แม่ กับ การยืดลมหายใจที่อบอุ่นไปได้อีกหลายปี


หยดน้ำแต่ละหยดรวมตัวกันแล้ว ก็เป็นแม่น้ำ-มหาสมุทรได้เช่นกัน

           ..... เมื่อคืน (1 ก.พ.50) บอกแม่ว่า พรุ่งนี้ (2 ก.พ.50)  รูปและเรื่องเล่าบางส่วนของแม่จะได้ขึ้นไปอยู่บน blog ในอินเทอร์เน็ตแล้วนะ  ค้นหาได้ทั่วโลกเลย    แม่ดีใจใหญ่ ถามว่า แล้วจะได้ขึ้นขั้นไหม (โอ้โห แม่คิดแทนลูกสาวเลยนะ แม่พูดถึงขั้นเงินเดือน) .....

           ถ้านึกถึงคนดี     ระบบสมอง low road ก็สั่งการอัตโนมัติไปสืบค้นหาคำว่า "แม่" มาเป็นอันดับแรก  ..แล้วพลังของคุณงามความดีทั้งปวงในโลกหล้าได้มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ โดยมิได้นัดหมาย
           และโดยเฉพาะ ผู้ที่เป็น "แม่ของเรา" มันซาบ มันซึ้ง ประทับใจเหนืออื่นใด

 

รูปแม่กับป๋าไปเที่ยวงานพืชสวนโลก ที่เชียงใหม่ เมื่อ 2 มค 50

           แม่ ชื่อจริงว่า สุจินดา จริยะพร  ปีนี้แม่ก็อายุอานาม 76 ฝน 76 หนาว และกำลังจะ 77 ร้อน ในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้  ใครๆ ก็เรียกว่า "ยาย" บ้าง "ป้า" บ้าง "อาม่า" บ้าง "แม่" บ้าง  ยกเว้นพวกเราพี่น้องที่ได้สิทธิโดยชอบธรรมเรียกว่า "แม่"

           แถวบ้าน ทั้ง "ป๋า" และ "แม่" จะได้รับเกียรติเป็น "ส.ว." เวลามีการจัดงานในพื้นที่ เพราะ หนึ่ง สูงวัย  สอง เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาของชุมชน  สาม มีเงินสนับสนุนกิจกรรม (แม้จะมาเป็นข้อสาม แต่ก็เป็นจักรกลสำคัญไม่น้อยเลย) ด้วยประการฉะนี้

          ด้วยคุณสมบัติของความเป็นผู้หญิง  แม่จะมีคุณสมบัติของความประนีประนอม (แต่ไม่ยอมคนง่ายๆ)  และเป็นผู้นำทางความคิดไปในตัว  บ่อยครั้งที่แม่จะต้องไปช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องราวเมื่อเกิดเหตุลมหวน (มีคนที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันกับคนอื่น)  ก่อนไป แม่มักถามหาต้นสายปลายเหตุจากคนที่มาบอก หรือคนที่รู้ข้อมูลดีก่อนว่า เกิดอะไรขึ้น  และการที่รู้นิสัยกันอยู่แล้ว  แม่ก็จะงัดมาตรการต่างๆ ออกมาใช้ ต่างกันไปตามนิสัยของคนที่เกี่ยวข้อง  มีทั้งหยอด ทั้งชม ทั้งขู่  ทั้งว่ากล่าว ตักเตือน เรื่องนี้เป็น tacit และอาศัยศิลปะการครองใจคนเป็นอย่างสูง จำเป็นต้องมี social intelligence เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ   มีบางครั้งเหมือนกันที่การสื่อสารของแม่ล่ม ใช้การไม่ได้  แม่บอกว่า (เด็ก) สมัยนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ... 

           เรื่องแบบนี้ อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลายๆ คน  แต่ในฐานะลูก ที่สัมผัสได้คือ ความตั้งใจจริงของแม่ ที่อยากช่วยให้คนยกทุกข์ทิ้งไป แล้วร่วมกันปรองดอง อยู่อย่างเป็นสุข (หลายครั้งที่แม่ลืมตัว เก็บทุกข์นั้นมากอดไว้หลายวัน กว่าจะปล่อยออกไป พยายามคิดแทนเค้า)  แม่บอกว่า แม่ไม่รู้หรอกว่า สังคมอื่นเป็นอย่างไร   เพราะไม่ได้ไปอยู่-ไปเห็น  แต่สังคม-สิ่งแวดล้อมที่แม่อยู่ แม่พอใจครึ่งหนึ่ง อยากพัฒนาอีกครึ่งหนึ่ง  หากแม่ยังเป็นประโยชน์ช่วยกันได้ แม่เต็มใจทำโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากความพอใจของคนส่วนมากรอบข้าง

           โดยส่วนตัวแล้ว ก็คิดว่าดีนะ  แม้แม่จะไม่ได้เป็นคนเด่นคนดัง เป็นคนเล็กคนน้อยในสังคม  หากเราทำสังคมรอบกายที่เรารู้จักดีและคลุกคลีอยู่กับมัน ทำให้ดี  จุดดีเล็กๆ หากมีหลายๆ จุด ก็เป็นดั่งหยดน้ำรวมตัวเป็นแม่น้ำ-มหาสมุทรได้เช่นกัน

         

           รางวัลหนึ่งที่แม่ได้รับคือ แม่ดีเด่นแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2543  เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2543   ลูกๆ รู้ว่า แม่ดีใจนะ  แต่ที่แม่ดีใจมากกว่าคือ แม่มีลูกๆ  ..แล้ว ณ วันนั้น สามี ลูกๆ หลานๆ ก็อยู่ล้อมรอบเป็นกำลังใจให้แม่  ยืดลมหายใจที่อบอุ่นไปได้อีกหลายๆ ปี...

หมายเลขบันทึก: 75955เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2007 15:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อ่านเรื่องเกี่ยวกับแม่เป็นบันทึกที่ 2 ของวันนี้หลังจากบันทึกนี้ค่ะ ขอบคุณความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากการอ่านค่ะ รวมทั้งข้อคิดดีๆที่เสริมความเชื่อที่ตัวเองมีเช่นกันค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท