ยกระดับทักษะแห่งอนาคตด้วย Neuro-Linguistic Programming (NLP) Patterns
(Future-Proof Your Skills with Neuro-Linguistic Programming (NLP) Patterns. Unlock your hidden potential)
World Economic Forum ได้ระบุทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 ไว้ ซึ่งทักษะการเป็นผู้นำก็เป็นหนึ่งในนั้น บทความนี้นำเสนอสาระเกี่ยวกับ Neuro-Linguistic Programming หรือ NLP และการใช้เทคนิคหรือ NLP Patterns สำหรับพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำในปี 2025
ลองนึกภาพว่าเรามี "คู่มือการใช้งานสมอง" ที่ช่วยให้เราเข้าใจ และควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของตัวเองได้ นั่นแหละคือ Neuro-Linguistic Programming (NLP) แบบง่ายๆ
NLP เป็นเหมือนชุดเครื่องมือ ที่มีเทคนิคต่างๆ ช่วยให้เรา
NLP เปรียบเหมือน "การเขียนโปรแกรมสมอง"เพื่อให้เราใช้ศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาเรารู้สึกกลัว ศาสตร์ NLP จะช่วยให้เรา
ดังนั้น NLP เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ที่สามารถช่วยให้เรา
World Economic Forum ได้ระบุทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 ซึ่งศาสตร์ Neuro-Linguistic Programming (NLP) มี Pattern หลายแบบที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้ ลองดูตัวอย่างพร้อมวิธีการใช้ดังนี้
1. สร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อผู้อื่น (Inspiring and Influencing)
ความสำคัญ: ผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจได้ จะช่วยให้ทีมงานมีเป้าหมายร่วมกัน มีความมุ่งมั่น และพร้อมเผชิญกับความท้าทายต่างๆ
ตัวอย่าง: คุณสมชาย ผู้นำทีมขาย มักจะเล่าเรื่องราวความสำเร็จของทีมในอดีตให้พนักงานฟัง เช่น "จำได้ไหมครับ ตอนที่เราปิดการขายโปรเจคใหญ่ได้ ทุกคนช่วยกันเต็มที่ จนประสบความสำเร็จเกินเป้า!" พร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ และยกมือขึ้นกำหมัด สร้างความรู้สึกฮึกเหิม พนักงานขายต่างก็รู้สึกมีพลัง และมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย
ตัวอย่าง: บริษัทกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ คุณหญิง CEO ของบริษัท กล่าวกับพนักงานว่า "ดิฉันทราบว่าทุกคนกังวลกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่นี่คือโอกาสที่เราจะปรับตัว พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน!" คำพูดของคุณหญิง ทำให้พนักงานมองเห็นโอกาสในการเติบโต แทนที่จะจมอยู่กับความกลัว
2. การคิดเชิงวิพากษ์และการวิเคราะห์ (Critical Thinking and Analysis)
ความสำคัญ: ผู้นำต้องวิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหา และข้อมูลต่างๆ อย่างรอบด้าน เพื่อตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
ตัวอย่าง: ทีมงานกำลังถกเถียงกันเรื่องแผนการตลาด คุณสมศักดิ์ หัวหน้าทีม ถามว่า "เมื่อกี้คุณพูดว่าแผนนี้ 'ใช้ไม่ได้' คุณหมายความว่าอย่างไรครับ? อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าใช้ไม่ได้?" คำถามนี้ช่วยให้ ทีมงานอธิบายรายละเอียด และเหตุผลของความคิดเห็น ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันมากขึ้น
ตัวอย่าง: ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีความเห็นไม่ตรงกัน เรื่องดีไซน์ของสินค้า คุณอารยา Project Manager ใช้ Visual Squash โดยให้แต่ละฝ่ายเขียนข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละดีไซน์ จากนั้นนำมาเปรียบเทียบ และหาจุดร่วม จนได้ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ และทุกคนยอมรับ
3. การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem-Solving)
ความสำคัญ: โลกยุคปัจจุบัน มีปัญหาที่ซับซ้อน ผู้นำต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และ มองปัญหาจากหลายมุมมอง เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ตัวอย่าง: บริษัทต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ คุณสุชาติ กรรมการผู้จัดการ ใช้ Disney Strategy โดยแบ่งทีมงานออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก "ผู้ใฝ่ฝัน" คิดไอเดีย สร้างสรรค์ กลุ่มที่สอง "นักวิจารณ์" วิเคราะห์ความเป็นไปได้ กลุ่มที่สาม "นักปฏิบัติ" วางแผน และ ลงมือทำ ทำให้ได้แผนการขยายตลาดที่ ครอบคลุม และ มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่าง: ยอดขายตกต่ำ คุณนารี ผู้จัดการฝ่ายขาย ใช้ Six Step Reframing โดยตั้งคำถามกับทีม เช่น "อะไรคือข้อจำกัดของวิธีการขายแบบเดิม?" "ลูกค้าต้องการอะไร?" "มีช่องทางการขายแบบใหม่ๆ อะไรบ้าง?" คำถามเหล่านี้ กระตุ้นให้ทีมงานคิดนอกกรอบ และ หาแนวทางแก้ปัญหาใหม่ๆ
4. ความยืดหยุ่นและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง (Resilience and Adaptability)
ความสำคัญ: โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้นำต้องปรับตัว และ รับมือกับความไม่แน่นอนได้
ตัวอย่าง: พนักงานลาออก คุณวรพจน์ หัวหน้าแผนก ใช้ Perceptual Positions โดยพยายามทำความเข้าใจ มุมมองของพนักงาน (เช่น ต้องการความก้าวหน้า เงินเดือนน้อย) และ มุมมองของบริษัท (เช่น กำลังขาดทุน ไม่สามารถขึ้นเงินเดือนได้) เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เช่น มอบหมายงานที่ท้าทายมากขึ้น หรือ ให้โบนัสพิเศษ
ตัวอย่าง: เกิดปัญหาใหญ่ คุณจันทร์เพ็ญ ผู้บริหาร รู้สึกเครียด และ กังวล แต่เธอใช้เทคนิค State Management เช่น การหายใจลึกๆ การนึกถึงภาพที่สงบ เพื่อควบคุมอารมณ์ และ กลับมามีสติ ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
ความสำคัญ: ผู้นำต้องเข้าใจ และ จัดการอารมณ์ของตนเอง และ ผู้อื่น เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี และ ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น
ตัวอย่าง: คุณกฤษณ์ ผู้นำทีม สร้าง Rapport กับลูกทีม โดยการพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ให้ความช่วยเหลือ และ สนับสนุน ทำให้ลูกทีมรู้สึก ไว้วางใจ และ เคารพ
ตัวอย่าง: คุณสุภาวดี หัวหน้าฝ่ายบุคคล สังเกตเห็นว่า พนักงานคนหนึ่ง มีสีหน้าไม่ดี และ พูดจาเสียงเบา เธอจึงเข้าไปพูดคุย และ รับฟังปัญหา ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ทำให้พนักงานรู้สึกสบายใจ และ กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก
6. การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
ความสำคัญ: ผู้นำต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาตนเอง และ องค์กร
ตัวอย่าง: คุณธนากร อยากเป็นผู้นำที่ดี เขาจึงศึกษา วิธีการทำงาน และ การตัดสินใจของ Steve Jobs ซึ่งเป็นผู้นำที่เขาชื่นชม เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานของตนเอง
ตัวอย่าง: คุณอรุณี รู้ตัวว่า เธอเป็นคน ชอบ มองภาพรวม และ ไม่ชอบรายละเอียด เธอจึงฝึกฝน การใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การใช้ NLP Patterns เหล่านี้ จะทำให้ผู้นำสามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็น เพื่อนำทีมให้ประสบความสำเร็จในยุคที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
สนใจการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตตอบโจทย์ทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 ด้วยศาสตร์ Neuro-Linguistic Programming (NLP) โดยแบรนด์ LIFE ALIGNMENTOR ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการ Accreditationด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคล ทีม และองค์กรในระดับสากล เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาผลิตภาพของบุคลากร ทีมและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ
เดชฤทธิ์ กรุ๊ป
ที่ปรึกษากลยุทธ์การจัดการองค์กร ทีม และการยกระดับศักยภาพบุคลากรสู่ความเป็นเลิศด้วยกระบวนการ “พัฒนาคนให้เก่งสร้างทีมแกร่งกระบวนการเยี่ยมผลลัพธ์ยอด”
ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor
บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ
#เดชฤทธิ์กรุ๊ป
#Dechritgroup
#10Xconsulting
#lifealignmentor
พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก
www.10-xconsulting.com
ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี
“ผสานความดีxความเก่ง”
ติดต่อสอบถาม:
LINE OFFICIAL: @10xconsulting, @lifealignmentor
ไม่มีความเห็น