อาชีพของแม่(ตอนที่ 2) ทำให้ผมได้ความรู้เรื่องรถ


"ลุกขึ้นได้แล้วลูก ไม่มีใครช่วยแม่ได้เท่าลูก และพวกเราจะได้ไม่ลำบากนะลูก "แม่จะพูดอยู่อย่างนี้เป็นประจำ
ต่อจากบันทึกที่แล้ว หลังจากที่แม่เลี้ยงหมูได้ประมาณ 2 ปี  ตอนนั้นแม่เริ่มมีทุนทำร้านขายของชำที่บ้าน โดยไม่ต้องไปเดินขายตามท้องนาเหมือนเมื่อก่อน แม่เปิดร้านขายของชำเล็กๆที่หน้าบ้าน แต่ยังไม่ทิ้งอาชีพขายขนม แต่จะทำเฉพาะช่วงทำนาเท่านั้น เพราะจะขายดี และยังเลี้ยงหมูต่อไป และตอนนั้นแม่ก็เริ่มเล่นแชร์ โดยแม่ไม่บอกให้พ่อรู้ เพราะพ่อห้ามไม่ให้แม่เล่นแชร์ พ่อกลัวโดยโกงเลยห้ามไว้ และตอนสมัยนั้นยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการเล่นแชร์เหมือนปัจุบัน แม่เก็บเงินไว้สะสมโดยการเล่นแชร์อยู่ 2 ปี แม่ก็ซื้อรถกระบะยี่ห้อมาสด้าเครื่องเบนซิน 1600 ซีซี  เก่ามากๆราคาตอนนั้น 12000 บาท  แม่ซื้อมาเพื่อบรรทุกดินไปถมที่ต่างๆที่รถใหญ่ๆเข้าไปไม่ถึง หรือไม่ก็ถมที่สร้างบ้านคนในตำบลที่ใกล้บ้าน ตอนนั้นทำให้ผมได้วิชาการคำนวณการถมที่มาด้วย ตอนนี้ผมยังสามารถคำนวณได้อยู่เลย ที่ทำงานของผมเวลาใครจะถมที่เขายังมาปรึกษากับผมอยู่เลยวิธีคำนวณคือกว้างคูณยาวคูณลึก จะออกมาเป็น คิว รถเล็กธรรมดา(กระบะ)ของผมประมาณ 1 คิว แต่ถ้าเป็น6 ล้อ ประมาณ6 คิว ส่วน10 ล้อประมาณ 10 คิว ราคาก็แล้วแต่ครับ แต่ส่วนมากตกคิวละประมาณ 100 บาทแล้วแต่ระยะทาง และประเภทของดินเช่นดินที่มีหินเยอะๆก็จะถูกที่สุด   ผมรู้สึกว่าผมได้อะไรหลายๆอย่างจากการที่แม่ซื้อรถ เช่น ได้ขับรถยนต์เป็นตั้งแต่ 14 ปี ได้ซ่อมรถเป็นเพราะ รถที่แม่ซื้อมันจะต้องเสียทุกวัน เป็นอาจิณ และพวกเราช่วยกันตั้งชื่อว่า"วันสิ่ง" ความหมายก็คือ ทุกวันจะต้องซ่อมอย่างน้อย 1 อย่าง พวกเราเลยเรียกว่า วันสิ่ง (เป็นภาษาใต้)แปลว่า วันละอย่าง บางวันขับมาดีๆ ยางก็แบนเฉยเลย บางวันที่หนักที่สุดคือ วิ่งๆแล้วล้อหลุด เรียกได้ว่ารอดตายกันหวุดหวิด ครับ แต่ก็ได้ความรู้เรื่องรถมามากที่เดียว ตั้งเรื่องระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟ และระบบขับเคลื่อนของรถ (วันหลังจะเล่ารายละเอียดเรื่องรถครับ) 

     ตอนนั้นผมอยู่ประมาณ ม.2 ผมและพี่ชาย ต้องช่วยแม่ขับรถในวันหยุดและปิดเทอมแทนคนขับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นต้องขับด้วยและต้องขุดดินใส่รถด้วยโดยใช้จอบและบุ้งกี้ ตอนนั้นคนขับรถแม่จะให้เที่ยวละ 10 บาท คนขุดให้เที่ยวละ 5 บาท วันหนึ่งปกติจะได้ 10 เที่ยว แต่ถ้าเริ่มงานตั้งแต่6 โมงเช้าจะได้เพิ่มอีก1-2 เทียว แต่ผมไม่ได้เงินนะครับทำงานช่วยแม่อย่างเดียว มันเป็นงานที่เหนื่อยมากแต่ก็ต้องทำเพราะพวกเราไม่อยากให้แม่ลำบาก ทำได้ประมาณ 1 ปี แม่ซื้อรถกระบะเพิ่มอีกคัน แต่คราวนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้ผมได้ประสบการณ์เรื่องรถประเภทดีเซลอีก ซึ่งมันไม่เหมือนกันเลยกับรถระบบเบนซิน ที่นี้พอมี 2 คันผมและพี่ต้องทำงานหนักขึ้นกว่า คือต้องขับคนละคันเลย เมื่อก่อนมีคันเดียวยังผลัดกันขับได้ แต่ตอนนี้ต้องขับคนละคัน เหนื่อยมากครับ แต่ แม่จะมีวิธีการพูดที่ทำให้ผมและพี่ชายต้องลุกขึ้นทำงานตั้งแต่เช้าของวันหยุด แม่จะพูดว่า "ลุกขึ้นได้แล้วลูก ไม่มีใครช่วยแม่ได้เท่าลูก และพวกเราจะได้ไม่ลำบากนะลูก "แม่จะพูดอยู่อย่างนี้เป็นประจำ กระตุ้นผมกับพี่อยู่บ่อยๆ จนตอนหลังแม่ไม่ต้องปลุกแล้ว ผมและพี่จะตื่นนอนก่อน 6 โมงทุกวัน มาจนถึงปัจุบันผมไม่เคยตื่นสายเลย ตรงนี้ต้องขอบคุณแม่อีกแล้ว ครับ แม่ให้ประสบการณ์ชีวิตมากมายจริง ๆ ครับ

หมายเลขบันทึก: 75745เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2007 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อ่านแล้วน้ำตาซึมเล็กๆค่ะ สงสัยจังว่าถ้าแม่อ่านแม่จะว่ายังไง ดูแม่เป็นคนเข้มแข็งจังค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท