เตรียมตัวเตรียมใจไปออกทีวี
คนในบ้านซักถามกันยกใหญ่ว่าพ่อตื่นเต้นไหมที่จะได้ไปออกทีวี ผมก็เลยตอบด้วยเสียงที่ดังฟังชัดว่า..เฉยๆ ไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรสักเท่าไหร่ เพราะเคยออกมาสองครั้งแล้ว
ดูเหมือนคำตอบที่มีเหตุผลของผม จะไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือมากมายนัก เนื่องจากคนในบ้านเห็นผมตระเตรียมเอกสารโน่นนี่นั่นอยู่บ้างพอสมควร
ผมก็เลยต้องอธิบายเพิ่มเติมสั้นๆว่า การออกทีวีครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม และที่สำคัญเราต้องมีข้อมูล ตลอดจนต้องเตรียมตัวบ้าง เพื่อให้เกียรติทางรายการ ที่เขาสู้อุตส่าห์เชิญมา
สองครั้งก่อนโน้นมันก็นานมาแล้ว ทีวีเนชั่น ช่อง ๒๒ มาสัมภาษณ์ที่โรงเรียนและออกอากาศในวันครูปี ๒๕๕๙ หัวข้อเกี่ยวกับการยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก
วันนั้นถามสดไม่ให้ผมเตรียมตัวแต่อย่างใด ก็เลยตอบผู้ดำเนินรายการไปว่า น่าจะยุบยาก เพราะในชุมชนหมู่บ้านยังมีเด็กให้มาโรงเรียน ชาวบ้านก็คงไม่ยอมง่ายๆ
ในส่วนที่จะบริหารกันอย่างไรนั้น ผมก็บอกว่าต้องอยู่ให้ได้ โดยที่ไม่หนีปัญหา ด้วยการบริหารจัดการตามบริบท จะช่วยทำให้ก้าวข้ามปัญหาอุปสรรค แม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม
ตอนนั้นครูธุรการและภารโรงก็ไม่มี แต่คิดว่าแค่มีครูก็อยู่ได้แล้ว ในที่สุดการยุบควบรวมโรงเรียน ทำได้อย่างกระท่อนกระแท่น โรงเรียนขนาดเล็กทั่วทุกภูมิภาคก็อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาจนถึงทุกวันนี้
ครั้งที่สองตื่นเต้นกว่า แทบไม่มีเวลาเตรียมตัว ถ่ายทำวันเดียวและเทคเดียวผ่าน ในรายการ”โรงเรียนคุณธรรม” ออกอากาศช่องไทยพีบีเอส ในเดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๖๐
ผู้กำกับรายการให้ผมจัดการเรียนการสอนให้ดู โดยไม่มีสคริ๊ป จากนั้นก็สอบถามแนวคิดในการบริหารโรงเรียนและการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
วันนั้นบรรยากาศการถ่ายทำเป็นไปด้วยความเรียบง่าย คือผมเคยทำอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้น ส่วนการสัมภาษณ์ผมตอบสั้นๆว่า ชีวิตจะต้องพอเพียงทั้งวิธีคิดและวิธีทำ แต่ต้องทำจริงอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงทำงานเพื่อสร้างภาพไปวันๆ
กระบวนการการทำงานที่ผ่านมาหลายปี พอเกษียณแล้ว ผมนำเสนอรายงานไปที่ศูนย์คุณธรรม(องค์การมหาชน) จึงเป็นที่มาของรางวัล “คุณธรรมอวอร์ด” และรับรางวัลเมื่อปี ๒๕๖๗
เงื่อนไขอย่างหนึ่งของรางวัลนี้ จะมีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ผมจึงต้องไปบันทึกเทปที่สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ซึ่งอยู่อาคารรัฐสภาใหม่ ในรายการ “คุณธรรม คุณทำได้”
ผู้จัดรายการโทรมาถามผมว่า “คุณชยันต์สะดวกไหมคะ” เท่านั้นเอง ผมรีบตอบรับในทันทีแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะผมกำลังต้องการสร้างสีสันให้ชีวิตบ้างตามสมควรแก่วัยและเวลา
กำหนดนัดหมายในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ผู้จัดรายการเน้นย้ำว่า อาจได้เข้าบันทึกเร็ว กรุณามาก่อนเวลานัดหมาย 30 นาที
ประโยคสุดท้ายก่อนวางสาย “การสัมภาษณ์เป็นแบบบันทึกเทปรอบเดียวค่ะ เหมือนการถ่ายทอดสด และใช้เวลาในการสัมภาษณ์ 15-20 นาที ไม่มีเทคสำรองนะคะ”
จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ผมจะต้องเตรียมตัวเองเล็กน้อย โดยค้นหาเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าไทยที่ไม่ได้ใส่นานแล้วก็ต้องนำออกมา ส่วนเตรียมใจนั้นทำยังไงจะไม่ให้ตื่นเต้น อันนี้ก็ต้องหมั่นออกกำลัง
หัวใจของคนวัยเกษียณจะได้แข็งแรงแจ่มใส ไม่วูบไหวหรือเป็นลมล้มหงายกลางเวทีในห้องส่งสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ไม่งั้นจะอายเขาตายเลย.
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๗ มกราคม ๒๕๖๘