kame
นางสาว กัณฐ์ลดา พรหมเรือง

ชาเขียวสุดยอดสมุนไพรจริงหรือ


ชาเขียวสุดยอดสมุนไพรจริงหรือ
ชาเขียวสุดยอดสมุนไพรจริงหรือ  ชาเขียวดูจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้นทุกวัน อาจกล่าวได้ว่าชาเขียวเติบโตมาพร้อม ๆ กับกระแสรักสุขภาพ ถึงขนาดว่านักธุรกิจหลายรายก่อนส่งสินค้าออกสู่ตลาดต้องดัดแปลงรูปแบบสินค้าให้อิงชาเขียวไว้ก่อน เพื่อสร้างแรงจูงใจผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชาเขียว ไอศกรีมชาเขียว ผ้าอนามัยชาเขียว เครื่องสำอางผสมชาเขียว ฯลฯ สารพัดจะรังสรรสินค้ามาประลองกันในตลาดสินค้าสุขภาพ ปัจจุบันการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออกพบว่าการดื่มชาเขียวมีผลอย่างชัดเจนต่อสุขภาพ เช่น จากการศึกษาวิจัยโดยมหาวิทยาลัยเพอร์ดู สหรัฐอเมริกาพบว่าถ้าดื่มชาเขียวเป็นปริมาณมากกว่าสี่ถ้วยต่อวัน ร่างกายของเราจะได้รับสาร EGCที่ช่วยชะลอและป้องกันการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ยังมีผลการวิจัยอื่นๆ อีกพบว่าชาเขียวอาจจะเป็นอาวุธที่ใช้กำจัดบรรดาเนื้อร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งในหลอดอาหาร และมะเร็งในตับ เป็นต้น  นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาด้วยว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความชราและคงความเยาว์วัย สำหรับผู้ที่มีปัญหากลิ่นปากและแบคทีเรียในปากการดื่มชาเขียวช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและป้องกันการติดเชื้อ และที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเห็นจะเป็นการศึกษาที่พบว่า ชาเขียวสามารถป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี เป็นต้น สำหรับผลข้างเคียงของชาเขียวนั้น อาจจะมีบางคนเกิดอาการแพ้เนื่องจากการบริโภคชาเขียว ซึ่งพบไม่บ่อยนักซึ่งถ้าเกิดอาการดังกล่าวให้หยุดบริโภคชาเขียวและไปพบแพทย์โดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการแพ้ที่รุนแรง เช่น หายใจติดขัดรู้สึกแน่นเหมือนมีอะไรติดคอ ริมฝีปาก ลิ้น และใบหน้าบวม หรือเป็นลมพิษ  ขณะที่ในบางคนที่บริโภคชาเขียวมากเกินไปเป็นระยะเวลานานอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในหลอดอาหารและอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยอื่นๆ เกิดขึ้นได้เช่นกัน และควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีถ้าเกิดอาการอย่างเช่น เสียดคอและหน้าอก ท้องเสีย เบื่ออาหาร มีอาการท้องผูกหรือท้องร่วง มีอาการตกใจหงุดหงิดง่าย และเป็นกังกล นอนไม่หลับ หัวใจเต้นผิดปกติ หรือปวดศีรษะฯลฯ นอกจากชาเขียวจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงในบางคนแล้วยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ควรบริโภคชาเขียว หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง ผู้ที่เป็นโรคไต ไฮเปอร์ไทรอยด์ ผู้ที่กังวลง่ายหรือมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติหรือมีการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ หรือผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
หมายเลขบันทึก: 82359เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2007 09:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 21:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ปกติเป็นคนชอบกินชาเขียวมาก แต่ทุกครั้งที่กินเข้าไปมีความรู้สึกว่านอนไม่หลับ เพราะในชาเขียวอาจจะมีคาเฟอีนอยู่  ชาเขียวถ้ากินพอสมควรก็เกิดประโยชนแต่กินมากเกินไปก็เกิดโทษได้เหมือนกัน

สวัสดีค่ะ        เคยไปสัมมนาเกี่ยวกับชาเขียวค่ะ    ผู้บรรยายบอกว่าการดื่มชาเขียวที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดนั้นคือต้องชงชาเขียวในน้ำร้อนจัดแล้วไม่ให้ชาเขียวแช่อยู่ในน้ำร้อนนั้นนานเกิน 8 นาทีค่ะ   เลยมาแลกเลี่ยนนิดหน่อยค่ะไม่รู้เอามะพร้าวมาขายหรือเปล่า *---------*

เห็นด้วยกับ คห.ของ ajarncath phamui

เนื่องจากคนไทยนิยมกินแบบแช่เย็นซึ่งไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด

ดีนะ เพิ่งรู้ว่าชาเขียวกินแล้วจะเกิดประโยชน์ทำให้ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจ และที่สำคัญ ทำให้หน้าอ่อนเยาว์ด้วย ชอบ..ชอบ

หนูแก้ม  ถ้าเอาข้อมูลคนอื่นเขามาควรอ้างอิงด้วยนะจ๊ะ
ชาเขียวในขวดตามท้องตลาดไม่รู้มีชาเขียวจริงผสมอยู่เท่าไหร่ค้ากำไรมากกว่า
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท