ยกระดับทักษะแห่งอนาคตด้วย Neuro-Linguistic Programming (NLP) Patterns


ยกระดับทักษะแห่งอนาคตด้วย Neuro-Linguistic Programming (NLP) Patterns 

(Future-Proof Your Skills with Neuro-Linguistic Programming (NLP) Patterns. Unlock your hidden potential)

 

World Economic Forum ได้ระบุทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 ไว้ ซึ่งทักษะการเป็นผู้นำก็เป็นหนึ่งในนั้น บทความนี้นำเสนอสาระเกี่ยวกับ Neuro-Linguistic Programming หรือ NLP และการใช้เทคนิคหรือ NLP Patterns สำหรับพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำในปี 2025

ลองนึกภาพว่าเรามี "คู่มือการใช้งานสมอง" ที่ช่วยให้เราเข้าใจ และควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของตัวเองได้ นั่นแหละคือ Neuro-Linguistic Programming (NLP) แบบง่ายๆ

NLP เป็นเหมือนชุดเครื่องมือ ที่มีเทคนิคต่างๆ ช่วยให้เรา

  • เข้าใจว่าสมองทำงานอย่างไร: เราคิด รู้สึก และตัดสินใจอย่างไร
  • เปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรม: เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เช่น จัดการความเครียด เพิ่มความมั่นใจ สร้างแรงจูงใจ สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เรียนรู้จากประสบการณ์: NLP เชื่อว่า ทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลง เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง และคนอื่นๆ เพื่อพัฒนาตนเอง

NLP เปรียบเหมือน "การเขียนโปรแกรมสมอง"เพื่อให้เราใช้ศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาเรารู้สึกกลัว ศาสตร์ NLP จะช่วยให้เรา

  • เข้าใจ: ว่าความกลัวเกิดจากอะไร (เช่น ความคิด ภาพในหัว)
  • เปลี่ยนแปลง: ความคิด และ มุมมอง (เช่น มองความกลัวเป็นความท้าทาย)
  • ควบคุม: อารมณ์ และ พฤติกรรม (เช่น หายใจลึกๆ ผ่อนคลาย)

ดังนั้น NLP เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ที่สามารถช่วยให้เรา

  • มีความสุข: จัดการกับความเครียด ความวิตกกังวล และ อารมณ์ด้านลบ
  • ประสบความสำเร็จ: เพิ่มความมั่นใจ แรงจูงใจ และ ทักษะการสื่อสาร
  • มีชีวิตที่ดีขึ้น: สร้างความสัมพันธ์ที่ดี บรรลุเป้าหมาย และ ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย

 

World Economic Forum ได้ระบุทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 ซึ่งศาสตร์ Neuro-Linguistic Programming (NLP) มี Pattern หลายแบบที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้ ลองดูตัวอย่างพร้อมวิธีการใช้ดังนี้

 

1. สร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อผู้อื่น (Inspiring and Influencing)

ความสำคัญ: ผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจได้ จะช่วยให้ทีมงานมีเป้าหมายร่วมกัน มีความมุ่งมั่น และพร้อมเผชิญกับความท้าทายต่างๆ

  • Pattern: Anchoring การสร้างจุดยึดเหนี่ยวทางความคิดและอารมณ์ เช่น เมื่อนึกถึงความสำเร็จในอดีต (ภาพ, เสียง, ความรู้สึก) จะเกิดความมั่นใจ ผู้นำสามารถใช้ Anchoring สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมงาน เช่น เล่าเรื่องราวความสำเร็จขององค์กรในอดีต พร้อมกับใช้ภาษากายที่แสดงถึงความมั่นใจ เพื่อกระตุ้นให้ทีมงานรู้สึกมีพลังและมุ่งมั่น
  • Pattern: Reframing การมองสถานการณ์ในมุมมองใหม่ เช่น เปลี่ยน "ปัญหา" เป็น "โอกาส" ผู้นำสามารถใช้ Reframing ช่วยให้ทีมงานมองอุปสรรคเป็นความท้าทาย มองหาโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต

ตัวอย่าง: คุณสมชาย ผู้นำทีมขาย มักจะเล่าเรื่องราวความสำเร็จของทีมในอดีตให้พนักงานฟัง เช่น "จำได้ไหมครับ ตอนที่เราปิดการขายโปรเจคใหญ่ได้ ทุกคนช่วยกันเต็มที่ จนประสบความสำเร็จเกินเป้า!" พร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ และยกมือขึ้นกำหมัด สร้างความรู้สึกฮึกเหิม พนักงานขายต่างก็รู้สึกมีพลัง และมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย

ตัวอย่าง: บริษัทกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ คุณหญิง CEO ของบริษัท กล่าวกับพนักงานว่า "ดิฉันทราบว่าทุกคนกังวลกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่นี่คือโอกาสที่เราจะปรับตัว พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน!" คำพูดของคุณหญิง ทำให้พนักงานมองเห็นโอกาสในการเติบโต แทนที่จะจมอยู่กับความกลัว

 

2. การคิดเชิงวิพากษ์และการวิเคราะห์ (Critical Thinking and Analysis)

ความสำคัญ: ผู้นำต้องวิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหา และข้อมูลต่างๆ อย่างรอบด้าน เพื่อตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

  • Pattern: Meta Model การตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและเจาะลึก เช่น "คุณหมายความว่าอย่างไร?" หรือ "อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณคิดเช่นนั้น?" ผู้นำสามารถใช้ Meta Model ในการวิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหา และความต้องการของทีมงาน เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
  • Pattern: Visual Squash การรวมความคิดที่ขัดแย้งกัน ผู้นำสามารถใช้ Visual Squash เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในทีม โดยให้แต่ละฝ่ายแสดงความคิดเห็น จากนั้นหาจุดร่วม เพื่อให้เกิดแนวทางที่ทุกคนยอมรับ

ตัวอย่าง: ทีมงานกำลังถกเถียงกันเรื่องแผนการตลาด คุณสมศักดิ์ หัวหน้าทีม ถามว่า "เมื่อกี้คุณพูดว่าแผนนี้ 'ใช้ไม่ได้' คุณหมายความว่าอย่างไรครับ? อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าใช้ไม่ได้?" คำถามนี้ช่วยให้ ทีมงานอธิบายรายละเอียด และเหตุผลของความคิดเห็น ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันมากขึ้น

ตัวอย่าง: ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีความเห็นไม่ตรงกัน เรื่องดีไซน์ของสินค้า คุณอารยา Project Manager ใช้ Visual Squash โดยให้แต่ละฝ่ายเขียนข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละดีไซน์ จากนั้นนำมาเปรียบเทียบ และหาจุดร่วม จนได้ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ และทุกคนยอมรับ

 

3. การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem-Solving)

ความสำคัญ: โลกยุคปัจจุบัน มีปัญหาที่ซับซ้อน ผู้นำต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และ มองปัญหาจากหลายมุมมอง เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด

  • Pattern: Disney Strategy การมองปัญหาจาก 3 มุมมอง คือ ผู้ใฝ่ฝัน นักวิจารณ์ และนักปฏิบัติ ผู้นำสามารถใช้  Disney Strategy ในการระดมสมอง โดยให้ทีมงานแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มรับบทบาทแตกต่างกัน เพื่อให้ได้แนวทางแก้ปัญหาที่หลากหลายและรอบด้าน
  • Pattern: Six Step Reframing การหาทางเลือกในการแก้ปัญหา โดยเปลี่ยนกรอบความคิดเดิมๆ ผู้นำสามารถใช้ Six Step Reframing เพื่อช่วยให้ทีมงานมองเห็นทางออกของปัญหาที่หลากหลายขึ้น

ตัวอย่าง: บริษัทต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ คุณสุชาติ กรรมการผู้จัดการ ใช้ Disney Strategy โดยแบ่งทีมงานออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก "ผู้ใฝ่ฝัน" คิดไอเดีย สร้างสรรค์ กลุ่มที่สอง "นักวิจารณ์" วิเคราะห์ความเป็นไปได้ กลุ่มที่สาม "นักปฏิบัติ" วางแผน และ ลงมือทำ ทำให้ได้แผนการขยายตลาดที่ ครอบคลุม และ มีประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง: ยอดขายตกต่ำ คุณนารี ผู้จัดการฝ่ายขาย ใช้ Six Step Reframing โดยตั้งคำถามกับทีม เช่น "อะไรคือข้อจำกัดของวิธีการขายแบบเดิม?" "ลูกค้าต้องการอะไร?" "มีช่องทางการขายแบบใหม่ๆ อะไรบ้าง?" คำถามเหล่านี้ กระตุ้นให้ทีมงานคิดนอกกรอบ และ หาแนวทางแก้ปัญหาใหม่ๆ

 

4. ความยืดหยุ่นและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง (Resilience and Adaptability)

ความสำคัญ: โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้นำต้องปรับตัว และ รับมือกับความไม่แน่นอนได้

  • Pattern: Perceptual Positions การมองสถานการณ์จากมุมมองของตนเอง ผู้อื่น และบุคคลที่ 3 ผู้นำสามารถใช้ Perceptual Positions เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ ความรู้สึก และความต้องการของผู้อื่น ซึ่งช่วยให้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น
  • Pattern: State Management การควบคุมอารมณ์และความคิด ผู้นำสามารถใช้ State Management เพื่อจัดการกับความเครียด ความกดดัน และอารมณ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถตัดสินใจและนำทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง: พนักงานลาออก คุณวรพจน์ หัวหน้าแผนก ใช้ Perceptual Positions โดยพยายามทำความเข้าใจ มุมมองของพนักงาน (เช่น ต้องการความก้าวหน้า เงินเดือนน้อย) และ มุมมองของบริษัท (เช่น กำลังขาดทุน ไม่สามารถขึ้นเงินเดือนได้) เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เช่น มอบหมายงานที่ท้าทายมากขึ้น หรือ ให้โบนัสพิเศษ

ตัวอย่าง: เกิดปัญหาใหญ่ คุณจันทร์เพ็ญ ผู้บริหาร รู้สึกเครียด และ กังวล แต่เธอใช้เทคนิค State Management เช่น การหายใจลึกๆ การนึกถึงภาพที่สงบ เพื่อควบคุมอารมณ์ และ กลับมามีสติ ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

ความสำคัญ: ผู้นำต้องเข้าใจ และ จัดการอารมณ์ของตนเอง และ ผู้อื่น เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี และ ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

  • Pattern: Rapport การสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ผู้นำสามารถใช้ Rapport เพื่อสร้างความไว้วางใจ ความเข้าใจ และความร่วมมือในทีม
  • Pattern: Calibration การสังเกตและเข้าใจภาษากาย น้ำเสียง และอารมณ์ของผู้อื่น ผู้นำสามารถใช้ Calibration เพื่อรับรู้ถึงความรู้สึกของทีมงาน และปรับการสื่อสารให้เหมาะสม

ตัวอย่าง: คุณกฤษณ์ ผู้นำทีม สร้าง Rapport กับลูกทีม โดยการพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ให้ความช่วยเหลือ และ สนับสนุน ทำให้ลูกทีมรู้สึก ไว้วางใจ และ เคารพ

ตัวอย่าง: คุณสุภาวดี หัวหน้าฝ่ายบุคคล สังเกตเห็นว่า พนักงานคนหนึ่ง มีสีหน้าไม่ดี และ พูดจาเสียงเบา เธอจึงเข้าไปพูดคุย และ รับฟังปัญหา ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ทำให้พนักงานรู้สึกสบายใจ และ กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก

 

6. การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ความสำคัญ: ผู้นำต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาตนเอง และ องค์กร

  • Pattern: Modeling การเรียนรู้จากแบบอย่าง ผู้นำสามารถใช้ Modeling โดยการศึกษา สังเกต และเรียนรู้จากผู้นำที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาตนเอง
  • Pattern: Meta Programs การเข้าใจรูปแบบการคิดและการตัดสินใจของตนเอง ผู้นำสามารถใช้ Meta Programs เพื่อพัฒนาจุดแข็ง และปรับปรุงจุดอ่อนของตนเอง

ตัวอย่าง: คุณธนากร อยากเป็นผู้นำที่ดี เขาจึงศึกษา วิธีการทำงาน และ การตัดสินใจของ Steve Jobs ซึ่งเป็นผู้นำที่เขาชื่นชม เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานของตนเอง

ตัวอย่าง: คุณอรุณี รู้ตัวว่า เธอเป็นคน ชอบ มองภาพรวม และ ไม่ชอบรายละเอียด เธอจึงฝึกฝน การใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

การใช้ NLP Patterns เหล่านี้ จะทำให้ผู้นำสามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็น เพื่อนำทีมให้ประสบความสำเร็จในยุคที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง 

 

สนใจการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตตอบโจทย์ทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 ด้วยศาสตร์ Neuro-Linguistic Programming (NLP) โดยแบรนด์ LIFE ALIGNMENTOR ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการ Accreditationด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคล ทีม และองค์กรในระดับสากล เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาผลิตภาพของบุคลากร ทีมและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ

เดชฤทธิ์ กรุ๊ป

ที่ปรึกษากลยุทธ์การจัดการองค์กร ทีม และการยกระดับศักยภาพบุคลากรสู่ความเป็นเลิศด้วยกระบวนการ “พัฒนาคนให้เก่งสร้างทีมแกร่งกระบวนการเยี่ยมผลลัพธ์ยอด”

ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor
บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ

#เดชฤทธิ์กรุ๊ป 

#Dechritgroup 

#10Xconsulting 

#lifealignmentor

พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก
www.10-xconsulting.com

ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี

“ผสานความดีxความเก่ง”

www.lifealignmentor.com

ติดต่อสอบถาม:

LINE OFFICIAL: @10xconsulting, @lifealignmentor

หมายเลขบันทึก: 720462เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2025 12:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม 2025 12:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย