โรงเรียนชาวนาระดับมัธยม (๒๒)
ผมเอาตอนนี้มาไว้ท้ายสุด ให้เห็นว่าโรงเรียนชาวนาเป็นการเรียนรู้ที่มีมาตรฐาน มีตัวชี้วัดแน่นอน และนักเรียนก็มีความซื่อสัตย์ยอมรับว่าตนยังปฏิบัติไม่ตรงกับกติกาที่จะถือว่าผ่านเกณฑ์
ตอน : ยังไปไม่ถึงฝั่ง
ถึงแม้ว่าคุณกิจของเราจะร่ำเรียนอย่างหนัก
ทั้งความรู้เทคนิคทางการปรับปรุงดินไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยหมักสูตรต่าง ๆ
หัวเชื้อจุลินทรีย์ การทำปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ ฮอร์โมน
ทั้งจากพืชและจากสัตว์ รวมทั้งการเรียนรู้ คุณภาพของดิน
และการปรับสภาพดินให้เป็นกลางจากการสร้างความอุดมสมบูรณ์โดยธรรมชาติ
แต่ความรู้ที่ได้มา ได้เริ่มปฏิบัติจริงในไร่นามาก็ไม่นาน
ก็ยังมีบ้างที่ยังคงใช้ปุ๋ยเคมี “ก็มันเคย”
เป็นคำพูดที่เคยชินของคุณกิจ
ความหวาดกลัวที่จะถูกลดผลผลิตลงจากเดิมนั่นหมายถึงความสั่นคลอนทางทางเศรษฐกิจของครอบครัว
และเป็นการเริ่มต้นของความรู้ใหม่ ๆ
ที่ต้องการการพิสูจน์จากคุณกิจ
จึงไม่ผิดที่คุณกิจจะมีความรู้สึกหวั่นไหวต่อกิจกรรมที่เกิดขึ้นในไร่นาของตัวเอง
“พวกเรายังอยู่ในระหว่าง ลด ละ เลิก การใช้ปุ๋ยเคมี
และคิดว่าจะเลิกแน่ในปีหน้าที่จะถึง”
คุณกิจทั้งหลายผ่านหลักสูตรการปรับปรุงบำรุงดินมาแล้ว
แต่ก็ยังรู้จังหวะย่างก้าวของตัวเองเป็นอย่างดี
พวกเขายังก้าวไม่พ้นสารเคมี
ดังนั้นพวกเขายังคงต้องเรียนซ้ำชั้นในรูปแบบการเพิ่มความเข้มข้น
และหยุดใช้ในหลักสูตรที่ยากที่สุด คือ การพัฒนาพันธุ์ข้าว
“พวกเรากำลังพยายามต่อสู้กับความคิด ความเคยชิน
ผมรู้ว่าเรายังไปไม่ถึงฝั่ง
แต่อีกไม่นานพวกเราจะไปยืนบนฝั่งอีกฝั่งหนึ่งให้ได้
ซึ่งเป็นฝั่งที่ทำให้พวกเรายืนได้อย่างเต็มภาคภูมิ
พวกเราจะต้องเรียนเรื่อง การปรับปรุงบำรุงดินต่อ
จนกว่าเราจะเลิกใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมีทั้งหมด”
เป็นคำกล่าวของชาวนาคนหนึ่งที่พูดออกมาอย่างมุ่งมั่น
ดวงตาและริ้วรอยของใบหน้าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายทศวรรษ
มองไปข้างหน้าอย่างคนที่มีความหวัง
และมีความสุขอยู่ข้างใจจิตใจอย่างแท้จริง
โปรดสังเกตนะครับว่า นักเรียนชาวนาพร้อมใจกันเรียนซ้ำชั้น โดยที่ทุกคนรู้ว่าการสนับสนุนการเงิจาก สคส. จำกัดเพียง ๒ ปี หลังจากนั้น สคส. จะยังคงเป็นพันธมิตรเครือข่ายกัน แต่ไม่มีเงินสนับสนุนอีกแล้ว จากการพูดคุยกัน ทั้ง มขข. และนักเรียนชาวนาหลายคนคิดว่าการทดลองและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มนักเรียนชาวนาจะคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แม้ มขข. และ สคส. จะไม่เข้าไปเอื้ออำนวยการเรียนรู้แล้ว ที่ ต. วัดดาว เข้าใจว่า อบต. จะมารับช่วง โดย อบต. จะจ้าง “คุณอำนวย” ทำหน้าที่เอื้ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการปฏิบัติต่อไป สคส. เชื่อว่า “วัฒนธรรมการเรียนรู้ในงานประจำ” หรือในงานอาชีพ ของชาวบ้านนี้ จะแพร่ขยายออกสู่กิจกรรมอื่นๆ ในชุมชน
วิจารณ์ พานิช
๒๔ สค. ๔๘
ในการดำเนินการใดๆหากได้มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถนำเสนอและที่สำคัญที่สุดคือความจริงใจ จากทุกๆฝ่ายไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือ องค์กรต่างๆ อย่าเอาแต่พูด ออกเอกสาร อบรม สัมมนา และเมื่อสิ้นสุดกิจกรรมที่กล่าวมา ทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิม ยิ่งพื้นที่ที่มีแต่ความต้องการ ต้องการ และต้องการแต่ไม่เคยคิดที่จะพัฒนา ปรับปรุงตนเอง หวังแต่ได้ หวังแต่รับ มันก็ยากที่จะเอาkmไปใช้ สุดท้ายนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ช่วยเข้าไปดูแลบ้างครับ