ตราบเท่าที่โลกอักษรจะพาไป
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าหนังสือนั้นสามารถพาเราไปในโลกที่เราไม่เคยไป รู้อะไรในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ เข้าใจอะไรในสิ่งที่เราไม่เคยคิด ดังนั้นคงไม่แปลกที่หนังสือจะเป็นอาจารย์และในขณะเดียวกันก็เป็นเพื่อนไปในตัว
แต่หนังสือก็เหมือนคนครับคือมีทั้งดีและไม่ดี เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน คำว่าหนังสือดีหรือไม่ดีนั้นแล้วแต่คนมองครับ คนบางคนอาจจะมองว่าหนังสือที่ไม่ดีคือหนังสือที่เราอ่านแล้วไม่ตรงกับความคิดของเรา หรือหนังสือที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือหนังสือที่ไม่มีการทำการหาข้อมูลมาก่อน แต่บางทีหนังสือที่ไม่ดีก็อาจจะให้ข้อมูลอะไรที่เราไม่รู้กลับเราก็ได้ครับ
บล็อกอันนี้นั้นผมตั้งใจไว้ว่าจะเอาหนังสือที่ผมอ่านมาวิจารณ์ครับ ดังนั้นผมคงไม่บอกว่าหนังสือเล่มไหนดีหรือไม่ดี แต่ผมจะจับประเด็นว่าหนังสือนั้นคนเขียนเขียนอะไรบ้าง แล้วผมคิดยังไงกับเรื่องที่คนเขียนเล่าหรือเห็นด้วยไม่เห็นด้วย
หนังสือที่ผมอ่านนั้นค่อนข้างหลากหลายครับ เนื่องจากว่าส่วนตัวเป็นคนสอดรู้สอดเห็นแล้วก็อยากรู้ไปในหลายๆเรื่อง เท่าที่อ่านมาก็จะเป็นประเภทหนังสือธุรกิจ หนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา แล้วก็ประวัติศาสตร์ครับ แต่เอาเป็นว่าถ้าจะเรียกกว้างๆ ก็เรียกว่าเป็นหนังสือประเภท non-fiction ล่ะกันครับ
ผมยินดีต้อนรับคำติชมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ เพราะผมคิดว่าในโลกนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่รู้ เรายังต้องการชี้แนะ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะกระตุ้นความคิดและจินตนาการของเราต่อไปเรื่อยๆครับ
ความเห็น (8)
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ได้สละเวลามาอ่านนล็อกครับ หวังว่าอาจารย์คงจะเข้ามาอ่านอีกนะครับ ชวนเพื่อนมาอ่านด้วยยิ่งดีครับ :D แล้วถ้ามีคำถามหรือคำติชมก็ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
จริงๆแล้วผมชอบอ่านหลายประเภทมากครับ ถ้าจะเรียกรวมๆก็คือชอบอ่านประเภท non-fiction (หนังสือที่ไม่ใช่นิยาย หรือเรื่องแต่ง) ครับ
ถ้าจะให้บอกว่าชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษ ก็มีหลายด้านจริงๆครับ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็นครับ
เริ่มตั้งแต่ประวัติศาสตร์ครับ ไม่ใช่เพราะว่าเราเดินตามรอยประวัติศาสตร์หรอกนะครับ แต่เพราะผมคิดว่าคนไม่มีประวัติศาสตร์คือคนไม่มีอนาคตครับ ประวัติศาสตร์นั้นสอนอะไรเรามากมาย เพียงแต่เราอาจจะต้องขุดหน่อยนะครับ
เรื่องที่สอง คือเรื่องธุรกิจครับ ผมมองว่าในปัจจุบัน เทคนิคเกี่ยวกับธุรกิจนั้นมีมากมาย ที่เราสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เชื่อไหมครับถ้าเราศึกษาเทคนิคเหล่านี้ไปเรื่อยๆ มันกลับเป็นหลักง่ายๆที่เหลือเชื่อ ไม่เชื่อลองคิดดูเรื่อง Customer Relationship Management CRM นั้นไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าสังคมโบราณ เมื่อ 100 กว่าปี ที่เราให้ความสำคัญกับลูกค้า ให้ความเป็นกันเอง หรือเรียกง่าย ให้ความสนิทสนมกับลูกค้าครับ มันเหมือนสมัยก่อนไหมครับที่พ่อค้ากับลูกค้านั้นรู้จักกันดี
เรื่องที่สาม เรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยามนุษย์กับมานุษยวิทยาครับ ผมว่าเรื่องพวกนี้มันเกี่ยวกันกับทั้งเรื่องประวัติศาสตร์และธุรกิจครับ เท่าที่เคยอ่านผ่านๆมาก็เจอหนังสือเขียนสนุกหลายๆเรื่องครับ
เรื่องที่สี่ เรื่องการเงินครับ แต่เรื่องการเงินไม่ใช่เรื่องลงทุนอะไรแล้วจะรวยนะครับ แต่เน้นเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงแล้วก็พฤติกรรมของตลาดหุ้นครับ ก็ในเมื่อถ้าเราไม่เข้าใจความเสี่ยงกับพฤติกรรมของคลาดหุ้นแล้วเราจะไปเข้าใจการลงทุนได้อย่างไรครับ
ยินดีมากครับ ถ้าจะมีคนมาร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ติดตาม หวังว่าอาจารย์คงเข้ามาบ่อยๆนะครับ ถ้ามีคำถามเชิญถามได้นะครับเพราะว่าเราจะได้มาจุดประกายแลกเปลี่ยนความรู้กันเพิ่มขึ้นครับ
ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมตลาดหุ้นด้วยหรือครับ น่าสนใจดี ว่าง ๆ มาลองวิเคราะห์ให้ฟังบ้างนะครับ
สวัสดีครับ คนเมืองนรา
ไว้ถ้าเจอสนุกๆแล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ