วรรณศิลป์ "คู่ เทียมคู่ เทียมรถ เทียบรถ" ในกลอนอีสานลาว
คำสัมผัสอักษรในกลอนอ่านลาวอีสาน เป็นการใช้เสียงอักษรเดียวกันหรืออักษรเสียงคู่ (ข/ค, สศษ/ซ, ถฐ/ทธ, ผ/พภ, ฝ/ฟ, ห/ฮ, หน./นณ, หม./ม, หล./ลร) ในวรรคกลอนอ่านอักษรสังวาด ซึ่งกลอนอีสานลาวถือว่าสัมผัสอักษร หรือก่ายพยัญชนะในวรรคเดียวกันเป็นเอกลักษณ์ด้านวรรณศิลป์มาแต่โบราณ จนบรรพบุรุษนักกวีศิลป์มีคำเรียกการสัมผัส/ก่ายแบบนี้มา ดังนี้ (ใช้บท "โคเล" ในการยกตัวอย่าง)
๑. คู่ คือ สัมผัส/ก่ายอักษรในวรรคเดียวกัน ๒ คำ หรือบางตำราเรียก "เคียง" เช่น "..สารเสียปนแปดเปื้อน ปวงสิ่งโสภา.." สัมผัสคู่ ได้แก่ .สารเสีย.. และ ..สิ่งโส.. เป็นต้น
๒. เทียมคู่ คือสัมผัส/ก่ายอักษรในวรรคเดียวกัน ๓ คำ เช่น "..ดำด่างด้อย..", "..จาโจกจ้น..", "..ดีดั่งด้าม.." เป็นต้น
๓. เทียมรถ คือสัมผัส/ก่ายอักษรในวรรคเดียวกัน ๔ คำ เช่น "..ปนแปดเปื้อน ปวง..", "..มวลหมู่มารหมึน..", "..หยามหยันยุแยง" เป็นต้น
๔. เทียบรถ คือ สัมผัส/ก่ายอักษรในวรรคเดียวกัน ๕-๗ คำหรือมากกว่า เช่น "..สีสัน ทรุดโทรมเซซ้ำ", "..กลางก้วน กวนกินกรรมก่อ", "..ตานตามเติมต้อง ตัณ..", "ซวดซวด เส็งซั่วใซ้.." เป็นต้น
กลอนอ่านอักษรสังวาด ไม่เน้นสัมผัสสระวรรคต่อวรรค (เหมือนกลอนลำหรือกลอนอ่านวชิระปันตี) แต่เน้นสัมผัส/ก่ายอักษร (คู่ เทียมคู่ เทียมรถ เทียบรถ) ภายในวรรค
บทกวี “ โคเล ” ในฉันทลักษณ์ลาวอีสาน กลอนอ่านอักษรสังวาด
ไม่มีความเห็น