ช่วงนี้กำลัง Capture เกี่ยวกับ Disaster ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศไทย ทำให้ต้องกลับไป review หนังสือที่เขียนให้กับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งมีงานวิจัยเกี่ยวกับการเกิดสึนามิและการจัดการด้านการแพทย์ฉุกเฉินโดย พันเอก ดร.นพ.ทนงสรรค์เทียนถาวร Tan Tienthavorn แต่ค้นหาแล้วตามเล่มเต็มฉบับไม่เจอ ไม่รู้ไปเก็บไว้ที่ไหน
20 กว่าปีผ่านมา ระบบการจัดการและช่วยเหลือทันสมัยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์ก็ยังไม่สามารถเอาชนะภัยพิบัติจากธรรมชาติไม่ได้ แม้จะมีระบบการเตือนภัยที่ดี ที่แม่นยำก็ตาม
**การจัดการภัยพิบัติ** เป็นกระบวนการที่มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยพิบัติจากมนุษย์ โดยแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
### 1. การเตรียมพร้อม (Preparedness)
การเตรียมพร้อมคือการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรม การวางแผน การจัดเตรียมทรัพยากร และการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ตัวอย่างเช่น:
- การฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน
- การติดตั้งระบบเตือนภัย
- การสำรองอาหาร น้ำ และเวชภัณฑ์
### 2. การตอบสนอง (Response)
เมื่อเกิดภัยพิบัติ การตอบสนองเป็นขั้นตอนที่เน้นการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตและบรรเทาความเดือดร้อน เช่น:
- การอพยพผู้คน
- การจัดส่งทีมกู้ภัย
- การจัดตั้งศูนย์พักพิงฉุกเฉิน
- การให้บริการทางการแพทย์
### 3. การฟื้นฟู (Recovery)
หลังจากภัยพิบัติสิ้นสุดลง กระบวนการฟื้นฟูจะเน้นการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและฟื้นฟูชุมชนให้กลับคืนสู่สภาพเดิมหรือดีกว่า เช่น:
- การฟื้นฟูบ้านเรือน
- การซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
- การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาแก่ผู้ประสบภัย
### 4. การบรรเทาผลกระทบ (Mitigation)
ขั้นตอนนี้คือการวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายจากภัยพิบัติในอนาคตโดยใช้วิธีการทางเทคนิคหรือการออกกฎหมาย เช่น:
- การก่อสร้างเขื่อนหรือพนังกั้นน้ำ
- การจัดการพื้นที่เสี่ยง
- การสร้างอาคารให้ทนต่อแผ่นดินไหว
การจัดการภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพต้องใช้การทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาลองค์กรเอกชน และชุมชน
ไม่มีความเห็น