เส้นทางนักเขียน...
ผมเคยเขียนฝันไว้ที่ข้างฝา ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ว่าสักวันต้องเป็น”นักเขียน”ให้ได้ แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้เป็นดั่งที่ได้ใฝ่ฝันเอาไว้ แต่ความรู้สึกส่วนลึกก็พอจะสัมผัสแววได้บ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
เมื่อเรียนวิชาเอกภาษาไทย ในวิทยาลัยครู วันนั้นน่าจะเป็นก้าวที่เข้าใกล้ที่สุดแล้ว แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมช่วงนั้นถึงไม่มีผลงานเลย คงเป็นเพราะขยันค้นคว้าหาความรู้เพื่อเรียนให้จบ มากกว่าที่จะเขียนหนังสืออย่างจริงจังตามที่หวังไว้
ผมมักจะอ้างเวลาและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ที่เป็นปัญหาและอุปสรรคอยู่เสมอ ทำให้ขาดแรงบันดาลใจ คำถามที่ต้องมองกลับไป แล้วทำไมตอนที่เป็น “ครู”อยู่ภาคอีสาน มีทั้งเวลาและบรรยากาศ ไฉนจึงไม่เพียรพยายามสร้างผลงานการเขียนออกมา
นี่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า..ความฝันของผมไม่มีพลังและยังตกผลึกไม่มากพอนั่นเอง
ชีวิตกับงานเขียน มาก่อตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อเป็นศึกษานิเทศก์ ทำงานในดินแดนที่เต็มไปด้วยขุนเขาและป่าไม้ ความเงียบรอบๆตัว..ช่วยให้ผลิตงานบทความและบทกวี ตีพิมพ์อยู่ในนิตยสารและวารสาร
ต่อเมื่อมาเป็นผู้บริหารโรงเรียน ก็พบจุดหักเหหรือหัวเลี้ยวหัวต่อ ภาระงานมากมายส่งสัญญาณว่าจะไปต่อด้านการเขียนหรือไม่ หรือจะพอแค่นี้ ผมเพิ่งจะตัดสินใจได้เมื่อ ๑๐ กว่าปีมานี้เอง
เมื่อเป็นนักเขียนมืออาชีพไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะเขียนหนังสือไม่ได้ และสนามฝึกซ้อมก็ยังมีมากพอ ที่จะช่วยให้ฝึกทักษะ”การเขียน”ได้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ต้องเปลี่ยนเป้าประสงค์ ลดทอนความฝันให้เล็กลง
คงเหลือไว้ซึ่งการเขียนเพื่อสั่งสมประสบการณ์ เขียนเรื่องงานเอาไว้เป็นตำนานชีวิต และเพื่อพัฒนาสมอง ป้องกันการหลงลืมก่อนเวลาอันควรก็พอ
ผมจึงเริ่มเขียน”เล่าเรื่อง”อย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๙ เขียนเก็บไว้ในแฟ้มสะสมงาน อย่างต่อเนื่องมาตลอด ๕ ปี ก่อนที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกใน WWW.GOTOKNOW.ORG ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วเขียนอย่างเป็นระบบเกือบทุกวัน ในบล็อคที่ผมเปิดการบันทึกไว้จำนวน ๖ บล็อค หรือ ๖ หัวข้อเรื่อง
ประกอบด้วย เรื่องเล่าจากโรงเรียนเล็ก ศาสตร์พระราชาสู่สถานศึกษาพอเพียง ตามรอยพระราชดำริฝันให้ไกลไปให้ถึง โคกหนองนาพาเพลิน เส้นทางชีวิตลิขิตไว้ให้รื่นรมย์ สารคดีไดอารี่ชีวิต และเรียงถ้อยร้อยอักษราสัญญาใจ
เรื่องเล่าดังกล่าว จะเขียนง่ายกว่างานเขียนอื่นๆ เพราะเป็นการเขียนเล่าเรื่องจากประสบการณ์การทำงาน การใช้ชีวิต ที่จะต้องพัฒนาตนเอง เพื่อครองตน ครองคน และครองงานของผม ตลอด ๑๗ ปีที่ผ่านมา ผมจะนำมาเขียนอย่างละเอียดและมีภาพประกอบทุกเรื่อง
ผมคิดว่าทักษะการเขียนที่ผมฝึกปรือจากเรื่องเล่า ที่มีมากกว่า ๒,๐๐๐ เรื่อง อาจเป็นเส้นทางที่ช่วยทำให้ผมเดินทางไปสู่การเป็น”นักเขียน”ได้ หากผมไม่ถอดใจและอายุยังไม่เกิน ๗๐ ปี งานชิ้นต่อไป ผมฝันไว้อยากมีผลงานรวมเรื่องสั้นกับนวนิยายกับเขาบ้าง
งานเขียนประเภท”เรื่องเล่า” ของผมที่ผมตีพิมพ์เป็นเล่มเรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด ๕ เรื่อง มีวางจำหน่ายแบบ E- book ใน MEBMARKET.COM
MEB เป็นตลาดหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่มาก มีหนังสือทุกประเภท พอผมมีผลงานไปวางในแผงของMEB ทีมงานเขาจะไม่คิดตังค์ แถมเรียกผมว่าคุณ”นักเขียน” ได้ยินได้ฟังแค่นี้ ผมก็ดีใจแล้ว
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๔ กันยายน ๒๕๖๗
ต้องขอบคุณ อ.ชยันต์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของการเขียนหนังสือฯ และตอนนี้ก็มี MEBmarket.com ที่รับพิมพ์เรื่องดีๆ ของ อ.ชยันต์ไว้หลายเล่ม ทำให้ผมติดต่อเป็น Meb Account ไว้แล้วครับ…ขอบคุณอีกครั้งครับ …วิโรจน์ ครับ