เครื่องมือสร้างเครื่องมือแปรรูปของเฮา ชาวยางคำ สิ่วปากเล็ก สิ่วปากใหญ่ ค้อนไม้ แรงกาย แรงใจ สร้างสรรค์งาน
พ่อพนมชัย แต่พ่อแต่แม่ของเราเพิ่นไม่ได้ทำเหมือนที่เราทำนะ ไม่ใช่ว่าจะทำทีเดียวเสร็จ ท่านจะเจาะ สิ่วตอก ป๊อก ๆ ป๊อก ๆ แล้วก็ไปทำอย่างอื่น ทำโน่น ทำนี่ แล้วก็กลับมา ป๊อก ๆ ป๊อก ๆ ใหม่ เพียรอยู่อย่างนั้น จนเป็นรูปร่าง ไม่ว่า เกวียน เครื่องอิ้วน้ำอ้อย อิ้วฝ้าย หลา อะไรต่าง ๆ ล้วนต้องเพียรกระทำอยู่ ใช้เวลา ค่อยทำ ค่อยเป็น ค่อยไป ....
การได้พบกันในบรรยากาศทำงานแบบนี้ทำให้ได้โอกาสที่จะคุยสัพเพเหระหลายเรื่อง เรื่องของพ่อสงวนเป็นหนึ่งในเรื่องที่ดิฉันสนใจ เพราะเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านเขาออกจากป่ามาแล้วตั้งแต่ประมาณปี ๒๔-๒๗ ก็จะทยอยกันออกมา แต่พ่อสงวนอยู่ยาวถึงปี ๓๕ ถึงได้กลับมาบ้าน มาเริ่มตั้งต้นชีวิตคนบ้านกับเพื่อน ๆ
ดิฉัน พ่อหงวนขอถามหน่อยว่า ทำไมถึงออกมาจากป่า ช้ากว่าเพื่อน มัวไปทำอะไรอยู่
พ่อสงวน ก็มันไม่แน่ใจว่า ออกมาแล้วมันจะเป็นอย่างไร ก็รอดู ไม่เชื่อใจ
ดิฉัน แล้วอยู่ที่ไหน ในป่ายังมีคนเหลืออยู่หรือ
พ่อสงวน ก็เดินทางไปเรื่อย ๆ จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ อยู่ตามค่ายต่าง ๆ ของพรรค
ดิฉัน ได้ยินข่าวคราวหรือเปล่าว่า การต่อสู้มันซาลงมากแล้ว
พ่อสงวน ก็รู้ข่าวเหมือนกัน.....
พ่อตั้น สถานการณ์มันเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ ปี ๒๒ แล้ว และเขาก็เริ่มใช้นโยบาย ๖๖/๒๓
.....................
คนอื่น ๆ ก็เริ่มคุยเรื่องอื่น ๆ กระเซ้าเย้าแหย่กัน คนสนใจกันหลายเรื่องนี่ ไม่ใช่อยากจะมาฟังเรื่องของคน ๆ เดียว และตอนนี้ ปัจจุบันนี้ สถานการณ์มันก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว....เอาเถอะ ดิฉันต้องหาโอกาสที่จะปะติดปะต่อประวัติศาสตร์จากแง่มุมประสบการณ์ของสามัญชนคราวหลัง เพราะก็อยากฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันเหมือนกัน
เราเดินไปดูที่ด้วยกันไหม จะได้ช่วยกันดูว่าตรงไหนจะเหมาะ พ่อสถานเสนอ
ทุกคนเห็นด้วย พวกเราก็พากันลัดเลาะป่าส่วนตัวของพ่อสถาน
เจรจาจะ “ฆ่า” ต้นไม้กัน เพราะ การจะวางเครื่องอิ้วอ้อยนั้นด้านหนึ่งของเครื่องมือจะถูกยึดติดกับต้นไม้ ต้นไม้นั้นจะต้องถูกตัดให้เหลือเพียงอก เพื่อให้เครื่องมือไม่โยกคลอนระหว่างปฏิบัติการน้ำอ้อย ที่จะต้องใช้แรงคนไม่กว่าสามคนหมุน หรือที่สมัยโบราณใช้วัวควายเดินรอบเครื่องหีบอ้อย
“ จะเอาต้นไหนดี...”
“ เอาต้นที่ใหญ่หน่อยนะ จะได้มั่น “
“ บริเวณรอบตันไม้ต้องกว้างออกไปด้านละ ๓ เมตร “
พากันช่วยกันเดินดู ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับความคิดที่จะตัดต้นไม้ คิดว่าต้นไม้ที่ยืนฟังอยู่ก็คงหวาดหวั่นเป็นต้น ๆ ไปที่โดนนำเสนอให้บั่น คนมาเจรจาเลือกจะเอาต้นนั้น ต้นนี้ โดยต้นไม้ไม่ได้ออกความเห็นด้วย เป็นการไม่ยุติธรรมเลย
“ จุดนี้จะดี อยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีบริเวณที่จะสะดวกที่จะขุดเตาดิน และอยู่ใกล้สวนอ้อย มีที่อาบน้ำ เป็นที่พักก็พร้อม มีร่มเงา จุดที่จะทำครัวก็มีพื้นที่ที่เหมาะสมอยู่ใกล้เคียง
“ แล้วเรื่องส้วม ทำอย่างไร มันไกลเถียงนาพ่อสถานมาก ขี้แตกแน่เลยถ้ามัวเดินไปส้วมอยู่น่ะ”
“ ไม่น่าจะมีปัญหา มีป่าเยอะ พวกผู้ชายเรา ก็ไปส้วมมือถือก็แล้วกัน ส่วนผู้หญิงก็แจกเสื่อคนละผืน เลือกพื้นที่เอาเอง เจอแล้วก็เอาเสื่อล้อมตัวเอง ดำเนินการ จะคุยกับเพื่อนก็ได้...( หัวเราะ ) พูดเล่นน่า “
เดินไปดูอีกจุดหนึ่งใต้เงาไผ่มืดครึ้มอีกด้านหนึงเป็นที่ราบโล่ง สบายตา ก็น่าสนใจมากเหมือนกัน แต่บริเวณนั้นเป็นทางของวัวควาย และเป็นที่ของคนอื่น เลยวกกลับมาดูที่ที่ดูครั้งแรกอีก ก็ได้เห็นจุดที่เป็นข้อดีของที่ตรงนี้มากขึ้น ดูเหมือนว่าแต่ละคนก็พอใจกับที่ตรงนี้ แล้วก็เริ่มไปจับต้นไม้ที่จะ โดน อีก....สะดุ้งอีกแล้วต้นไม้ .... คราวนี้ก็เลยคุยกันให้ชัดเจนว่า ไม่อยากให้มีการตัดต้นไม้ ให้ขุดหลุมฝังเสาเอา ฝังให้ลึกเมตรหนึ่งเป็นอย่างไร ก็น่าจะใช้ได้ ฝ่ายหนึ่งตอบ เอาล่ะ ค่อยยังชั่ว
เดินกลับออกมาบริเวณเตรียมเครื่องมือ เสียงดัง โป๊ก โป๊ก ดัง เดียวดาย พอเราโผล่ออกไปจึงเห็นพ่อบุญยก มือขวานที่มาทีหลังกำลังมาไล่งานตามหลังเพื่อน ๆ อย่างขะมักเขม้น
ดิฉัน โอ้โฮ พ่อบุญยก ใช้ขวานแม่นจังเลย ไม่หลุดจากรอยดินสอที่ขีดไว้เลยนะ
พ่อบุญยก จะหลุดได้อย่างไร ก็ป่า นามะนาว นามะแจ้ง ก็ฝีมือผมทั้งหมดนั่นแหละครับ ที่เตียนอยู่ทุกวันนี้น่ะ....
พ่อบุญยก ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์มากที่สุดในเรื่องการแปรรูปน้ำอ้อย ได้รับรองเพิ่มเติมว่า เราไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้ ขุดหลุมให้ลึกก็เป็นหลักที่มั่นคงให้กับเครื่องมือของพวกเราได้
พวกเขาทำงานต่ออีกพักหนึ่ง ถึงตอนที่ดาบเชียรใช้ไม้ตอกด้ามสิ่วไป ตอกมือตัวเองไป พ่อบุญยก ก็ตอกสิ่วจนด้ามสิ่วหักคามือ ก็พอได้เห็นงานเป็นรูปเป็นแล้ว จึงได้หยุดการทำงาน
ปู่ย่าตายาย ของเราทำเหมาะสมที่สุดแล้ว บากไม้ไป พักไป ทำอย่างอื่นสลับไป ชีวิตไม่ไช่เรื่องที่จะเนรมิต แต่เป็นเรื่องที่ใช้ความเพียร ความอุสาหะ ความอดทน และปู่ย่าตายายของเราก็ฉลาดล้ำที่ใส่ความรื่นรมย์สนุกสนานเข้าไปในระหว่างการใช้ความเพียร ความอุสาหะ ความอดทนนั้น
อ่านแล้วสนุกมากครับ
รวมเล่มเมื่อไหร่คงสุดยอดเลยครับ
ซาบซึ้งใจ ค่ะ อาจารย์กรุณาให้กำลังใจ
รู้สึกเกรงใจเวลาของอาจารย์ที่ต้องใช้ในการดูแลและติดตามเรื่องสำคัญต่าง ๆ หลาย ๆ ด้านที่อาจารย์รับผิดชอบ และยังต้องเจียดเวลามาอ่านและกรุณาให้ข้อคิดตลอดมา
ขอบพระคุณแทนคณะเจ้าของเรื่องด้วยค่ะ