นิ่งเป็น – โง่เป็น – แพ้เป็น – ให้เป็น (1)


ข้อคิดดีๆ ที่อยากบันทึกไว้ "นิ่งเป็น"

ข้อคิดดีๆ ที่อยากบันทึกไว้         

          จากหนังสือ ขุมข้อคิด(พิมพ์ครั้งที่ 3) ประพันธ์โดย อาจารย์ ดร.ระเด่น   ทักษณา จัดพิมพ์โดย บริษัท รำไทยเพรส จำกัด 

          ผู้ประพันธ์ได้กล่าวเริ่มเรื่องว่า ท่านได้แรงบันดาลใจมาจาก พระเทพโสภณ อธิการบดีมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยพระคุณเจ้าได้สอนว่า คนเราจะเป็นใหญ่เป็นโตต้องรู้จักแกล้งโง่ เพื่อหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น คนเราจะต้องรู้จัก       

          นิ่งเป็น

          โง่เป็น

          แพ้เป็น

          ให้เป็น 

          ถ้าเรา นิ่งเป็น, โง่เป็น, แพ้เป็น และให้เป็น นั่นแหละเรากำลังจะชนะและมีความสุขขึ้น 

นิ่งเป็น         

          คือทำตัวให้เป็นคนสงบนิ่ง สามารถรับฟังคำติติง หรือคำแนะนำ จากผู้อื่นได้โดยดุษณีภาพไม่แสดงความโกรธ ถือว่าเป็นสิ่งประเสริฐสุด คำยกย่องชมเชย ทำให้ผู้ถูกชมหลงตัว สำคัญตัวผิด ในที่สุดก็ขาดการพัฒนา ดังนั้น เราจึงมิได้อะไรจากคำชมเลย ฟังคำติติงบ้างจะไปสู่ความเจริญ ถ้าฟังแต่คำยกย่องสรรเสริญจะไปสู่ความเสื่อม         

          คำตำหนิติเตียนเปรียบเหมือนกระจกที่คอยตรวจสอบตัวเราว่า มีข้อบกพร่องหรือมีสิ่งไม่ถูกต้องตรงไหนบ้าง เพื่อจะนำมาแก้ไขปรับปรุงให้สมบูรณ์หรือดีขึ้น ฉะนั้น เมื่อใครเขามาตำหนิติติงหรือให้ข้อแนะนำ อย่าเพิ่งไปโกรธเคืองเขา จงฟังเขาให้จบก่อน ในคำพูดเหล่านั้น อาจจะมีคำพูดดีๆ ที่เป็นประโยชน์ซ่อนเร้นอยู่ก็ได้ ถ้าเราไปแสดงอาการหุนหันพลันแล่นเสียก่อน ก็เลยอดฟังเรื่องที่ดีมีประโยชน์ 

          คำชมน่าฟัง

                    แต่ไม่ยังประโยชน์         

                              คำติน่าโกรธ                  

                                        มีประโยชน์แต่ไม่น่าฟัง 

 

          เราๆ ท่านๆ ก็ได้เห็นบทเรียนที่คนนิ่งไม่เป็นได้รับ จนถึงต้องเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมอำนาจกันมาบ้างแล้ว

 
คำสำคัญ (Tags): #เรื่องเตือนใจ
หมายเลขบันทึก: 79361เขียนเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2007 23:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

ข้อคิดดี ๆ มีประโยชน์อย่างนี้ ต้องรบกวนให้เอามาฝากสมาชิกใน Gotoknow กันอีกนะค่ะ

"นิ่งเป็น โง่เป็น แพ้เป็น ให้เป็น"

เป็นข้อคิดและคำสอนที่มีประโยชน์และลุ่มลึกมาก...ขวัญเองกว่าจะรู้ว่าที่แท้ตัวเรานั้นยังไม่นิ่ง..ไม่ฉลาด..ไม่รู้จักจังหวะก็ต้องเสียใจและเจ็บตัวมาหลายครั้งทีเดียว...ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับพี่มอมเต็มร้อยค่ะ..

และอีกข่าวหนึ่งก็คือ..พี่มอมคะพี่มอมถูกTagจากหลายคนอยู่นะคะ...เราจะตั้งใจรออ่านความลับห้าอย่างของพี่มอมอยู่ค่ะ

เคยเป็นคนหลงตัวเองอย่างมาก เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว และติดดีจากคำชมจากครอบครัว(แม่ชอบชมต่อหน้าน้องๆให้น้องเอาอย่าง)และเพื่อนร่วมงาน พอเริ่มมีคำตำหนิ ชักจะรับไม่ได้ แต่โชคดีที่มีกัลญาณมิตรแวดล้อมคอยเตือนสติค่ะ จึงเริ่มฝึกฟังให้มากขึ้น ปัจจุบันนี้ก็ฟังคำตำหนิติเตียนได้มากขึ้น รู้สึกสงบมากขึ้น แต่ก็ยังต้องฝึกสติอีกมากค่ะ เพราะมักจะหลุดๆโดยเฉพาะกับคนใกล้ชิด

ขอบคุณพี่มอมมากค่ะ

ให้แง่คิดดี ๆ  จะนำไปปฏิบัตินะค่ะ  ขอบคุณมาก ๆ
  • ขอบคุณมากครับที่นำแง่คิดดีๆมาฝาก พี่มอมหายหน้าหายตาไปจาก Blog เสียนาน จะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอครับ.

คุณมะปรางเปรี้ยว และ คุณRanee

  • ขอบคุณมากๆ นะคะที่แวะมาเยี่ยมเยียน

คุณseangja

  • ขอบคุณขวัญมากๆ เช่นเดียวกัน ที่เป็นกำลังใจเสมอมา
  • พี่มอมหายไปเสียนาน ยังตามไม่ทันว่าถูก Tag เช็คได้อย่างไร

คุณพัชรา

  • ไม่บอกไม่รู้นะว่า"เคยเป็นคนหลงตัวเองอย่างมาก" เพราะปัจจุบัน ปิ่งเป็นคน "นิ่ง, สุขุม และสงบเย็น รวมทั้งเสียสละเพื่อส่วนรวมและองค์กร" อย่างมากๆๆๆๆๆ

คุณทีมงานซ่อมบำรุง

  • หายไปเพราะมีงานเอกสารที่ต้องศึกษาจำนวนมาก และต้องใช้เวลาในการตอบข้อมูลหลายเรื่องจริงๆ
  • จะพยายามเขียนอีกเป็นระยะๆ ค่ะ
  • ขอบคุณมากๆ นะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท