การวิจัยบริสุทธิ์(Pure Research) เป็นการวิจัยเพื่อ"ค้นหา" กฎธรรมชาติ(Natural Laws) หรือ กฎเชิงประจักษ์ (Empirical Laws) ส่วนการวิจัยประยุกต์(Applied Research) นั้น เป็นการวิจัยเพื่อ "นำกฎธรรมชาติหรือกฎเชิงประจักษ์ไปใช้" และการนำกฎไปใช้ที่กล่าวนี้ก็หมายถึง "การนำไปใช้ควบคุม" เหตุการณ์ธรรมชาติ
นักวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆที่วิจัยเพื่อมุ่งหากฎเชิงประจักษ์ เรียกกันว่า "นักวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์" นักวิทยาศาสตร์ประเภทนี้ทางสายธรรมชาติ ก็ได้แก่ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น นักวิทยาศาสตร์สายสังคมศาสตร์ ก็ได้แก่ จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น
นักวิยาศาสตร์ที่วิจัยเพื่อ "ม่งการนำกฎไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน" เรียกกันว่า "นักวิทยาศาสตร์ประยุกต์" ถ้าเป็นสายวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ก็ได้แก่ แพทย์ศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น ถ้าเป็นสายวิทยาศาสตร์สังคม ก็ได้แก่ ศึกษาศาสตร์ พาณิชยศาสตร์ เป็ต้น
ในมหาวิทยาลัยทั่วโลกจะเปิดสอนทั้งสาขาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ เช่น คณะที่ชื่อวิทยาศาสตร์ คณะจิตวิทยา เป็ต้น สาขาวิทยาศาสตร์ประยุกค์ ก็เช่น คณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ เป็นต้น
วิทยาศาสตร์ประยุกต์นี้ บางทีก็เรียกกันว่า "เทคโนโลยี" แต่ไม่ค่อยพบคณะที่ชื่อ "คณะเทคโนโลยี" โดยตรง เคยพบแต่ "ลูกผสม" เช่น "คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี " ในบางมหาวิทยาลัย ที่ว่าเป็นลูกผสมก็คือ มีทั้ง "วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ และ วิทยาศาสตร์ประยุกต์" รวมอยู่ในที่เดียวกัน และทั้งยังมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นด้วย ซึ่งจัดเป็นประเภทเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน รวมอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน !!
ปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นจากปัญหาของ "กรอบความคิดในการจัดประเภทของศาสตร์" ของผู้ที่เสนอขออนุมัติจัดตั้งคณะ และของผู้ที่อนุมัติการจัดตั้งคณะ โน่นแหละครับ !!
และที่สำคัญก็คือ ถ้าคณะนั้นๆเป็นคณะทางวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ แต่อนุมัติให้นักศึกษาปริญญาโทเอกทำวิจัยเพื่อเสนอขอรับปริญญานั้นๆด้วย"การวิจัยแบบประยุกต์" หรือในทางกลับกัน คณะที่เป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แต่อนุมัติให้นักศึกษาระดับดังกล่าวทำวิจัยแบบ "วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์" แล้วละก้อ มันชวนหัวเราะเกี่ยวกับ "จุดยืน" อย่างยิ่งแหละครับ รวมทั้งเป็นการโฆษณาตัวเองอีกด้วย !! คิดว่าในเมืองเรายังไม่มีนะครับ และขออย่าให้มีอย่างว่านั้นเลยนะครับ
ยินดีครับ