ฝึกฟังเสียงภายใน


 

ในหนังสือ โรงเรียนเป็นชุมชนเรียนรู้ ผมแนะนำให้ผู้อ่านตามไปอ่านเรื่อง การฟังในแบบพิเศษเหนือธรรมดา โดย ดร. นพ. บดินทร์ ทรัพย์สมบูรณ์    สร้างความปิติแก่ อ. หมอบดินทร์มาก    จึงมีการพูดคุยกันผ่าน อีเมล์    ผมจึงได้เรียนรู้จาก อ. หมอบดินทร์ จากข้อความต่อไปนี้ (ผมปรับปรุงนิดหน่อยให้อ่านเข้าใจได้ราบรื่น) 

ที่จริงแล้วเรื่องฟัง เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ human transformation (ภาษาในหนังสือของ อจ. self transformation - เปลี่ยนขาดตนเอง)    human transformation เกิดขึ้นเมื่อ ได้ยินเสียงที่ไม่เคยได้ยิน    คำว่า "เสียง" ที่จริงแล้วหมายถึง มุมมองที่มีต่อโลก  หรือ ความหมายที่เกิดขึ้นจากการตีความของสมอง (interpretation) 

สมอง (higher brain function) ทำงานตลอดเวลาตั้งแต่ CNS ได้พัฒนาขึ้น ในตัวอ่อนของครรภ์มารดา  และเรียนรู้เป็นทวีคูณเมื่อคลอดออกมา    มีการรับรู้ของ perception ทุก modality ที่เข้าสู่สมอง

ทุก perception จะถูกสมองตีความเป็นความหมาย (semantics) ขึ้นกับสังคมที่เด็กเติบโต shape ความหมายที่มีผ่านภาษา (language comprehension, knowledge acquisition & representation)

เมื่อ perception เดิมได้มีความหมายใหม่แทนที่ (unlearn old belief) มีมุมมองใหม่ในเรื่องเดิม  ก็จะเกิด self transformation    เรียกอีกอย่างว่า มองเห็น *จุดบอด* (อวิชชา)  เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เห็นว่า perception เดียวกันสามารถมีได้หลายความหมาย

คำถามว่า What is reality ?    และมีคำตอบว่า "ความจริงที่ประกอบสร้าง" (Constructed Reality) ที่สอนในวิชาการแสดง    เป็นความรู้และทักษะในระดับ meta cognition ที่การศึกษาทั่วไปเพื่อประกอบอาชีพ ไม่ได้สอนผู้เรียน

การฟังในระดับนี้ จะไม่ได้ reference ที่ตัวเอง (self) เพราะมีความเข้าใจแล้วว่า self/identity ก็มาจากการประกอบสร้างเช่นกัน 

การประกอบสร้างทางภาษา 

"ภาษาสร้างโลก ให้ฉันอยู่อาศัย"   The World I Live, by Hellen Keller https://www.thepeople.co/social/little-big/52173

การฟังที่ไม่ได้อ้างอิง self เป็นการฟังที่ปราศจากอคติ 100% จะรับรู้ทุกสิ่งที่เข้ามา ในมุมมองที่ neutral     ซึ่งเป็น skill ที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝน เพราะทำตรงข้ามกับที่สมองมนุษย์ถูกออกแบบมา

สมองมนุษย์ถูกออกแบบมาให้ฟัง เพิ่อเอาตัวรอด (survival) เป็นอันดับแรก การฟังที่มีความกลัวอยู่เบื้องหลัง  กลไกนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ง่าย เพราะ (สมอง) มนุษย์จะต่อต้าน

 

บทความที่เขียน "การฟังแบบพิเศษเหนือธรรมดา" เป็นเพียงส่วนแรก ยังมีรายละเอียดต่อ ที่เล่ามาข้างบนพอสังเขป แต่เขียนไม่ง่ายเลยครับ    ยิ่งเขียนให้คนที่มิได้ฝึกฝน reflection มามากพอ (reflection +  experience >>> unlearn) อาจจะทำให้เข้าใจผิดได้ เพราะการอ้างอิงแบบคนในสังคมทั่วไป

ผมบังเอิญได้ไปเรียนคอร์ส Communication ของฝรั่ง ที่สอนเรื่องเหล่านี้ เขาออกแบบวิธีสอนได้น่าสนใจมาก ไม่มีการศึกษาไทยสอน ตัวอย่างเช่น   สอน "ทฤษฎี" สั้นๆ แล้วให้เรามีประสบการณ์รับรู้ เช่น ให้จับคู่กับเพื่อนเรียน ท่องคำสอน ขณะที่มองหน้าเพื่อน

"ฉันเห็นเธอ ผู้สร้างฉัน ผู้สร้างเธอ"    ทำหลายๆหน ช้าๆ 

หลักการคือ การทำให้ผู้เรียนมีประการณ์ถึง การประกอบสร้างความจริง (Constructed Reality) 

แต่นี่เป็นเพียงท่อนสั้นๆ ที่สอนในระดับ Advanced Human Communication (ต้องเรียนขั้นพื้นฐานเป็น prerequisite)

ขอเล่าเพียงเท่านี้ก่อนครับ

บดินทร์

วิจารณ์ พานิช

๒๙ ม.ค. ๖๗

 

 

หมายเลขบันทึก: 717349เขียนเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2024 17:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2024 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท