ณ วันนี้ท่านใดที่ยังไม่เคยได้ยินคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง ก็ถือว่าเป็นผู้เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ที่แท้จริง
หลักพอประมาณสำหรับคนบ้านเรา ณ วันนี้จะให้เราลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวมันแสนจะยาก เพราะภาระหลักก็คือการจัดการหนี้สิน ที่ถูกนำเข้าสู่ระบบครอบครัว หนี้หนึ่งคือหนี้สถาบันการเงิน ทั้งในและนอกระบบ อีกหนี้หนึ่งคือหนี้ชีวิต ได้แก่ภาระหารายได้ให้แก่บุตรหลาน
การจัดการหนี้สถาบันการเงินนั้นง่ายกว่ามากเพียงแต่เราลดภาระค่าใช้จ่าย และหารายได้เพิ่ม ก็จะหมดภาระในชั่วเวลาไม่นาน แต่หนี้ชีวิต คือภาระแห่งกรรม ที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา และเราเลี้ยงบุตรหลานต่อๆไปนั้น มันลบยาก ปัญหาใหญ่ก็คือที่ผ่านมาวัตถุนิยมสร้างความความแปลกแยกในระบบครอบครัวทำให้ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป พ่อแม่หาเงินมาเพื่อลูก แต่ลูกไม่ได้ใช้เงินเพื่อพ่อแม่ เพราะลูกถือว่ามันเป็นหน้าที่ของพ่อแม่เมื่อทำให้เขาเกิดมาก็ต้องรับผิดชอบ ความพอประมาณในการจัดการลดหนี้ชีวิต คือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตัวเอง ด้วยการจัดการ ด้านความพอประมาณในการให้กับลูก สร้างลูกให้รู้จักผูกพันกับสมบัติพัสถานที่พ่อแม่มีเพื่อลูก และที่สำคัญคือสร้างวินัยและความเข้มแข็ง ให้เกิดแก่ลูกให้ได้
การลดภาระหนี้ชีวิต จึงต้องนำหลักจริยธรรม ศีลธรรม และคุณธรรมมาเป็นตัวปลดเปลื้อง เป็นอันดับแรก หลักภูมิคุ้มกันและความมีเหตุผลก็จะคล้อยตามมาโดยอัตโนมัติ
แผนการจัดการให้เกิดสังคมคุณธรรม จึงน่าจะเป็นการรื้อผังการบริหารจัดการภายในทั้งระบบอย่างรวดเร็วและจริงจัง
ณ ปัจจุบันนี้เด็กก่อนวัยเรียนคือผ้าขาว สามารถเติมสีอะไรให้ก็จะเป็นไปตามความต้องการ วัยรุ่น ณ วันนี้ก็คือผ้าที่เปลี่ยนสีแล้ว เราก็จำเป็นต้องย้อม แม้จะไม่สวยสด แต่ก็ยังเกิดคุณค่าเพราะเยาวชนคือผู้กำอนาคตของชาติในไม่กี่ปีข้างหน้า สร้างเสริมสุขภาพผู้ใหญ่และวัยชราเพื่อรอเห็น ลูกหลานวันหน้านำพาชาติไทยให้ใหญ่ยิ่ง