หน้าแรก
สมาชิก
นาย ศราวุธ จ้อน อ...
สมุด
ครูพยาบาลกับการเร...
การแพทย์ทางเลือก
นาย ศราวุธ จ้อน อยู่เกษม
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การแพทย์ทางเลือก
การแพทย์ทางเลือก
ปัจจุบันมีการแพทย์ทางเลือกและการแพทย์แบบผสมผสานให้เลือกได้มากมายหลายแบบ
แต่การแพทย์เหล่านี้ยังไม่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรองผลได้อย่างเป็นทางการ
ดังนั้นจึงอาจนำมาใช้ได้แต่ควรใช้ร่วมกับการรักษาอย่างเป็นระบบเท่านั้น
และการเลือกใช้แต่ละชนิดควรพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด
เพื่อความแน่ใจว่าไม่เสียเวลาหรือเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
1.
การแพทย์แผนจีน
การแพทย์แบบจีนมีความเชื่อในพลังตามธรรมชาติของร่างกายที่ส่งผลต่อสุขภาพและการฟื้นหายจากความเจ็บป่วย
แม้จะยังไม่มีผลการวิจัยอย่างเป็นระบบรับรองประสิทธิภาพของการรักษา
แต่ก็พบว่าการรักษาส่วนใหญ่ปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพ
และกำลังได้รับการยอมรับให้เป็นการรักษาผสมผสานร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในโรงพยาบาลหลายแห่ง
-
การกดจุด
การกดจุดมีพื้นฐานมาจากความเชื่อเรื่องพลังชีวิตที่ไหลผ่านเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งมองไม่เห็นในร่างกาย
และเมื่อเส้นทางการไหลของพลังเหล่านี้เกิดติดขัดก็จะทำให้เกิดการเจ็บไข้ไม่สบาย
ในการบำบัดด้วยการกดจุดแพทย์จะกดนิ้วลงบนจุดต่าง ๆ ในร่างกายเพื่อแก้การไหลเวียนของพลังชีวิตให้กลับเป็นปกติ
แม้ว่าผลการรักษาจะยังไม่เป็นที่รับรองชัดเจน
แต่ผู้ป่วยหลายคนรายงานว่ารู้สึกสบายขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลจากแรงกดหรือความรู้สึกผ่อนคลายก็เป็นได้
-
การฝังเข็ม
การฝังเข็มมีที่มาจากแนวคิดเดียวกับการกดจุดนั่นเอง
และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในแวดวงการแพทย์แผนปัจจุบันเนื่องจากมีการวิจัยพบว่าการฝังเข็มสามารถบรรเทาปวดอย่างได้ผลในบางกรณี
และลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดได้ด้วย
นอกจากนี้ยังคาดว่าการฝังเข็มน่าจะได้ผลดีในการบำบัดอาการปวดเนื่องจากโรคมะเร็ง
โดยการบำบัดด้วยวิธีฝังเข็ม
แพทย์จะสอดเข็มเล่มบางยาวเข้าตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายและทิ้งค้างไว้ประมาณ
15-40
นาที
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการไหลและแก้ไขการอุดตันของพลังชีวิต
อาจมีการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้เข็มร้อนขึ้นด้วยมีรายงานว่าการฝังเข็มไม่ทำให้เจ็บปวดและบางคนพบว่าทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ผลเสียของการฝังเข็มเกิดขึ้นได้น้อยมาก
สิ่งสำคัญคือต้องการบำบัดโดยผู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ในสถาบันที่เชื่อถือได้
และมีการดูแลเรื่องสุขอนามัยความสะอาดของเครื่องมือต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด
-
ไท้เก๊ก
ท่ารำมวยจีน
หรือที่เรียกว่าไท้เก๊กนี้เป็นการออกกำลังที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ
เนื่องจากสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ด้วยการเคลื่อนไหวเนิบช้า
และยังทำให้ความยืดหยุ่นของร่างกายดีขึ้น
มีสมดุลของร่างกายดีขึ้นและลดความเครียดอย่างได้ผล
เนื่องจากการรำมวยจีนต้องผสานท่าทางเคลื่อนไหวเข้ากับการหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ
จึงทำให้เป็นการทำสมาธิอีกวิธี
ด้วยผลดีหลาย ๆ อย่างประกอบกันนี้เองจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ไม่สามารถออกกำลังอย่างหักโหมได้
2.
สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
แม้จะเป็นการใช้สมุนไพรเป็นยารักษาโรคกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล
และมีสมุนไพรบางอย่างที่ใช้บรรเทาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะอย่างได้ผล
แต่ส่วนใหญ่แล้วยังไม่มีรายงานถึงขนาดรับประทานที่เหมาะสมอย่างชัดเจนหรือรายงานถึงผลข้างเคียงในระยะยาว
รวมทั้งการเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการรักษาชนิดอื่น ๆ แม้จะมียาสมุนไพรวางขายตามท้องตลาดจำนวนมาก
แต่ผู้ใช้ยาเหล่านี้ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงและความคุ้มค่าด้วย
ทางที่ดีควรอ่านฉลากอย่างละเอียดถึงสรรพคุณ
ผลดี
และผลเสียของยา
ดูแหล่งที่ผลิตและบรรจุภัณฑ์เพื่อความแน่ใจในกระบวนการผลิต
เพราะนอกจากจะมีปัญหาเรื่องขนาดและส่วนผสมไม่ชัดเจนแล้ว
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำเร็จรูปที่วางขายอาจมีกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกสุขอนามัยเท่าที่ควร
ผู้ป่วยควรถามความเห็นแพทย์ว่าควรรับประทานยาสมุนไพรหรือไม่และควรบอกให้แพทย์ทราบหากรับประทานสารใดด้วยจุดมุ่งหมายเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ
เพื่อจะได้เป็นข้อมูลสำหรับแพทย์เพื่อพิจารณาหากเกิดอาการเปลี่ยนแปลงขึ้น
สำหรับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมต่าง ๆ อาจเลือกรับประทานสารที่มีแร่ธาตุและวิตามินบางอย่างซึ่งผลการศึกษาระบุว่าน่าจะมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพของต่อมลูกหมาย
หรือช่วยบรรเทาอาการของมะเร็งต่อมลูกหมากได้
อาทิ
-
ธาตุสังกะสี
จัดว่าเป็นสารธรรมชาติที่สำคัญต่อสุขภาพลูกหมาก
มีการศึกษาพบว่าธาตุสังกะสีมีประโยชน์ต่อการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
และพบว่าคนที่มีมะเร็งต่อมลูกหมากมีระดับธาตุสังกะสีในร่างกายต่ำกว่าปกติ
สารอาหารที่มีธาตุสังกะสีอยู่มาก
ได้แก่
หอยนางรม
เมล็ดฟักทอง
อัลมอนด์
ข้าวโอ๊ต
-
วิตามินบี
ได้แก่
บี
1
บี
2
บี
3
บี
6
บี
12
และกรดโฟลิค
เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย
นอกจากนี้วิตามินบี
6
ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุสังกะสีได้ดีขึ้น
จึงเป็นการเสริมสร้างสุขภาพต่อมลูกหมากได้ด้วย
แม้จะรับประทานอาหารได้ตามปกติร่างกายก็อาจได้รับวิตามินบีน้อยกว่าที่ควรได้เนื่องจากการใช้ยาบางชนิด
เช่น
ยาปฏิชีวนะ
ยาขับปัสสาวะ
หรือยาต้านโรคซึมเศร้าที่ทำให้ร่างกายต้องการวิตามินบี
6
มากขึ้น
-
อาหารที่มีวิตามินบี
6
มาก
ได้แก่
เมล็ดดอกทานตะวัน
ถั่วเหลือง
ลูกเดือย
ข้าวกล้อง
-
กรดไขมันโอเมก้า-
3
เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายเนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์
และสร้างฮอร์โมนต่าง ๆ เมื่ออยู่ในร่างกายกรดไขมันนี้จะเป็นสารเคมีที่มีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบ
และช่วยในการส่งคอเลสเตอรอล
และไตรกลีเซอไรด์ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายมีมากในน้ำมันจากพืชบางชนิด
เช่น
น้ำมันถั่วเหลือง
ส่วนกรดไขมันโอเมก้า-
3
พบได้มากในน้ำมันปลา
และเนื้อปลาต่าง ๆ ที่มีเนื้อแน่นและมัน
เช่น
ปลาดุก
ปลาแซลมอน
ปลาซาร์ดีน
-
วิตามินอี
นอกจากจะมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว
วิตามินอียังช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ด้วย
ร่างกายจะดูดซึมวิตามินอีที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้ดีกว่าวิตามินอีสังเคราะห์ถึงสองเท่า
อย่างไรก็ตามการปรุงอาหารด้วยความร้อนสูง
หรือแช่อาหารในช่องแข็งจะทำให้สูญเสียคุณค่าของวิตามินอีอาหารที่ให้วิตามินอีมาก
ได้แก่
ถั่วลันเตา
แตงกวา
หน่อไม้ฝรั่ง
ผักขม
และไข่แดง
-
วิตามินซี
เช่นเดียวกับวิตามินชนิดอื่น
วิตามินซีอาจช่วยลดพิษของสารเคมีและอนุมูลอิสระในร่างกาย
รวมทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายและควบคุมฮอร์โมนสร้างความเครียดให้อยู่ในระดับปกติ
อย่างไรก็ตามผลของวิตามินซีต่อมะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่เป็นที่รู้ชัด
วิตามินซีมีมากในผลไม้รสเปรี้ยว
และผักบางชนิด
เช่น
ผักคะน้า
บร็อคโคลี
ผักขม
พริกหวาน
3.
การบำบัดกายและใจ
การบำบัดกายและใจมีที่มาบนพื้นฐานความเชื่อว่าร่างกายและจิตใจมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
และมักใช้เพื่อลดความเครียดและความวิตกกังวลเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกสุขสบายโดยรวม
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอาจทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้นด้วย
แม้จะไม่สามารถรักษามะเร็งต่อมลูกหมากได้แต่ผู้ป่วยบางรายมีความรู้สึกว่าการบำบัดกายและใจมีผลทั้งทางกายและใจต่อความเจ็บป่วยของตน
-
การสะกดจิต
มีการสะกดจิตเพื่อให้หายจากโรคมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล
และในการแพทย์สมัยใหม่ได้มีความสนใจนำการสะกดจิตมาศึกษาและใช้งานในหลายสาขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบำบัดทางจิต
การสะกดจิตทำให้เกิดภาวะผ่อนคลายซึ่งจะทำให้จิตใจคุณเปิดกว้างและจดจ่อกับคำแนะนำ
ไม่มีใครรู้แน่ว่าการสะกดจิตส่งผลให้เกิดกลไกตอบสนองอย่างไรแต่คาดว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในคลื่นสมองเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยใช้เทคนิคการผ่อนคลาย
ระหว่างการบำบัดคุณจะได้รับคำแนะนำที่ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล
รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการบรรเทาอาการเจ็บป่วย
แต่การสะกดจิตไม่อาจบังคับให้ผู้ป่วยทำสิ่งที่ไม่ต้องการทำได้
-
การทำสมาธิ
การทำสมาธิช่วยให้กายและใจสงบลง
โดยมีที่มาจากการปฏิบัติทางศาสนาและวัฒนธรรม
การนั่งนิ่งตั้งใจจดจ่ออยู่ที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะพักอย่างลึกซึ้งและลดการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกาย
การหายใจเข้าออกช้าลง
กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
การทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเครียดและยังมีการวิจับพบว่าทำให้ความดันโลหิตลดลงได้ด้วย
-
การบำบัดด้วยดนตรี
การเต้นรำ
และงานศิลปะอื่น ๆ
การบำบัดด้วยศิลปะเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลายเท่านั้น
แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง
และความรู้สึกสุขสบายรวมทั้งลดอาการซึมเศร้าได้ด้วย
ปัจจุบันสถาบันสุขภาพหลายแห่งส่งเสริมการใช้ดนตรี
การเต้นรำ
และศิลปะเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและบางแห่งอาจมีโปรแกรมบำบัดสำหรับผู้ป่วย
-
โยคะ
โยคะเป็นศาสตร์ที่ปฏิบัติกันมานานหลายพันปี
โดยมีการผสมผสานทั้งท่วงท่า
การเคลื่อนไหว
และการหายใจ
พร้อมทั้งการผสมกลมกลืนร่างกายและจิตใจระหว่างการฝึก
ดังนั้นผู้ปฏิบัติจึงต้องจดจ่อกับการเคลื่อนไหวและลมหายใจเข้าออกของตน
จึงเสมือนการบริหารกายพร้อมทำสมาธิไปพร้อมกัน
โยคะช่วยลดความเจ็บปวด
ลดความเครียดและความวิตกกังวล
แต่การฝึกโยคะจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลอย่างแท้จริง
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นาย ศราวุธ จ้อน อยู่เกษม
ใน
ครูพยาบาลกับการเรียนการสอน
คำสำคัญ (Tags):
#การแพทย์ทางเลือก
หมายเลขบันทึก: 73164
เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2007 23:35 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:04 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นาย ศราวุธ จ้อน อ...
สมุด
ครูพยาบาลกับการเร...
การแพทย์ทางเลือก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท