โกกิลชาดก


ว่าด้วย พูดในกาลที่ควรพูด

โกกิลชาดก

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]

ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑

๔. โกกิลวรรค

หมวดว่าด้วยลูกนกดุเหว่า

๑. โกกิลชาดก (จากพระไตรปิฎก ลำดับเรื่องที่ ๓๓๑)

ว่าด้วยลูกนกดุเหว่า

             (อำมาตย์แก้วโพธิสัตว์ ได้กราบทูลพระราชาว่า)

             [๑๒๑] ผู้ใดพูดเมื่อยังไม่ถึงเวลาพูด ก็พูดเกินเวลา ผู้นั้นจะถูกกำจัดนอนตายอยู่ เหมือนลูกนกดุเหว่า

             [๑๒๒] ธรรมดาศัสตราที่ลับจนคมดีแล้ว เหมือนยาพิษที่มีพิษร้ายแรงจะให้ตกไปในทันทีหาได้ไม่ เหมือนวาจาที่เป็นทุพภาษิต

             [๑๒๓] เพราะฉะนั้น บัณฑิตควรรักษาวาจาไว้ ทั้งในเวลาที่ควรพูดและไม่ควรพูด ไม่ควรพูดให้เกินเวลาแม้ในบุคคลผู้เสมอกับตน

             [๑๒๔] ส่วนผู้ใดมีความคิดเป็นเบื้องหน้า มีปัญญาเครื่องพิจารณา เห็นประจักษ์ พูดพอเหมาะกับกาลเวลา ผู้นั้นย่อมจับศัตรูทั้งหมดไว้ได้ดุจนกครุฑจับนาคได้

โกกิลชาดกที่ ๑ จบ

-------------------------

คำอธิบายเพิ่มเติมนำมาจากบางส่วนของอรรถกถา 

โกกาลิกชาดก

ว่าด้วย พูดในกาลที่ควรพูด

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภพระโกกาลิกะ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
               เรื่องปัจจุบันได้ให้พิสดารแล้วใน ตักการิยชาดก.
               ส่วนเรื่องในอดีตมีดังต่อไปนี้:-
               ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นอำมาตย์แก้วของพระเจ้าพาราณสีนั้น พระราชานั้นได้เป็นผู้มีพระดำรัสมาก พระโพธิสัตว์คิดว่าจักห้ามการตรัสมากของพระราชานั้น จึงเที่ยวคิดหาอุบายอย่างหนึ่ง.
               ครั้นวันหนึ่ง พระราชาเสด็จไปพระราชอุทยาน แล้วประทับนั่งบนแผ่นศิลาอันเป็นมงคล เบื้องบนแผ่นศิลานั้นมีมะม่วงอยู่ต้นหนึ่ง นางนกดุเหว่าวางฟองไข่ของตนไว้ในรังการังหนึ่ง ณ ต้นมะม่วงนั้น แล้วได้ไปเสีย. นางกาก็ประคบประหงมฟองไข่นกดุเหว่านั้น.
               จำเนียรกาลล่วงมา ลูกนกดุเหว่าก็ออกจากฟองไข่นั้น นางกาสำคัญว่าบุตรของเราจึงนำอาหารมาด้วยจะงอยปาก ปรนนิบัติลูกนกดุเหว่านั้น. ลูกนกดุเหว่านั้นขนปีกยังไม่งอกก็ส่งเสียงร้องเป็นเสียงดุเหว่า ในกาลอันไม่ควรร้องเลย. นางกาคิดว่า ลูกนกนี้มันร้องเป็นเสียงอื่นในบัดนี้ก่อน เมื่อโตขึ้นจักทำอย่างไร จึงตีด้วยจะงอยปากให้ตายตกไปจากรัง. ลูกนกดุเหว่านั้นตกลงใกล้พระบาทของพระราชา.
               พระราชารับสั่งถามพระโพธิสัตว์ว่า สหาย นี่อะไรกัน.
               พระโพธิสัตว์คิดว่า เราแสวงหาเรื่องเปรียบเทียบ เพื่อจะห้ามพระราชา บัดนี้ เราได้เรื่องเปรียบเทียบนี้แล้ว จึงกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช ขึ้นชื่อว่าคนปากกล้า พูดมากในกาลไม่ควรพูด ย่อมได้ทุกข์เห็นปานนี้ ข้าแต่มหาราช ลูกนกดุเหว่านี้เจริญเติบโตได้เพราะนางกา ปีกยังไม่ทันแข็งก็ร้องเป็นเสียงดุเหว่าในเวลาไม่ควรร้อง ทีนั้น นางการู้ลูกนกดุเหว่านั้นว่า นี้ไม่ใช่ลูกของเรา จึงตีด้วยจะงอยปากให้ตกลงมา จะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดียรัจฉานก็ตาม พูดมากในกาลไม่ควรพูด ย่อมได้ทุกข์เห็นปานนี้.
               แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า :-
               เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด ผู้ใดพูดเกินเวลาไป ผู้นั้นย่อมถูกทำร้าย ดุจลูกนกดุเหว่าฉะนั้น.
               มีดที่ลับคมกริบ ดุจยาพิษที่ร้ายแรง หาทำให้ตกไปทันทีทันใด เหมือนวาจาทุพภาษิตไม่.
               เพราะฉะนั้น บัณฑิตควรรักษาวาจาไว้ ทั้งในกาลที่ควรพูดและไม่ควร ไม่ควรพูดให้เกินเวลา แม้ในคนผู้เสมอกับตน.
               ผู้ใดมีความคิดเห็นเป็นเบื้องหน้า มีปัญญาเครื่องพิจารณาเห็นประจักษ์ พูดพอเหมาะในกาลที่ควรพูด ผู้นั้นย่อมจับศัตรูได้ทั้งหมด ดุจครุฑจับนาคได้ฉะนั้น.
               ท่านกล่าวอธิบายไว้ดังนี้ว่า ครุฑทำทะเลให้ปั่นป่วนแล้วยึด คือจับงูตัวมีขนาดใหญ่ ก็แลครั้นจับได้แล้ว ทันใดนั้นเอง ก็ยกหิ้วงูนั้นขึ้นสู่ต้นงิ้ว กินเนื้ออยู่ ฉันใด บุคคลผู้มีความคิดเกิดขึ้นก่อนเป็นเบื้องหน้า มีปัญญาเป็นเครื่องเห็นประจักษ์ กล่าวพอประมาณในกาลที่ควรกล่าว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมยึดคือจับพวกอมิตรทั้งหมดได้ คือทำให้อยู่ในอำนาจของตนได้.
               พระราชาทรงสดับธรรมเทศนาของพระโพธิสัตว์แล้ว
               ตั้งแต่นั้นมา ก็ได้มีพระดำรัสพอประมาณ และทรงปูนบำเหน็จยศ พระราชทานแก่พระโพธิสัตว์นั้นให้ใหญ่โตกว่าเดิม.
               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
               ลูกนกดุเหว่าในกาลนั้น ได้เป็น พระโกกาลิกะ
               ส่วนอำมาตย์ผู้เป็นบัณฑิตในครั้งนั้น ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.

               จบ อรรถกถาโกกาลิกชาดกที่ ๑               
               -----------------------------------------------------            

 

หมายเลขบันทึก: 719325เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2024 04:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน 2024 04:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท