ช่วงนี้เป็นช่วงพิธีรับปริญญาของหลายมหาวิทยาลัย ซึ่งสังเกตไม่ยากคือจะมีดอกไม้หลากสี ของขวัญนานาชนิด และล่าสุดมีพวงมาลัยเงินแบบเดียวกับแม่ยกมอบให้หมอลำ หรือนักร้องอะไรประมาณนี้
ผมคงไม่เขียนบทเขียนนี้ถ้าไม่มีข้อท้วงติง หรือดรามาว่า ‘ถ้านักศึกษาใส่ใจการเรียนเหมือนกับการรับปริญญาก็คงดี’ และบางคนอาจจะมองว่าเป็นการสิ้นเปลือง น่าจะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายตอนหางานทำดีกว่าไหม และอื่นๆ
แต่ผมเห็นต่างครับ ข้อแรกคือ ถ้าผู้สำเร็จการศึกษาเหล่านี้ไม่ตั้งใจเรียนก็คงไม่สำเร็จการศึกษา เพียงแต่การเรียนการสอนไม่มีพิธีกรรมแบบรับปริญญา
ประการต่อมาคือ การเรียนการสอนและคุณภาพการศึกษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งผู้สอน ผู้เรียน การบริหาร ผู้เรียน ผู้จ้างงาน และสังคมโดยรวม ถ้าจะติงเรื่องคุณภาพการศึกษา และบทสรุปคือ ปริญญาที่ได้รับแล้ว คงต้องดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายด้าน ดังตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว ส่วนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรับปริญญาอาจจะดูใหญ่โตและจริงจังอย่างที่เห็น ผมมองว่าอย่าง น้อยพิธีการและกิจกรรมเหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่นักศึกษาคาดหวังจะเป็นวันของตัวเองสักวันหนึ่ง
แปลว่าเรียนอย่างมีความหวังและความหมาย ซึ่งความหวังและความหมายนี่เองเป็นสิ่งกระตุ้นแรงขับให้มนุษย์สู้ต่อ และเมื่อไหร่ก็ตามถ้าคนเราไม่มีความหวังและความหมาย ทุกอย่างในโลกนี้จะเปลี่ยนไป ซึ่งถ้าไม่ีมีอะไรที่เป็นความหวังและความหมายในชีวิตเลยอาจจะรุนแรงถึงขนาดที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อเลยก็ได้
แต่ถ้าจะให้ดีก็คงต้องให้ความสำคัญทั้งพิธีการรับปริญญา และที่มาของปริญญา คือความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ หรือพูดโดยรวมก็คือสมรรถนะตามปริญญาที่เรียน และสำเร็จการศึกษาครับ
ขอแสดงความยินดีกับทุกคน และทุกความสำเร็จครับ
สมาน อัศวภูมิ
23 มีนาคม 2567
ไม่มีความเห็น