ครั้งหนึ่งที่เกาะกลางเจ้าพระยา


วันหยุดสุดฤสัปห์ดาที่แสนยาวนาน แต่คุ้มค่ามากสำหรับคนภูธร

        เมื่อวันวาน 22-33 กพ.50 ได้มีโอกาสมารับการอบรม หลักสูตรการเป็นวิทยากรด้านไอที ที่ ม.ศรีปทุม บางเขน โดยได้เข้ามาพักที่ โรงแรมพหลโยธิน พาร์ค เพลส ( ตรงข้าม ร.ร.สาระวิทยา)ได้พบปะกับเพื่อนพ้อง จาก 38 จังหวัด และจาก เขต 1 ,2, 3 และ 5  รวมแล้วเกือบ 100 คน อาจารย์  ท่านถ่ายทอดความรู้ให้พวกเรา เต็มๆทั้ง 2 วัน หวังว่าเพื่อนๆร่วมรุ่น จะกลับไปเป็นวิทยากร ด้านไอที ที่ดี ในระดับจังหวัดนะ

          ตกเย็น หลังเลิกจากการอบรม ต่างคนต่างก็กลับภูมิลำเนา สายเหนือบ้าง สายใต้บ้าง โดยแท็กซี่ พูล (เศรษฐกิจพอเพียง)  สำหรับผม ยังไม่ได้กลับ เพราะมีสัมมนาต่อ อีก 5 วัน จึงได้แต่มาส่งเพื่อนๆ ขึ้นรถ ที่หน้าโรงแรมนั่นเอง  ในระหว่างที่รอ อีก 2 วัน จึงจะเข้าอบรมหลักสูตรต่อไป ผมตัดสินใจเปลี่ยนที่พัก ไปพักที่ มสธ. เมืองทองธานี

           เช้าวันเสาร์ ผมวางแผนว่าจะไป นมัสการ พระอาจารย์ พะยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว  แต่จากการศึกษาเส้นทาง จากเวบไซท์ เห็นว่า  ระยะทางจากที่พักถึงวัดสวนแก้ว ค่อนข้างไกล ผมจึงเปลี่ยนแผน เป็นไปเที่ยวเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี แทน จึงเดินทางไปเกาะเกร็ด ถึงที่นั่นประมาณ 10.30 น. ณ ที่เกาะเกร็ด ผมข้ามเรือข้ามฟาก จากฝั่งปากเกร็ด ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร คนละ 2 บาท ให้บริการตั้งแต่ ตี 5 ถึง 3 ทุ่มครึ่ง

      สำหรับ เกาะเกร็ด เป็นเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นชุมชนที่เจริญมาตั้งแต่ ปลายสมัยอยุธยา วัดต่างๆ ที่สร้างขึ้นบนเกาะเป็นโบราณสถานที่สวยงามสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายทั้งสิ้น มีฐานะเป็นตำบลแบ่งเขตการปกครองเป็นหมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 7 หมู่บ้าน เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดลำน้ำเจ้าพระยาตรงส่วนที่เป็นแหลมยื่นไปตามความโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา ในปี พ..2265 เรียกคลองนี้ว่า คลองลัดเกาะน้อย ต่อมากระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางทำให้คลองขยายกว้างขึ้น เพราะถูกแรงของกระแสน้ำเซาะตลิ่งพัง จึงกลายเป็นแม่น้ำและเกาะเกร็ดมีสภาพเป็นเกาะเช่นปัจจุบัน

         ภายในเกาะ มีการจัดการการท่องเที่ยวไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ดีพอสมควร  มีการขายของที่ระลึกต่างๆ สินค้าแฮนด์เมด สินค้าพื้นเมือง ของชาวบ้าน พืชผักพื้นเมือง อาหาร ราคาก็ย่อมเยา ไม่แพง มีทางเดินรอบเกาะ กว้าง ประมาณ 1.5 เมตร ยาว 5.2 กม. มีร้านค้า 2 ข้างทาง จึงไม่ค่อยร้อนเท่าไร ถ้าเดินไม่ไหว ก็มี จักรยานให้เช่า คันละ 40 บาท ใช้ได้ทั้งวัน หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เที่ยวละ  30 บาท เรือรอบเกาะ คนละ 50 บาท ถ้าเช่าเหมาลำ ราคา 500 บาท สำหรับผม เดินชม สินค้า วัฒนธรรม ของชาวพื้นเมือง ชมวัด มีอยู่ 4 วัด มีขนมพื้นเมืองแปลกๆ ที่หาดูได้ยาก กลุ่มอาชีพหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา มีหลายกลุ่มบนเกาะแห่งนี้ อยากจะซื้อ ของที่ระลึก และของฝาก แต่ไม่สามารถนำกลับบ้านได้ เพราะต้องอยู่อีกหลายวัน และที่เก็บสัมภาระมีจำกัด จึงต้องตัดใจ เดินทางได้ประมาณ 2 กม.ถึงวัดเสาธงทอง จึงวกกลับ มาแวะชิมอาหารพื้นเมือง เป็นข้าวแช่ของชาวรามัญ ตามด้วยน้ำใบบัวบก ก่อนจะขึ้นเรือข้ามฟาก เดินทางกลับ เวลา 12.30 น.

         ผมสังเกตว่าชุมชนมีการจัดการเรื่องการท่องเที่ยวได้ค่อนข้างดี บรรยากาศดี เจ้าบ้านเป็นมิตร ไมตรี กับนักท่องเที่ยว ไม่วุ่นวายเหมือนกับบางสถานที่ ไม่รบกวนนักท่องเที่ยว สถานที่สะอาด พอสมควร ชาวบ้านมีรายได้จากการ ขายผลิตภัณฑ์ ต่างๆ งานหัตกรรม และ ร้านอาหารเล็กๆ และมี่ พ่อค้า แม่ค้า ข้ามฝั่งไปขาย อาหารและของที่ระลึก ให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย (ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ทำให้อดคิดถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้ น่าเสียดาย ชาวบ้านเสียโอกาส ทั้งที่มี่ พื้นที่ และผู้คนส่วนใหญ่ ที่มีสักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างมาก)

         จึงขอแนะนำเพื่อนๆ ที่พอมีเวลา ลองแวะไปเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้ แล้วท่านจะ คิดเหมือนผม เป็นวันหยุดที่แสนคุ้มค่ามาก (แต่น่าเสียดายที่ผมต้องไปคนเดียว) และคิดว่า ถ้ามีโอกาส ผมจะมาเยี่ยมเกาะแห่งนี้อีก ครับ เกาะเกร็ด

 

หมายเลขบันทึก: 80421เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2007 15:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 09:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่าน blog แล้วอยากไปเที่ยวเกาะเกร็ดขึ้นมาเลยค่ะ

--บรรยากาศที่พี่บรรยาย ดูร่มรื่น เย็นสบาย เรียบ ๆ ง่าย ๆ --- เหมาะแก่การผักผ่อนหย่อนใจม๊าก มาก ค่ะ

  • คุณ เด็กบันทึก
  • ถ้าได้มีโอกาสไปอีกครั้ง จะแจ้งให้ทราบครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท