BAR(3) : ความสุขและประโยชน์กับการเขียน Blog


ก็สืบเนื่องมาจากการไปสัมนา "ทัศนศึกษา พัฒนาจิต" ซึ่งได้กล่าวไว้บ้างแล้วในบันทึก 1 และ 2 และหัวข้อสนทนาเฮฮาตามประสาคนห้องเค็ม ที่ทำให้ผู้เขียนต้องขำ และยิ่งได้ฟังเหตุผลแล้วก๊าก ที่ว่า "เห็นพวกเราเขียนกันได้เขียนกันดี ก็เอามาเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังบ้างว่ามีความสุขและประโยชน์อย่างไร?? " จึงเป็นที่มาของหัวข้อเรื่อง "ความสุขและประโยชน์ของการเขียน Blog" โดยพี่โอ๋ (อโณ) มืออาชีพ และผู้เขียน คอยขัดคอ เอ๊ย ! เสริมค่ะ

แต่ก๊ากอยู่ได้ไม่นานค่ะ เพราะเป็นเหมือนดั่งภาระอีกหนึ่งชิ้นที่งานนี้ถือว่าเป็นโอกาสทอง ที่อาจจะได้สร้าง Blogger คนใหม่มาประดับห้องเคมี เลยต้องมีเตรียมตัว เตรียมใจกันบ้างล่ะ โดยปรกติผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบพูดหรอกน๊ะ (ขอให้เชื่อเถอะ-ยกเว้นก็แต่ตอนอยู่ในห้องเค็มนี่แหละ)

ผู้เขียนเห็นว่าความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผู้เขียนนับว่าเป็นคนมีความสุขได้ง่ายมากค่ะ และสิ่งที่ตัวเองทำส่วนใหญ่ก็มีความสุขกับมันได้ทั้งนั้น อย่างแรกเพราะเป็นคนชอบมองอะไรในเชิงบวก บวกและบวกค่ะ แต่ทุกข์ได้ง่ายเช่นกัน หากเห็นหรือได้ยินอะไรเศร้า  ๆ ก็อินไปกับเรื่องราวซะงั้น บางครั้งลืมตัวคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องค่ะ

 จริง  ๆ แล้วก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันค่ะว่าตัวเองจะเขียนบันทึกได้นานขนาดนี้ (เกิน 1 ปีมาแล้ว) เพราะผู้เขียนเป็นคนทำอะไรได้ไม่นาน มีใครหลายคนบอกว่าผู้เขียนคล้ายเป็ดค่ะ คือทำได้หลายอย่างแต่ไปไม่เก่งสักอย่างและทำอะไรได้ไม่นาน แบบว่า.บินได้ก็ไม่เก่งอย่างนก และว่ายน้ำได้แต่ก็ไม่เหมือนปลา

  • ถักนิตติ้งได้เสื้อแค่ครึ่งตัวก็เลิก
  • ไปเรียนดนตรีไทย จะเข้ พอจำได้เล่นได้นิด  ๆ ก็เลิก
  • ไปเรียนภาษาอังกฤษก็ไม่เคยจบหลักสูตร
  • สุดท้ายก็ลืมหมดแล้ว

แต่การเขียนบันทึก ผู้เขียนก็ไม่คิดว่าจะเขียนได้นานอย่างนี้เหมือนกัน (และจงอย่าแปลกใจถ้าหากผู้เขียนจะหยุดและเลิกเขียนบันทึกไปซะดื้อ ๆ) แต่อย่างที่บอกค่ะว่าผู้เขียนมีความสุขกับสิ่งที่ทำ และการเขียนบันทึกก็เป็นอีกหนึ่งความสุขของผู้เขียนค่ะ เพราะอะไรนั้นก็ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ในบันทึกนี้แล้ว ซึ่งก็สงสัยต้องนำมันมาปัดฝุ่นฉายซ้ำอีกซะรอบ

และขอเพิ่มเติมจากบันทึกนี้ค่ะว่า การเขียนบันทึกเปรียบเสมือน "ใครทำดีกับเราให้เขียนไว้บนหิน ใครทำไม่ดีกับเราให้เขียนไว้บนหาดทราย" ดังนั้นการบันทึกก็เป็นเหมือนการเตือนความทรงจำนั่นเอง ดังนั้นผู้เขียนจึงเลือกบันทึกแต่สิ่งดี  ๆ จะได้ไม่ลืม แต่สิ่งไม่ดีก็พยายามอย่าไปบันทึกซะ นอกจากเอาไว้เตือนตัวเองหรือเป็นบทเรียนก็เพียงพอ

และสิ่งที่ได้จากการเขียนบันทึกทำให้เกิดการเรียนรู้ในตัวเองและผู้อื่นอย่างครบถ้วน กระบวนการ สุ จิ ปุ ลิ (ฟัง คิด ถาม แล้วก็เขียน) นำไปสู่การพัฒนาตนอย่างยั่งยืนนั่นเอง เอ๊ะ ! ผู้เขียนเข้าใจถูกมั๊ยเนี่ย !!!

หมายเลขบันทึก: 78996เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2007 14:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 เมษายน 2012 14:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

คุณศิริอย่าลืมไปแบ่งปันความสุขกับการเขียน blog ในวันพุธที่ 21 ด้วยนะคะ

 

ไปสัญญา "จ๊า" ไว้ที่บันทึกน้องศาแล้วค่ะ

อ่านแล้วมีความสุขตามค่ะ....ความสุขง่ายๆ...ไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหน...
คุณเมตตาค๊ะ --ถูกต้องแล้วคร๊.................บบบบบ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท