แนวคิดเครือข่ายนักจัดการความรู้ระดับชุมชนบุรีรัมย์ ตอนที่ 2
พ่อกว้าง สุวรรณทา ที่อยู่ 95 หมู่ 1 ต.หายโศก อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์เจ้าของความคิดการคัดพันธุ์ข้าวเพื่อวิถึเกษตรอีสานและเปลี่ยนนาข้าวให้เป็นนาหญ้า
“จากการที่เข้ามาเป็นเครือข่ายทำให้ ได้รู้จักวิธีคิด วิธีวางแผน การคิดเป็นขั้นตอน แล้วลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ได้อย่างพอเหมาะ การลงมือทำงานทำให้เราปฏิบัติได้ชัดเจน มองเห็นหรือสันนิษฐานได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พอทำไปแล้วมันทะลุุชัดเจนมากขึ้น เช่นเรื่องคัดพันธุ์ข้าว สุพรรณบุรีเขาจะมีบริบทของเขา เราอีสานก็มีบริบทของเรา ดิน น้ำ ลม ฟ้า อากาศ แสงแดด อุณภูมิแตกต่างกัน พันธุ์ข้าวและวิธีการย่อมแตกต่างไป อย่างปีนี้คิดแผนการไว้ว่าจะทำข้าวหยอดหลุม ทดลอง 1 ไร่ ถ้าฝนมาเร็วจะลงข้าวหนัก และถ้าฝนมาช้าจะลงข้าวเบา แล้วความรู้มันจะทะลุไปถึงเรื่องการเก็บฟางข้าวไว้เลี้ยงสัตว์และทำประโยชน์ได้ด้วย
การสร้างความรู้จากการปฏิบัติเราทำคนเดียว อยู่คนเดียว ไม่ได้ ต้องสร้างเครือข่าย หาพันธมิตร เพื่อต่อยอดความรู้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตั้งกลุ่มทำงาน สร้างความรู้และทำประโยชน์ร่วมกัน เช่น การปลูกหญ้าอาหารสัตว์ หลายสายพัธุ์ในนาข้าวเพื่อสร้างรายได้โดยผมให้พื้นที่ปลูก สมาชิกเป็นคนปลุกและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เอง แล้วนำความรู้วิธีการต่าง ๆ ไปขยายผลในที่นาของตนเองเพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งในขณะนี้มีพ่อค้าติดต่อให้กลุ่มของเราขายหญ้าส่งให้วันละ 300 กิโลกรัม เราผลิตให้ไม่พอเพราะเจอปัญหาเรื่องขาดน้ำ ก็จะหาวิธีการและหาความรู้เรื่องน้ำ เรื่องการจัดการน้ำกันต่อไป
KM ทำให้เราได้ความรู้ ได้วิธีคิด ได้ความชัดเจนในสิ่งที่ทำ ได้รู้ความถนัด ความต้องการ และศักยภาพของตนเอง ทำให้ค้นพบตนเองได้ เกิดความภาคภูมิใจจากงานที่สัมฤทธิ์ผล ทำให้เกิดการต่อยอดความรู้มากขึ้น
“ทำให้เราได้พัฒนาตนเองเป็นคนทำดี คิดดี เผื่อแผ่คนรอบข้าง คือเราทำได้สำเร็จแล้วอยากให้คนที่เรารักและรู้จักได้ความรู้แล้วนำไปปฏิบัติเหมือนที่เราทำ
เลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง กับพื้นที่ กับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของเราเอง แม้แต่การคัดพันธุ์ข้าว
ที่สำคัญทำให้เรามีธรรมะ ต้องมีสติ มีสมาธิ คิด ทำ อยู่ให้พอดีกับตัวเอง และต้องสร้างพลังพิเศษให้เกิดขึ้นให้ได้ (พลังพิเศษที่ว่าคือ พลังที่จะทำอะไร ยาก ๆ ได้ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เหมือนกับคนหนีตายจากเสือไล่ตะปบ ขึ้นต้นไม้ก็ได้จากที่ตนเองปีนต้นไม้ไม่เป็น”
“ครูบาสุทธินันท์ได้ถ่ายทอดให้เครือข่ายเป็นคนต้องการเรียนรู้ ชอบที่ครูบาใช้วิธีการปฏิบัติเป็นตัวอย่าง ทำให้ดู และเครือข่ายได้เรียนรู้ด้วย ถ้าทำงานกับครูบาแล้วความคิดไม่ถูกปิดกั้น เพราะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โดยให้คิดเอง ทำเอง ไม่รู้ให้ถาม และหาความรู้มาให้ หาพันธมิตรทางวิชาการมาให้เราถาม ให้เราทำตัวเป็นผู้เรียนอยุ่ตลอดเวลา
อีกอย่างคือต้องเก็บแนวคิดมาต่อติดให้ได้ โดยเชื่อมกับแนวคิดของครูบา เพราะครูบาเป็นคนที่มีความตั้งใจสูง คิดอะไรเราต้องตามความคิดของครูบาให้ทัน และนำไปปฏิบัติให้เห็นทันทีเช่นเดียวกัน คำพูดของครูบาเราต้องนำมาคิดแล้วคิดอีกจึงจะเข้าใจอย่างถ้วนถี่ ครูบาเป็นคนช่างคิดช่างฝันและสามารถสร้างฝันให้เป็นรูปธรรมได้”
เป็นการบอกเล่าจากผู้เฒ่าที่มีหัวใจ KM แล้วคอยติดตามตอนต่อไปนะคะ
ความเห็น (1)
การจัดการความรู้ (KM) เป็นเครื่องมือที่มีพลังในการพัฒนาอาชีพครับ