ขริบ กันเอดส์ได้อย่างไร


เราๆ ท่านๆ คงจะได้ยินได้ฟังเรื่องการขลิบป้องกันเอดส์มาแล้วไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ขริบปลายอวัยวะเพศมาฝากครับ…

Hiker

เราๆ ท่านๆ คงจะได้ยินได้ฟังเรื่องการขลิบป้องกันเอดส์มาแล้วไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ขริบปลายอวัยวะเพศมาฝากครับ…

จดหมายข่าวเอธนาตีพิมพ์ข่าวว่า สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานผลการศึกษาว่า การขริบปลายอวัยวะเพศชายมีส่วนช่วยป้องกันเอดส์ในวารสารแลนเซ็ท

เดือนธันวาคมปี 2549 มีรายการงานศึกษาในเคนยา ติดตามผู้ชาย 1,391 คนที่ขริบ และผู้ชาย 1,393 คนที่ไม่ได้ขริบไป 2 ปี

การศึกษาช่วงเดียวกันทำในอูกานดา ติดตามผู้ชาย 2,474 คนที่ขริบ และผู้ชาย 2,522 คนที่ไม่ได้ขริบไป 2 ปีเช่นเดียวกัน

ผลการศึกษาพบว่า การขริบปลายอวัยวะเพศช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ได้ 51-60% อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญท่านสันนิษฐานว่า เซลล์ผิวหนังส่วนปลายอวัยวะเพศชายเป็น "จุดอ่อน" ที่ไวรัสเอดส์โจมตีได้ง่าย

การขริบ หรือตัดปลายอวัยวะเพศชายออกน่าจะมีส่วนทำให้ "จุดอ่อน" นี้หายไป ถึงตรงนี้ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้อ่านที่ผ่านการขริบปลายอวัยวะเพศมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม, การสำรวมระวัง ไม่สำส่อนทางเพศ และการใช้ถุงยางอนามัยยังคงเป็นวิธีมาตรฐานในการป้องกันเอดส์ และกามโรค เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ฯลฯ

การไม่ดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ และไม่เสพยาเสพติดมีส่วนช่วยป้องกันเอดส์เช่นกัน เพราะคนเราพอเมาเข้าแล้ว… มักจะทำอะไรที่ไม่เคยทำได้เหมือนกัน

    แหล่งที่มา:

  • Thank > Studies: Circumcision reduces HIV risk. > http://www.intelihealth.com/IH/ihtIH/EMIHC274/333/24524/536182.html?d=dmtICNNews > February 23, 2007. // source: Lancet.
  • บล็อก "บ้านสุขภาพ" และการอ้างอิงมีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษา > ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำไปใช้
  • ขอขอบพระคุณ > โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT + หน่วยรังสีกรรม
  • ขอขอบพระคุณ > ศูนย์มะเร็งลำปาง + อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT + กลุ่มงานรังสีวินิจฉัย
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๑ มีนาคม ๒๕๕๐.
  • เชิญอ่าน "บ้านสาระ" ที่นี่ > http://gotoknow.org/blog/talk2u
หมายเลขบันทึก: 81423เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2007 17:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

เรียนท่านอาจารย์หมอวัลลภครับ

  • อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ
  • แต่สงสัยว่า "ขลิบ" กับ "ขริบ" เขียนอย่างไรจึงจะถูกครับ เพราะว่าเห็นในบันทึกนี้ใช้ทั้งสองแบบ

 

ชอบอ่าน Blog ของอาจารย์ หมอครับ ได้ความรู้ดี

ขอขอบคุณอาจารย์ Beeman และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบพระคุณต้นฉบับจากสำนักข่าวสุขภาพรอยเตอร์ (อ้างไว้ใน "แหล่งที่มา")

ขริบหรือขลิบ...

  • "ขริบ" = ตัดเล็มด้วยตะไกร
  • "ขลิบ" = เย็บหุ้มริมผ้าและของอื่นๆ เพื่อกันลุ่ย หรือเพื่อให้รวม เป็นต้น

ที่มา: Online The Royal Institute Dictionary / เชื่อมตรงพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน > http://rirs3.royin.go.th/ridictionary/lookup.html

  • ขอขอบคุณครับ...

ขอขอบคุณ... คุณสาทิตย์และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน + ให้กำลังใจครับ
  • คุณหมอไปเที่ยวมาสนุกไม้ครับ
  • ขอบคุณที่นำความรู้มาแลกเปลี่ยนครับ มีลูกให้ลูกขริบไว้ก่อนเลย :>
  • น่าสนใจครับภาษาไทย
  • ขริบ แปลว่า ตัดเล็มด้วยตะไกร เช่น ช่างตัดผมขริบปลายผมให้ได้ระดับเสมอกัน, ชายเสื้อรุ่ยออกมาช่วยขริบให้เรียบร้อยหน่อยซิ
  • ขลิบ แปลว่า เย็บหุ้มริมผ้าด้วยผ้าเฉลียงเพื่อมิให้ชายผ้ารุ่ย และเพื่อทำให้สวยงาม เช่น เสื้อแบบจีนมักขลิบริมคอริมแขนด้วยผ้าสีสดๆ
  • หามาจากเว็บครับ
  • ดังนั้นบันทึกของคุณหมอ ควรแก้คำให้เป็น "ขริบ" ทั้งหมดครับ

ขอขอบคุณ Aj Kae และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ไปเที่ยวศรีลังกา... ครบทุกฤดูในวันเดียวกันเลยครับ

ศรีลังกา...

  • ศรีลังกาเป็นประเทศที่มีภูเขาสูงๆ ต่ำๆ... คล้ายคำภาษาปักษ์ใต้ ซึ่งเรียกภูมิภาคที่เป็นเนินต่ำๆ ว่า "ควน"
  • บางเมืองอยู่ในที่สูง เช่น แคนดี ฯลฯ ซึ่งเป็นเมืองที่คนเชื้อสายจีนนิยมไปกราบสักการะ ทำให้อากาศเย็นคล้ายฤดูหนาวบ้านเรา และมีฝนตก...
  • พอลงจากแคนดี้ไปเมืองหลวง (โคลอมโบ)... อากาศก็ร้อน เลยได้สัมผัสครบ 3 ฤดู

ศรีลังกา...

  • ศรีลังกาเป็นเมืองพุทธศาสนาเถรวาทคล้ายไทย (นับถือพระไตรปิฎกและอรรถกถา)...
  • อาหารที่นั่นรสชาดดีมากครับ เขาใช้พริกนิดหน่อยดับกลิ่นคาว ทว่า... ไม่ใส่มากจนเผ็ด
  • ข่าวนิตยสารบนเครื่องบินรายงานว่า เชฟ(พ่อครัว)ศรีลังกาเพิ่งชนะการแข่งขันทำอาหารระดับโลกมา

เรียนเชิญพวกเราไปเที่ยว หรือไปทำบุญศรีลังกากันครับ...

ขอขอบคุณอาจารย์ Beeman และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบพระคุณที่กรุณาค้นความหมายของคำ "ขลิบ" + "ขริบ" มาให้...

ภาษาไทย...

  • ครูภาษาไทยท่านสอนว่า ภาษาไทยเป็น "ภาษาเป็น (living language)"
  • ภาษาที่ใช้กันอยู่ หรือ "ภาษาเป็น" จะมีวิวัฒนาการไปตามความนิยมของสังคม
  • ภาษาไทยไม่ใช่ภาษาตาย หรือภาษาที่มีไวยากรณ์เข้มงวดแบบบาลี

บันทึก...

  • บันทึกนี้ใช้คำ "ขริบ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานออนไลน์...
  • ส่วนคำหลัก (Tag) ขอใช้ทั้งสองคำ "ขริบ" + "ขลิบ" เนื่องจากคำ "ขลิบ" เป็นคำที่สังคมนิยมใช้มากกว่า
  • การใช้ภาษาจะเคลื่อน (shift) ไปตามความนิยม

ตัวอย่าง...

  • ตัวอย่างเช่น "รสชาด"... นี่เป็นคำเดิม (original)
  • เมื่อสังคมนิยมใช้ "รสชาติ" มากขึ้นเรื่อยๆ
  • ภาษาจะเคลื่อน (shift) ไปจนปัจจุบันนิยมใช้คำ "รสชาติ" มากกว่า "รสชาด"...

ขอขอบคุณครับ...

คงต้องไป ขริบ บ้างแล้ว :-P

ขอขอบคุณ... คุณวีร์และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • การป้องกันเอดส์โดยการขริบยังเป็นรายงานที่ค่อนข้างใหม่

การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่นิยมรอผลจากการวิจัยซ้ำ เพื่อสนับสนุน หรือคัดค้านประมาณ 2-5 ปี

  • การป้องกันเอดส์โดยการไม่สำส่อนทางเพศ และการใช้ถุงยางอนามัยยังคงเป็นวิธีมาตรฐานอยู่

ขอขอบคุณครับ...

พึ่งเปิดดูครั้งแรก เว๊บของ อาจารย์วัลลภ พรเรืองวงค์ ได้ความรู้จากอาจารย์และผู้ตอบ-ถามกระทู้ครับ ของผมไม่ได้ขลิบครับ เพราะหนังหุ้มปลายสั้นและเปิดเองตามธรรมชาติ และปลอดภัย ปลอดโรค สวยชอบดีจังครับ
เรียนผู้อ่าน ขอแก้คำ วรรคสุดท้ายจาก สวย เป็น สาวครับ

ขอขอบคุณ... คุณอนันต์หนุ่ม17 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน
  • ตามทฤษฎี... ถ้าหนังหุ้มปลายสั้น และเปิดเองได้ ไม่จำเป็นต้องขริบครับ

ส่วนการป้องกันโรค...

  • วิธีมาตรฐานยังคงเป็นการไม่สำส่อน และใช้ถุงยางอนามัย (condom)

ขอขอบคุณ... คุณอนันต์หนุ่ม17 และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • การแก้คำเป็นการช่วยให้ข้อมูลภาษาไทยบนอินเตอร์เน็ตมีความถูกต้องยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณครับ...

ขอคัดลอกข้อคิดเห็น และตัดลิ้งค์ออกไปครับ...

ไม่มีรูป
สาลิกาโบยบิน
เมื่อ พ. 04 เม.ย. 2550 @ 11:36 จาก 124.157.245.49 องค์การอนามัยโลกเห็นด้วยกับการใช้การขลิบปลายในการป้องกันโรคเอดส์
 
ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติร่วมหนุนให้ใช้การขลิบปลายอวัยวะเพศชายเป็นส่วนหนึ่ งในการรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอดส์
 
องค์การอนามัยโลก WHO และองค์การป้องกันโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ UNAIDS ร่วมกันแถลงเมื่อ 28 มีนาคม 2550 ว่า  การขลิบควรได้รับการส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในทางเลือกของการพยายามลดการแพร่กร ะจายการติดเชื้อเอดส์
 
จาก 3 งานวิจัยทางการแพทย์ที่มีการศึกษากันในทวีปอาฟริกาได้แสดงให้เห็นชัดว่า  การขลิบปลายอวัยวะเพศช่วยลดอัตราการติดเชื้อเอดส์ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งในผู้ชา ยที่มีเพศสัมพันธ์
 
ดังนั้นคำแนะนำนี้จึงควรที่จะนำไปสู่การรณรงค์ให้มีการขลิบในประเทศที่การติ ดเชื้อเอดส์ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากช่วยลดการติดเชื้อได้อย่างชัดเจน
 
ในขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำเพิ่มเติมว่าการขลิบ ควรทำไปควบคู่กับการรณรงค์ในการป้องกันโรคเอดส์อื่นๆ  เช่นการส่งเสริมให้มีการใช้ถุงยางอนามัยด้วย
 
จากประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยทางการแพทย์นี้แสดงให้เห็นว่า หากการขลิบได้รับการส่งเสริมให้มีการทำในวงกว้าง เราจะสามารถช่วยลดตัวเลขของผู้ติดเชื้อเอดส์ลงได้นับล้าน
 
โดยนักวิจัยพบว่าสาเหตุที่การขลิบลดอัตราการติดเชื้อเอดส์ลงได้ 48 – 60 % จากงานวิจัยนั้น  มาจากการที่เซลล์ผิวหนังบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายนั้น จะมี target cell ที่จะจับกับเชื้อ HIV ได้เป็นอย่างดี  ซึ่งเมื่อขลิบผิวหนังตรงนี้ออกไปก็จะทำให้ช่องทางที่เชื้อเอดส์จะเข้าสู่ร่า งกายทำได้ยากขึ้น  ซึ่งงานวิจัยชุดนี้ได้รับการทดลองซ้ำในอีกหลายกลุ่ม หลายประเทศ
 
ปัจจุบันการคิดค้นยารักษาโรคเอดส์และวัคซีนป้องกัน ก็ได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยใช้เงินไปหลายพันล้านเหรียญในขณะที่ผู้เสี ยชีวิตจากโรคเอดส์ปีละนับล้านคนก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในทุกประเทศซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล
 
ดังนั้นหลังจากมีการถกเถียงกันในที่ประชุมที่เจนีวาเมื่อปลายเดือนมีนาแล้ว องค์การอนามัยโลกและ UNAIDS จึงมีมติออกมายืนยันว่า  การขลิบ ควรได้รับการเพิ่มว่าเป็นหนทางหนึ่งในหนทางที่จะยับยั้งการแพร่กระจายการติด เชื้อเอชไอวี  เช่นเดียวกับการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย การสำส่อนทางเพศ หรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
 
ข้อมูลฉบับเต็ม  
http://www.who.int/hiv/mediacentre/news68/en/index.html
 
หลายคนยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าขลิบแล้วเป็นยังไง ผมเลยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลนะครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บ้างแหละ

ข้อคิดเห็นก่อนหน้านี้เป็นของคุณ "สาลิกาโบยบิน" ได้คัดลอกมา และตัดลิ้งค์ออกไป...

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท