ตอนเด็กๆ ผมชอบเลี้ยงปลากัด ไปช้อน "ปลาป่า" มาจากท้องนา เอามาใส่ขวดเลี้ยงไว้ดูเล่น โดยต้องหาลูกน้ำจากตุ่มน้ำฝนสำหรับดื่มให้มันกิน ในขวดเราใส่หญ้าคมบาง หรือหญ้าตับเต่าไว้ด้วย เพื่อนๆ บอกว่าเอาไว้ให้มันลับปาก เวลากัดกันมันจะได้ปากคม
ตอนไปช้อนมันจากนามาใส่ขวด มันตกใจ ไม่คุ้นที่จะว่ายดิ้นรนอยู่ในขวด เป็นปลาที่ยังไม่เชื่อง เราเรียกว่ามันยัง "แห" อยู่ คำนี้ไม่แน่ใจว่าเขียน "แห" หรือ "แห่" กันแน่ เพราะสำเนียงปักษ์ใต้ ๒ คำนี้ออกเสียงเหมือนกัน ตอนที่ปลายัง "แห" จะมีผิวซีด ไม่สวย เลี้ยงไปหลายๆ วัน ปลาคุ้นที่ สบายใจดีแล้ว ก็จะมีสีเข้มสวยงามขึ้น ยิ่งเอาขวดมาเทียบกับปลาตัวอื่นให้มันพองสู้กัน (ปักษ์เรียกว่าให้มัน "แพน" น่าจะย่อมาจากรำแพน) ปลาจะยิ่งมีสีเข้มขึ้นไปอีก
ปลา (กัด) ป่าตัวเล็ก และสีไม่เข้มมาก ครีบและหางเล็ก สู้ปลา (กัด) หม้อไม่ได้ มีตัวโต สีเข้ม และครีบตัวและครีบหางใหญ่สวยงามกว่ามาก ปลาหม้อเกือบทั้งหมดมาจากการผสมและคัดพันธุ์โดยคน แต่บางครั้งเราก็ช้อนปลาหม้อได้จากในนาเหมือนกัน อาจมีคนเอาไปปล่อย คือหลังจากกัดแพ้ เจ้าของก็ไม่อยากเลี้ยง จึงเอาไปปล่อยที่นาหรือในหนองน้ำ
บางช่วงเรา (หมายถึงผมและน้องๆ ) บ้าปลากัดมาก เรานั่งดูมัน "แพน" สู้กันเป็นชั่วโมงๆ บางครั้งก็ถ่ายมันใส่ขัน หรือใส่ขวดเดียวกัน ให้มันกัดกัน เราเคยโดนแม่ตีเพราะมัวบ้าปลากัด แม่เรียกไปใช้งาน ก็มัวโอ้เอ้ ไม่ยอมไป ความบ้าปลากัดทำให้ผมฝันถึงปลากัดบ่อยๆ จนอายุกว่า ๔๐ ก็เคยฝันถึง
นอกจากปลากัด ผมเคยลองเลี้ยงปลาซิว ปลากระดี่ ปลาหมอ โดยเอาใส่หม้อดินบ้าง อ่างดินบ้าง เอาจอกแหนใส่ พอน้ำใสดูปลาว่ายน้ำมีความสุขมาก ผมเอารำข้าวให้มันกิน มันก็กิน แต่ไม่กี่วันมันก็ทยอยกันตาย น้ำเหม็นเน่า ผมไม่เข้าใจว่าปลามันขาดอาหาร เพราะตามปกติมันกินสัตว์อื่นเป็นอาหาร มันต้องได้อาหารที่มีโปรตีนสูง จึงจะอยู่ได้
พอแต่งงาน อยู่ที่บ้านบางขุนนนท์ ผมเลี้ยงปลาตู้ ตอนแรกเลี้ยงตู้เล็กๆ มีปลาเงินปลาทอง ปลาหางดาบ และปลาหางนกยูง ซื้อลูกน้ำและหนอนแดงให้มันกิน ปลาหางนกยูงออกลูกเร็วมาก ผมก็ขยายตู้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มหน้าบ้าน โดนภรรยาบ่นเป็นประจำ ผมพบว่าปลาหางดาบกับปลาหางนกยูงมันผสมพันธุ์กันได้ ชนิดของปลาตู้ที่เลี้ยงก็ขยายเพิ่มขึ้น มีปลาเทวดา ปลาอีกา ปลาเทศบาล ปลาพระร่วง เป็นต้น เลี้ยงอยู่หลายปี จนขี้เกียจถ่ายน้ำทำความสะอาดตู้ ก็เลิก
เวลานี้ที่บ้านปากเกร็ด ผมเลี้ยงเฉพาะปลาหางนกยูงอย่างเดียว มีอยู่ ๓ อ่าง เลี้ยงง่ายกว่าสมัยก่อนมาก เพราะใช้อาหารปลา และแม้ไม่อยู่บ้าน ๒ - ๓ วันมันก็ทนได้ โดยกินจอกแหนประทังหิว
วิจารณ์ พานิช
๔ มค. ๕๐