“มามี๊จะรักใครมากกว่ากันครับ”
สายตาใสๆจ้องมองฉันอย่างซื่อๆ ขณะที่ถามฉันตรงๆ
ฉันมีลูกทูนหัวอยู่หนึ่งคนค่ะ เจ้าหนูอายุสิบขวบแล้วในปีนี้ เขาเรียกฉันว่ามามี๊ ส่วนคุณแม่ของเขา ซึ่งเป็นเพื่อนของฉันนั้นเขาเรียกว่าคุณแม่ ซึ่งก็มักจะทำให้ชาวประชาสับสนอยู่เรื่อยๆเวลาพาเขาไปเที่ยวไหน ว่าใครเป็นคุณแม่ตัวจริง ใครเป็นตัวปลอมกันแน่
วันหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้ว น้องสาวฉันคลอดลูกชายคนนึง ฉันก็เล่าให้เขาฟังว่าต่อไปนี้มามี๊จะมีหลานแล้วนะ เขาก็ถามฉันคำถามข้างบนนั้น
ฉันอึ้งไปนิดนึง เพราะรู้ว่าถ้าตอบคำถามนี้ไม่ดี คือถ้าเอียงไปทางหลานคนใหม่ เจ้าหนูก็อาจจะไม่สบายใจ แต่ถ้าเอียงมาทางเขามากกว่า เขาก็อาจรู้สึกได้ใจมากเกินไปก็ได้
ฉันตอบเขาว่าเวลามามี๊รักเขา ก็เหมือนกับมามี๊มีเค้กสำหรับเขาก้อนนึง พอมามี๊มีหลานมามี๊ก็มีเค้กก้อนใหม่ให้หลานตัวเล็ก มันไม่ใช่ว่าทั้งเขาและน้องตัวเล็กจะมาแย่งเค้กก้อนเดียวกัน ไม่ใช่ว่าแบ่งเขาไปแค่นี้ น้องตัวเล็กจะเหลือแค่นี้ หรือพอแบ่งน้องไปแค่นี้ เหลือสำหรับเขาแค่นี้ แต่อันที่จริงทั้งเขาและน้องสามารถมีเค้กกันคนละก้อนกันได้ ปรากฏว่าเขาเข้าใจคำตอบนี้ เฮ้อ....รอดไปที ฉันมักจะเจอคำพูดคำจาคำถามให้อึ้งอยู่บ่อยๆจากเจ้าหนูนี่
และต่อๆมาทั้งเจ้าหนูกับหลานตัวเล็กของฉัน ทั้งคู่รักใคร่สนิทสนมกันดีทีเดียว เจอหน้ากันก็เล่นกันสนุกสนานเฮฮาจนทุกวันนี้....เด็กเอ๋ยเด็ก
เป็นคำตอบที่ดีค่ะ ตอบแล้วเป็นกลางมาก หนูจะจำไปใช้บ้างนะค่ะ เพราะมีหลานตัวน้อยอยู่หลายคน
แอบยิ้มในใจ ถูกใจคำตอบจริง ๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณมะปรางเปรี้ยว
อยู่กับเด็กๆนี่สนุกค่ะ ในขณะที่เราสอนอะไรๆเขา เราก็เรียนรู้เยอะแยะจากเขาเหมือนกัน