้

วัจฉโคตต์: ถ้าอย่างนั้น  จะว่าเกิดก็ไม่ใช่  ไม่เกิดก็ไม่ใช่

พระพุทธเจ้า: คำว่า จะว่าเกิดก็ไม่ใช่  ไม่เกิดก็ไม่ใช่  ก็ใช้ไม่ได้

วัจฉโคตต์: ท่านพระโคดมผู้เจริญ ฯลฯ  ในเรื่องนี้  ข้าพเจ้าถึงความงุนงงเสียแล้ว  ข้าพเจ้าถึงความหลงไปหมดเสียแล้ว, แม้ความเลื่อมใสที่ได้มีแก่ข้าพเจ้าด้วยถ้อยคำสนทนาเบื้องต้นของท่านพระโคดมผู้เจริญนั้น  ถึงบัดนี้  ก็ได้หายไปหมดแล้ว

พระพุทธเจ้า: ดูก่อนวัจฉะ  ควรแล้วที่ท่านจะงุนงง  ควรแล้วที่ท่านจะหลงไป  เพราะธรรมชาตินี้ลึกซึ้ง  เห็นได้ยาก  รู้ตามได้ยาก  สงบ  ประณีต  หยั่งไม่ได้ด้วยตรรก  ละเอียด  บัณฑิตพึงรู้ได้, ธรรมนั้นอันท่านผู้มีทิฏฐิอื่น  มีแนวความเห็นอื่น  มีหลักที่พอใจอย่างอื่น  มีความเพียรที่ประกอบแบบอื่น  ถืออาจารย์สำนักอื่น  ยากจะรู้ได้, ถ้าอย่างนั้น  เราจักย้อนถามท่านในเรื่องนี้, ท่านเห็นควรอย่างไร  พึงกล่าวชี้แจงอย่างนั้น, ดูก่อนวัจฉะ  ท่านสำคัญว่าอย่างไร  ถ้าไฟลุกโพลงเบื้องหน้าท่าน, ท่านรู้ไหมว่า  ไฟนี้ลุกโพลงอยู่เบื้องหน้าเรา?

วัจฉโคตต์: ...ข้าพเจ้าพึงรู้ได้ ฯลฯ

พระพุทธเจ้า: ก็ถ้าใครๆ พึงถามท่านอย่างนี้ว่า  ไฟที่ลุกโพลงอยู่เบื้องหน้าของท่านนี้  อาศัยอะไรจึงลุกโพลง, ท่านถูกถามอย่างนี้  จะพึงกล่าวชี้แจงอย่างไร?

วัจฉโคตต์: ...ข้าพเจ้าพึงกล่าวชี้แจงว่า  ไฟที่ลุกโพลงอยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้านี้  อาศัยเชื้อคือหญ้าและไม้  จึงลุกโพลงได้

พระพุทธเจ้า: ดูก่อนวัจฉะ  ถ้าไฟเบื้องหน้าท่านนั้นพึงดับไป  ท่านจะรู้ไหมว่า  ไฟเบื้องหน้าเรานี้ดับไปแล้ว

วัจฉโคตต์: ...ข้าพเจ้าพึงรู้ได้ว่า  ไฟเบื้องหน้าข้าพเจ้านี้ดับแล้ว

พระพุทธเจ้า: ก็ถ้าใครๆ พึงถามท่านอย่างนี้ว่าไฟเบื้องหน้าท่านนี้ที่ดับแล้วนั้น  ไปจากนี่สู่ทิศไหน  ทิศตะวันออก  ทิศตะวันตก  ทิศเหนือ  ทิศใต้, ท่านถูกถามอย่างนี้แล้ว  จะพึงกล่าวชี้แจงว่ากระไร?

วัจฉโคตต์: (ข้อความถามตอบอย่างนั้น)  ใช้ไม่ได้ดอก  ท่านพระโคดมผู้เจริญ, เพราะว่าไฟนั้นอาศัยเชื้อคือหญ้าและไม้ใดจึงลุกโพลงอยู่ได้, เพราะเชื้อนั้นหมดสิ้นไป   และเพราะไม่ได้เชื้ออื่นเติม  ไฟนั้นก็ถึงความนับได้ว่าหมดเชื้อดับไปเท่านั้นเอง

พระพุทธเจ้า: ฉันนั้นเหมือนกันแล  วัจฉะ  บุคคลเมื่อจะบัญญัติตถาคต  พึงบัญญัติด้วยรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณใด  รูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ นั้น  ตถาคตละได้แล้ว  ถอนรากเสียแล้ว  ทำให้เป็นดุจตาลยอดด้วน  ถึงความไม่มี  มีความไม่เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา, ตถาคตพ้นจากการนับว่ารูป...พ้นจากการนับว่าเวทนา...พ้นจากการนับว่าสัญญา...พ้นจากการนับว่าสังขาร...พ้นจากการนับว่าวิญญาณ  ลึกซึ้ง  ประมาณไม่ได้  หยั่งได้ยาก  เปรียบเหมือนมหาสมุทร, คำว่าเกิดก็ใช้ไม่ได้  คำว่าไม่เกิดก็ใช้ไม่ได้  คำว่าทั้งเกิดทั้งไม่เกิด ก็ใช้ไม่ได้  คำว่า จะว่าเกิดก็ไม่ใช่ ไม่เกิดก็ไม่ใช่ ก็ใช้ไม่ได้

จากหนังสือ พุทธธรรม ฉบับขยายความ
โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)
หน้า 391 - 392

     หวังว่าบางท่านคงกระจ่างกันสักหน่อยนะครับ  เราห่างไกลจากสมัยพุทธกาลมานานเหลือเกิน  คำศัพท์บางคำมาถึงสมัยนี้ก็เปลี่ยนความหมายไป  บางคำก็มีความหมายตรงข้ามไปเลยก็มี

     เช่น คำว่า กรรม ความหมายจริงๆ แปลว่าการกระทำ ซึ่งเป็นคำกลางๆ ทำดีก็กรรมดี  ทำชั่วก็กรรมชั่ว  แต่มาสมัยนี้คำว่ากรรมมีความหมายเปลี่ยนไปใช้เฉพาะกรรมชั่วเท่านั้น

     ทีนี้ถ้าเราฟังหรืออ่านโดยแปลเป็นภาษาปัจจุบัน หรือเป็นภาษาคน (ไม่ใช่ภาษาธรรม) ความหมายก็เพี้ยน  หรือผิดไปเลยครับ

 

ธรรมะสวัสดีครับ
ธรรมาวุธ
หมายเลขบันทึก: 82540เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2007 02:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

สวัสดีครับน้องชายที่รัก

เข้ามาในนี้ทีไรอบอุ่นด้วยธรรมจริงครับ

ดีครับ เขียนไว้เยอะๆครับ พี่เชื่อว่าวันหนึ่งต้องงอกขึ้นในใจคน เขียวชอุ่มในใจคนครับ

ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากรายทาง

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับพี่เม้งที่ให้กำลังใจ

จริงๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ด้วยความที่อ่านเรื่องเหล่านี้มากกว่าหนังสือประเภทอื่นหน่อย และก็พยายามอ่านใน G2K ว่าเขาสงสัยเรื่องอะไรกัน ถ้าเห็นว่าคนอื่นยังตอบไม่เคลียร์  และเราสามารถค้นคำตอบให้ได้ก็จะช่วยอีกแรงครับ

อนึ่ง เรื่องธรรมะนี่เป็นเรื่องที่คนสนใจน้อยมาก  บางคนต้องทุกข์มากจริงๆ ถึงจะมาสนใจธรรมะ  บางคนก็ศึกษาเป็นไสยศาสตร์ไป  ซึ่งผิดฝาผิดตัว  ไม่ตรงตามพุทธประสงค์  ก็เข้าป่าเข้าพงไป

ปัญหาก็อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่มองธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัว  ปฏิบัติได้ทุกวัน และเป็นเรื่องจำเป็น  ปัญหานี้ผมจะพยายามขบให้แตกครับ

ธรรมะสวัสดีคะ

ไม่เกิดก็ใช้ไม่ได้ คำว่าทั้งเกิดทั้งไม่เกิด ก็ใช้ไม่ได้ คำว่า จะว่าเกิดก็ไม่ใช่ ไม่เกิดก็ไม่ใช่ ก็ใช้ไม่ได้ สรุปการหลุดพ้นเนี่ยมันอธิบายไม่ได้ ต้องรู้เอง ถูกป่าว

เอ...ถ้างั้นไม่หลุดพ้นล่ะ อธิบายได้ป่าว ตายแล้วไปไหน ต้องเวียนว่ายตายเกิดหรือป่าว พระพุทธเจ้ามีตรัสไว้ป่าว 

ที่มนุษย์จะล้นโลกนี้เพราะไม่ค่อยจะมีใครหลุดพ้นกันหรือป่าว

คราวหน้าเขียนเล่าเรื่องนี้ให้อ่านหน่อยดิ อิๆๆ

 

สงสัยวัลลีย์ต้องมีบลอกเป็นของตัวเองแล้วนะ

ขอตอบคร่าวๆ นะ

หากเรายังไม่หลุดพ้น หรือยังไม่บรรลุนิพพานก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปครับ

ส่วนที่ว่าคนจะล้นโลกนั้นผมเชื่อว่ายากครับ เพราะธรรมชาติจะมีวิธีปรับสมดุลย์ของเขาเองครับ ไม่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

เดี๋ยวจะหาข้อมูลเรื่องเวียนว่ายตายเกิดมาเล่าให้ฟังครับ

อุย เรียกเราซะเต็มยศเลยนะเพื่อน

เรื่องมีบลอกหน่ะไม่ได้หรอกเทพ เขียนไม่ได้หรอกรู้ตัวเองดี ขืนเขียนไปก้อมีแต่น้ำท่วมทุ่ง ให้คนมาเก็บผักบุ้งไปขายล่ะไม่ว่า
บังคับตัวเองให้เขียนบันทึกทุกวัน ตอนนี้ยังทำไม่ค่อยจะได้เลยอ่ะ

ขอบาย ดีกว่าเรื่องงานเขียนหน่ะ

แล้วจะรอเกี่ยวกับการเวียนว่ายนะ  

เรียนคุณลีย์

จริงๆ แล้วการเวียนว่ายตายเกิดในพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธองค์ได้กล่าวไว้พิสดาร(ซับซ้อน,ละเอียดอ่อน) ยิ่งนัก

จะตอบง่ายๆ ว่าคนเราเมื่อตายแล้วไปสู่ภพภูมิไหนบ้างก็พอจะตอบได้ครับ แต่นั่นยังไม่ใช่คำตอบที่ตรงตามพุทธประสงค์ทั้งหมด

คำถามนี้ดูเหมือนง่ายแต่จริงๆ แล้วมันละเอียดอ่อนเหลือเกิน ซึ่งคำตอบเหล่านี้ต้องโยงถึงหลักสำคัญในพุทธศาสนาคือ ปฎิจจสมุปบาท ซึ่งมีเนื้อหาซับซ้อน และยากมาก บอกได้เลยว่าผมเข้าใจเรื่องเหล่านี้น้อยมาก

แต่จะลองพยายามหาแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือใด้มานำเสนอให้ทราบ แต่คงต้องใช้เวลาสักพัก

นับแต่ได้รับคำถามนี้ มันก็หลอกหลอนผมทุกวันทุกเวลา

รับรองเรื่องนี้ยาวแน่

ธรรมะสวัสดีครับ

เจริญธรรม..สำนึกดีครับ

  • ธรรมะถ้าพูดในแง้พุทธพจน์ดูเข้าใจยากครับ สำหรับผมเพราะภาษาออกในแนวกวี  แต่ถ้ามีการอธิบายขยายความนี่ OK ครับพอเข้าใจง่ายขึ้น
  • นิพพานเป็นสุดยอดปรารถนาของชาวพุทธ  แต่ก็ไปยากจัง (กิเลสครอบงำยากจะสลัดทิ้งไปได้)
  • เป็นกำลังจะ จะรออ่านงานในบทต่อ ๆ ไป 
  • ขออนุญาตนำบันทึกนี้เข้า แพลนเน็ต "ย่ามแดง" นะครับ

ยินดีครับ อ.ย่ามแดง

ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องธรรมะเท่าไหร่นัก อาศัยแค่เป็นแนวที่ชอบ และอยากช่วยเผยแพร่ธรรมะในส่วนที่เข้าใจว่าถูกต้อง

ซึ่งก็นำมาจากหนังสือหนังหาต่างๆ มาเล่าให้ฟังครับ ตอนแรกคิดว่าอยากให้รู้ลึกซึ้งสักระดับก่อนแล้วค่อยเผยแพร่ แต่เราไม่อาจรู้ได้ว่าวินาทีถัดไปจะเกิดอะไรกับเรา

ทำอะไรได้ก็ต้องรีบทำก่อนครับ เลยใช้วิธีศึกษาพร้อมกับเผยแผ่ไปเลยครับ

มีอะไรตักเตือน หรือแนะนำก็ยินดีเสมอครับ

 ป.ล. คิดถึงปลาตีนและเลโคลนจังเลยครับ

ชอบ และ ขอบคุณครับ
    สกัดของดีมาวางบ่อยๆ  เป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ในสิ่งควรรู้ให้ผู้คน  เป็นกุศล เป็นความดีงาม เป็นความสุขทั้งของผู้ให้และผู้รับ ขอนำ Blog นี้เข้า Planet  ลานประสบการณ์ ด้วยนะครับ

ยินดีครับ อ.Handy

แค่ อ. แวะมาอ่านผมก็ดีใจแล้วครับ ผมได้ยินกิตติศัพท์ของ อ. จากพี่เม้งมาพอสมควรครับ

มันเป็นแบบนี้เอง งั้นผมถามต่อนะ เมื่อรู้ว่าเป็นเช่นนั้นแล้วทำไมเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายไม่ยอมเข้าสู่ นิพพานสักที ทั้งๆที่มีฤทธิเดช หรือสามารถบังคับฟ้าดินได้รู้ผิดรู้ชอบ และควรแก่การสักการะอย่างยิ่ง

อีกข้อนะครับ ในปัจจุบันนี้มีใครเข้าสู่นิพพานหรือ     เป็นพระอรหันต์บ้าง

สวัสดีครับ คุณ

P
  • ขอตอบแบบคร่าวๆ ตามที่คิดเองได้นะครับ (อาจผิดก็ได้ครับ)
  • เทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดครับ
  • การมีฤทธิ์ มีเดช บังคับดินฟ้าอากาศได้ ไม่ได้หมายความว่าจะบรรลุนิพพานได้
  • การเข้าสู่นิพพานนั้น ไม่ได้อยู่ที่ยอมหรือไม่ยอมครับ อยู่ที่ปฏิบัติได้รู้แจ้ง ถึงพร้อมหรือเปล่า ถ้าถึงพร้อมจริงแล้ว ยอม ไม่ยอม ก็ต้องเข้าสู่นิพพานครับ
  • ส่วนที่ว่าใครเข้าสู่นิพพานบ้าง  เป็นพระอรหันต์บ้าง บอกตามตรง ผมไม่ทราบครับ
  • คนที่สามารถรู้ได้  ก็ต้องเป็นผู้ที่มีภูมิธรรมเหนือกว่า หรือเท่าๆ กัน งั้นหมดหวังที่ผมจะรู้ได้ครับ

ข้อไหนไม่แจ้งก็บอกนะครับ  หรือตรงไหนผิดตักเตือนได้ครับ  ขาดกัลยาณมิตรเสียแล้ว โลกนี้ก็ไม่ค่อยจะน่าอยู่เท่าไหร่หรอกครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

เมื่อเทวดายังต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้วอายุใขของเทวดาเป็นอย่างไร เทวดาท่านรู้เรื่องนิพพาน สามารถสอนคนอื่นได้แล้วทำไมเทวดาไม่ทำเอง

สวัสดีครับคุณ
P
  • จริงๆ แล้ว ผมเคยกล่าวในบทความต้นๆ แล้วว่าไม่ค่อยอยากลงลึกเรื่องเทวดา ผี หรืออะไรทำนองนี้มากนัก เพราะเรายังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องศึกษา คือทำอย่างไรให้เขาไปอยู่ในทาง ที่เข้าสู่ความหลุดพ้นได้
  • เพราะคำถาม เรื่องเทวดา ภพภูมิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ตอบกันไม่หวาดไม่ไหวครับ  อีกทั้งเป็นเรื่องที่ผลุบๆ โผล่ๆ หมายความว่าจับให้มั่นคั้นให้ตายไม่ได้ (ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะครับ)
  • ผมแนะนำให้คุณหาหนังสือตามร้านหนังสือไหนก็ได้ครับ  เอาเกี่ยวกับเรื่องที่อธิบายความในพระไตรปิฎก และมีอ้างอิงด้วย  หรือถ้าไม่มีอ้างอิงก็ให้ดูประวัติว่าท่านน่าเชื่อถือในความแตกฉานในพระไตรปิฏกครับ (แต่ผมไม่ได้บอกว่าคนที่ไม่รู้เรื่องในพระไตรปิฏกจะบรรลุธรรมไม่ได้นะครับ เพียงแต่อยากให้เข้าใจ concept เท่านั้น)
  • แต่เมื่อถามมาก็ต้องตอบไปครับ
  • กับปัญหาที่ว่า อายุขัยของเทวดาเป็นอย่างไรนั้น บอกตามตรงว่าผมไม่ทราบแน่นอนครับ รู้แต่ว่านานมากครั้ง แล้วแต่ชั้น และแล้วแต่กรรมที่ทำไว้ด้วยครับ
  • แต่ผมมีคำถามกลับครับ  ว่าคุณรู้ได้อย่างไรว่าเทวดาท่านรู้เรื่องนิพพานครับ
  • จะรอคำตอบครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

ถ้าเทวดาไม่รู้นิพพานแล้วจะมาสอนคนได้ไง

ถ้าเทวดาไม่รู้นิพพานแล้วจะจัดว่าเป็นผู้หยั่งรู้ได้อย่างไร

ถ้าเทวดาไม่นับถือศาสนาพุทธแล้วจะนับถือศาสนาอะไร

"ธรรมชาตินี้ลึกซึ้ง  เห็นได้ยาก  รู้ตามได้ยาก  สงบ  ประณีต  หยั่งไม่ได้ด้วยตรรก"

มัทว่านี่แหละค่ะ คำว่า "incomprehensible" ที่มัทหาอยู่ว่าคำบาลีใช่คำว่าอะไร

เดี๋ยวจะไปลองเปิดฉบับภาษาบาลีดู ขอบคุณมากค่ะคุณธรรมาวุธ

 

P ลูกพ่อพิฆเนศ: เทวดาหนับถือศาสนาอะไรก็ได้ค่ะ ส่วนตัวเชื่อว่าในอีกภพก็มีทั้งเทวดาคริสต์ พุทธ พราห์ม ซิกข์ อิสลาม ฯลฯ ค่ะ ก็เหมือนคนบนโลกในภพนี้ เค้าก็ทำหน้าที่ตามศาสนาเค้า

 

P
  • ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม
  • และช่วยตอบคำถามแก่คุณลูกพ่อพิฆเนศแทนผม
  • ผมเห็นด้วยครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

คุณ 
P

ครับ ขอแสดงความคิดเห็นตามความรู้งูๆปลาๆของตนนะครับ 

เทวดามีจริงหรือไม่?
มี [ 207 ]  [87.71%]
ไม่มี [ 3 ]  [1.27%]
ไม่แน่ใจ [ 17 ]  [7.20%]
มีแต่ไม่มี [ 9 ]  [3.81%]
โหวตทั้งหมด: 236
เทพ 3 (เทพเจ้า,เทวดา)
1.สมมติเทพ (เทวดาโดยสมมติ ได้แก่ พระราชา พระเทวี และพระราชกุมาร
2.อุปปัตติเทพ (เทวดาโดยกำเนิด ได้แก่ เทวดาในกามาวจรสวรรค์ และพรหมทั้งหลาย เป็นต้น)
3.วิสุทธิเทพ (เทวดาโดยความบริสุทธิ์ ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย)

จากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระธรรมปิฎก(พระพรหมคุณาภรณ์)
คนใจสูง บุญมาก  เมื่อตาย จิตไม่สับสนด้วยกรรมบางอย่าง   เป็นจิตที่กุศลกรรมปรุงแต่ง   ดับจิตจากร่างเดิมปุ๊บ เกิดในสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง   ตามบุญกรรม และระดับจิตขณะจุติ
  • ถ้าเทวดาไม่รู้นิพพานแล้วจะมาสอนคนได้ไง
  • ถ้าเทวดาไม่รู้นิพพานแล้วจะจัดว่าเป็นผู้หยั่งรู้ได้อย่างไร

ครูจบปริญญาตรีก็สอนเด็ก อนุบาลได้ ครูจบด๊อก ก็สอนได้เช่นเดียวกัน แต่จะสอนได้ดีกว่าหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่ที่ครู ไม่ใช่ระดับการศึกษา แต่ครูจะมาสอนได้ดีอย่างไร ถ้าลูกศิษย์อยู่คนละทวีป อย่างมากก็ได้เพียงโทรศัพท์มาแนะนำ (ถ้ามีเนต คงใช้เนต แต่ค่าโทรแพงมาก โทรแล้วก็มักจะไม่ค่อยมีสัญญาณตอบรับจากเครื่องที่ท่านเรียก)

เทวดาจะได้กลิ่นหอมของศีลจากผู้ทรงศีล
และจะมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ด้วยความนิยมชมชอบ
ส่วนมนุษย์ทั้งหลายที่ทุศีล เทวดาจะรู้สึกเหม็นกลิ่นมนุษย์เหล่านั้นมาก

  • ทำไมเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายไม่ยอมเข้าสู่ นิพพานสักที ทั้งๆที่มีฤทธิเดช หรือสามารถบังคับฟ้าดินได้รู้ผิดรู้ชอบ และควรแก่การสักการะอย่างยิ่ง

ไม่ต้องถึงเทวดาครับ เหล่าโยคี หรือพราหมณ์ก็สามารถมีฤทธิ์ได้ ถ้าท่านเหล่านั้นมีความเพียรและบุญบารมีพอ  แต่ท่านเหล่านั้นอาจจะไม่รู้จักนิพพานเพราะไม่รู้จักหรือไม่ศรัทธาศาสนาพุทธ

เหมือนคนไม่มีตังค์พอจะซื้อไอติมกิน หรือแม้อยากจะกินอะไรสักอย่างที่เย็นๆ แต่ไม่มีรู้วิธีผลิตไอติมเลย ก็ต้องซื้อน้ำแข็งปั่นกินไปก่อน พอได้กินก็หลงคิดไปว่าน้ำแข็งปั่นอร่อยที่สุดแล้ว แต่ผู้ที่จะทำไอติมได้ก็ต้องรู้วิธีทำน้ำแข็งมาก่อนแล้วแน่นอน  

  • ถ้าเทวดาไม่นับถือศาสนาพุทธแล้วจะนับถือศาสนาอะไร

คนทำดี ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ถ้าดีจริงก็ได้เป็นเทวดา ส่วนเทวดาจะนับถือศาสนาหรือไม่นั้นไม่ทราบครับ

  • เมื่อเทวดายังต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้วอายุใขของเทวดาเป็นอย่างไร เทวดาท่านรู้เรื่องนิพพาน สามารถสอนคนอื่นได้แล้วทำไมเทวดาไม่ทำเอง

 โดยธรรมดาทั่วไป 100 ปี ในมนุษย์เท่ากับวันหนึ่งกับคืนหนึ่งของเทวดาชั้นดาวดึงส์ พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์มีอายุ 1,000 ปี (หนึ่งพันปี) ทิพย์ หนึ่งพันปีทิพย์นั้น เมื่อเทียบอายุในมนุษย์เท่ากับ 36 ล้านปี คิดเสียว่าอายุของเทพชั้นดาวดึงส์คนหนึ่งเท่ากับ 36 ล้านปีในเมืองมนุษย์

ถ้าเป็นเทวดาแล้วต้องมาช่วยมนุษย์ ต้องมากลัดกลุ้มกับพฤติกรรมของมนุษย์ ใครมันจะอยากเป็นเทวดาล่ะครับ เหนื่อยแย่

 

 

เยี่ยมครับคุณ man in flam อธิบายได้เห็นภาพเลย ภาษาปะกิตเขาบอกว่า clear cut (หรือเปล่า) ทำให้กระจ่างในดวงกมล ......

องค์ใดพระสัมพุทธ  สุวิสุทธสันดาน

   ตัดมูลเกลศมาร        บ มิหม่นมิหมองมัว

  หนึ่งในพระทัยท่าน    ก็เบิกบานคือดอกบัว

  ราคี บ พันพัว             สุวคนธกำจร.."

                                         (บทสรรเสริญพระพุทธคุณ)

ผู้เห็นสุญตา มัจจุราชตามไม่ทัน ความตายจะไม่ถึงพวกเรา ทำไม เพราะเราไม่มี มีแต่กองรูป กองเวทนา กองสัญญา กองสังขาร กองวิญญาณ เท่านั้น


    ไอ้รวงผึ่งนั่นเห็นมั้ย ตัวแม่มันออกไปหมดไปเอารวงมันถูกตัวผึ้งมั้ยล่ะ มันก็ถูกแต่ขี้ผึ้งเท่านั้นแหละ ตัวผึ้งไปไหนไม่รู้ เพราะมันไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

  พระพุทธองค์สอนอย่างนั้น ให้เห็นออกจากตัวตน อย่างนั้น มันหมดปัญหา ไม่ใช่แต่ปัญหามันหมด เฉลยมันก็ไม่มี ปัญหามันก็ไม่มี ไอ้คนที่จะแก้ปัญหาก็ไม่มี มันหมดตรงนั้น เรารู้จักของมันหมดมั้ย หมดก็เรียกว่ามันไม่มี...

จากเทปธรรมเทศนาของหลวงพ่อชาฯ ม้วนที่ ๓๖

ไปคัดลอกคำอธิบายมา ไม่รู้ว่าพอจะเห็นชัดเจนขึ้นไม่  

ผมไม่ได้ฟังหรือสวด บทสรรเสริญพระพุทธคุณนานแล้วครับ จำความได้ว่า  เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เรามีสวดมนต์ใหญ่ทุกศุกร์

ตอนนี้รู้สึกว่าตนเองและวัยรุ่นไทยห่างกับพระพุทธศาสนามาก

การกำหนดเนื้อหาวิชาการหลักสูตรการเรียนการสอนในอดีต ที่คุณบุญสม มาร์ติน ชาวคริสต์ ตัดวิชาศีลธรรมพุทธออกจากการเรียนการสอน ส่งผลให้ปัจจุบันนี้เด็กวัยรุ่นสวดมนต์กันไม่เป็นแล้วครับ  ซึ่งรวมถึงผมด้วยครับ

ไม่ทราบตอนนี้ในโรงเรียนยังมีให้เด็กนักเรียนสวดมนต์อยู่หรือเปล่าครับ

 

ผมไม่แน่ใจว่ายังสวดอยู่ไม่ นะ แต่ผมเห็นหลานมันมีเล่มเล็กๆอยู่  บ้านผมก็อยุ่ติดหลังโรงเรียนประถมไม่เคยได้ยินเลยครับ หรือเขาสวดกันตอนผมไม่อยู่

ผมก็สวดวันศุกร์ตอนคาบเช้าทุกวัน สวดใหญ่เหมือนกันมานั่งสวดกันทั้งโรงเรียนเลย คงจะเป็นนโยบายกระทรวงศึกษาฯ สมัยนั้นนะครับ   

P
P
  • สวัสดีครับคุณแมน และพี่เลี่ยม (ไม่แน่ใจว่าเขียนชื่อทั้งสองท่านถูกเปล่านะครับ)
  • ขอบคุณสำหรับบทสนทนาที่ทำให้บล็อกจืดๆ แห่งนี้ มีรสชาติขึ้นมาครับ
  • เรื่องเทวดานี่ ผมก็มีข้อมูลอยู่บ้าง  คำตอบก็คล้ายคุณแมนนี่แหละครับ แต่ไม่แน่นเท่า
  • และพอดีก็ไม่ค่อยอยากคุยเรื่องนี้นัก เพราะมันไม่มีที่สุดจริงๆ พอคุยแล้วมักเข้ารกเข้าพงทุกที
  • ดูจตุคามฯเป็นตัวอย่างครับ  เมื่อเย็นนี้เห็นรถโฆษณาวิ่งผ่าน  พูดว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ไปแล้ว! พัฒนาการเร็วจริงๆ
  • เทพบังธรรม  จตุคามฯบังพระธาตุ ไปเสียแล้ว
  • ที่ว่าเทพบังธรรม  ก็เพราะหลังจากบูชาท่าน คนพูดกันเรื่องธรรมะน้อยมาก  มีแต่ส่วนแบ่ง รายได้ หวย เบอร์ คงกระพัน อะไรเทือกนี้
  • ที่ว่าบังพระธาตุ  ก็เพราะพราะธาตุเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธคุณ หรือสังฆคุณ  ท่านจตุคามฯ เขาให้ท่านเฝ้าพระธาตุ  แต่คนกลับบูชาท่านกันมากกว่าพระธาตุ  มันทะแม่งๆ ครับ
  • ก็เหมือนเราบูชาเกจิอาจารย์  มากกว่าพระพุทธเจ้านั่นแหละครับ
  • ไอ้ผมก็ปัญญาน้อย  จะไปสั่งไปสอนใคร  หรือถกเถียงกับใครก็กำลังไม่พอ  พยายามบ่นๆ ให้ได้ยินกัน  และเอาตัวเองให้รอดน่าจะเห็นผลกว่า
  • ท่านทั้งสองว่าประการใดมั่งครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

พอดีไปลอกเขามาจากเว็บสนทนาธรรมนะครับ ไม่ได้ clear cut หรอกครับ ส่วนใหญ่จะเป็น "wold cut more than sword" เสียมากกว่าครับ

เทพบังธรรม  จตุคามฯบังพระธาตุ นี่น่าจะเป็นปรากฎการณ์ ที่บอกเราได้ว่าเรากำลังหลงทางกันได้อย่างชัดเจนครับ

ถ้าเรานำเงินที่ได้จากการเช่าพระ ไปพัฒนาสังคมจริง สังคมเราน่าจะเจริญเหมือนประเทศที่ไม่มีการคอรัปชั่นไปนานแล้วครับ

ถ้าเรามีอะไรมาเปรียบเทียบเราก็จะรู้ว่าเราดีจริงหรือไม่

  • ของดีจะอยู่กับคนดีเท่านั้น

ถึงเวลาหรือยังที่ วัดจะร้างแล้วไปอยู่ป่า

หรือทำวัดให้เป็นป่า ป่าที่ให้ทุกคนได้เข้าไปหลบร้อนได้ อิ่มท้องได้ ได้ให้ความร่มเย็นแก่ผืนดิน ได้ให้ลำธารใสบริสุทธิ์ที่ไหลออกมาจากป่า สิงห์สาราสัตว์จะได้อาศัยดื่มกิน 

นั่นคือสิ่งที่วัดและชุมชนต้องการ ตอนนี้เรากำลัง"หลงดี"โดยเอาศรัทธาของคนไปทำให้วัดกลายเป็นเมือง

พูดถึงเรื่องเทวดาแล้วใครอยากจะเป็นเทวดายกมือขึ้นครับ

 

ไม่มาซะนาน ได้ความรู้เพียบ

วันนี้ขอมาบ่นครับ

เอาเครื่องที่หนึ่ง เทพบังธรรม  จตุคามฯบังพระธาตุ จริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นพวกคุณอย่าเข้าใจผิด พระท่านสอนว่า นับถือเทพองค์ใดจะดีมากดีน้อย เห็นผลไม่เห็นผล อยู่ที่ตัวเราหากเราเป็นคนดีอะไรก็วิเศษไปหมด ในส่วนของบังพระธาตุคงจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เอานะเมื่อ 3 ปีที่แล้วเมืองนครใครอยากไปบ้างทั้งๆที่รู้มีพระธาตุทองคำ แต่พอพ่อจตุคามดังใครก็อยากไปสักการะพระธาตุทองคำ ก็เมื่อไปแล้วก็มีของติดไม้ติดมือมาบ้าง มันเป็นสิริมงคล แต่ไอ้คนที่ไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ช่างหัวมันดิ เรามาพูดถึงคนที่ดีๆกันดีกว่า ( ขออถัยหากถ้อยคำแรงเกินไป )

P

ลูกพ่อพิฆเนศ

  • ไม่แรงครับ รับได้ ๆ  เช่นนั้นเอง ครับ
  • ที่เขียนไปก็เตรียมใจรับอยู่แล้วครับ
  • นี่เหตุผลหนึ่งล่ะที่ผมไม่ค่อยจะอยากเขียนอะไรเกี่ยวกับเทวดามากนัก มันกระทบครับ
  • แต่ถ้าไม่กระทบเสียบ้าง  เดี๋ยวกลายเป็นไม่ทำหน้าที่พุทธมามกะ
  • ก็หวังเพียงแต่ว่าจะช่วยกันศึกษาพระพุทธศาสนาให้มากขึ้นๆ ครับ  จะได้ออกจากวัฏฏสงสารกันไวๆ
ขอบคุณครับ 
  • มีทั้งเสียมีทั้งดี แต่ "ไม่มีดี"

 

เกิดมาก็ทุกข์ หายใจก็เป็นทุกข์ จะลุกจะนั่งจะเดินก็ทุกข์ แต่ก็ต้องอยู่บนทุกข์ เด็กๆ ผมจำได้ว่าพระสอนใว้

เกศาผมงอก บอกว่าตัวเฒ่า ฟันฟางผมเพ้า ดำแล้วกลับหงอก อะไรประมาณนั้น มันทุกข์จิงๆ 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท